โรสมีเดียฯ เคลื่อนพลบุกปีหนู แตกธุรกิจใหม่ ทีวีดาวเทียมกับสิ่งพิมพ์ ผนึกเน็กซ์สเต๊ปเปิดช่องทีวีดาวเทียม ประเดิม แก๊งค์การ์ตูนพลัส 3 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมรุกสิ่งพิมพ์ เปิดตัวหนังสือการ์ตูน “เซนชู” รายเดือน เปิดกว้างการ์ตูนทุกค่าย ปรับร้านโรสเป็น “แก๊งการ์ตูนชอป” นำร่อง 3 สาขา
นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด (ด้านการตลาด ค้าปลีก พัฒนาธุรกิจ) บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะรุกธุรกิจเต็มที่โดยเฉพาะทางด้านมีเดีย หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลักคือ คอนเท้นต์ ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลัก, มีเดีย, การจัดจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่ง, เมอร์ชันไดส์ไลเซนส์ โดยวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ปีนี้แยกตามไลเซ่นส์ดังนี้ ไลเซ่นส์ที่มาจากการ์ตูน 60% ไลเซ่นส์ที่มาจากมูฟวี่ 30% และอีก 10% มาจากวาไรตี้ คอนเท้นต์ เพลง จากรายได้รวมทั้งหมด
โดยล่าสุดกลุ่มมีเดีย ซึ่งมีแนวทางการตลาดคือ เป็นผู้ผลิตรายการเองกับนำลิขสิทธิ์ไปให้กับฟรีทีวีหรือเคเบิ้ลทีวี ซึ่งขณะนี้ได้แตกธุรกิจออกมาใหม่ 2 สายคือ ทีวีดาวเทียมและสิ่งพิมพ์ ซึ่งในส่วนของทีวีดาวเทียมนั้น หลังจากที่ได้เตรียมแผนงานมานาน ขณะนี้ บริษัทฯได้เข้าสู่ธุรกิจนี้เต็มตัวแล้ว โดยร่วมมือกับทางบริษัท เน็กซ์สเต๊ป ประเทศไทย จำกัด เปิดช่องทีวีดาวเทียม ชื่อว่า เน็กซ์สเต๊ปเทเลวิชั่น หรือ สถานีทีวีครอบครัว ออกอากาศทางทีวีดาวเทียม ผ่านดาวเทียมไทยคม ซึ่งทางเน็กซ์สเต๊ปได้ใบอนุญาติโดยตรงจากทางกรมประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ความรับผิดชอบของโรสฯคือ การออกอากาศการ์ตูนในรายการ แก๊งค์การ์ตูนพลัส เวลา 15.30 – 19.00 น. จันทร์-อาทิตย์ โดยนำเอาลิขสิทธิ์ของบริษัทฯที่มีอยู่ไปออกอากาศ ซึ่งจะเป็นการขยายช่องทางทีวีมากขึ้นจากเดิมมีเพียงแค่ ฟรีทีวี รายการแก๊งค์การ์ตูนไฟว์ ทางช่อง 5
สำหรับผู้ที่จะชมรายการได้นั้น จะต้องมีจานดาวเทียมซี-แบนด์ ซึ่งในประเทศไทย มีประมาณ 2 ล้านกว่าจาน และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ซึ่งมีสมาชิกรวมกันประมาณ 2.5 ล้านครัวเรือน
ส่วนอีกสายคือ สิ่งพิมพ์ โดยได้ออกหนังสือการ์ตูนชื่อว่า เซนชู (ZENSHU) เป็นรายเดือน เริ่มฉบับแรกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จำหน่ายราคา 55 บาท แต่จะมีของแถมมูลค่ามากกว่า 50 บาททุกเล่ม โดยให้เพ็ญบุญจัดจำหน่ายซึ่งเล่มแรกแถมสติ๊กเกอร์เคโรโระ เนื้อหาในหนังสือนี้ จะเกี่ยวกับข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ด้านการ์ตูนทั้งหมดทุกค่าย ไม่เฉพาะแค่ของโรสฯเท่านั้น และในอนาคตมีแผนที่จะทำเป็นการ์ตูนพ๊อกเก็ตบู๊คจำหน่ายอีกด้วย
“จุดประสงค์ที่เราทำทั้งสื่อทีวีและสื่อสิ่งพิมพ์ ก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในการขายโฆษณา และเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทฯเอง และเป็นการรองรับความต้องการของตลาดด้วย” นายจิรัฐกล่าว
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเปิดช่องทางจำหน่ายเกี่ยวกับการ์ตูนโดยเฉพาะ ด้วยการปรับร้านค้าปลีก โรส จำนวน 3 สาขา เริ่มแรกจากทั้งหมดที่มีมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ให้เป็นร้าน “แก๊งค์การ์ตูนชอป” อยู่ระหว่างการดำเนินการคือ สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ซึภ่งายในร้านจะเป็นศูนย์รวมสินค้าที่เกี่ยวกับการ์ตูนจากทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น วีซีดี ดีวีดี เพลง การ์ตูน หนังสือ เมอร์ชันไดซ์ต่างๆ
รวมไปถึงการเตรียมจัดอีเว้นท์ “แก๊งค์การ์ตูนเฟสติวัล” เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าของบริษัทฯและขายสินค้าไลเซ่นส์ต่างๆ โดยมีแผนจัดขึ้นไม่น้อยกว่า 3 ครั้งต่อปี ซึ่งมีการเจรจากับทางศูนย์การค้าต่างๆไว้แล้ว เช่น ที่ แฟชั่นไอส์แลนด์ เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เป็นต้น
ปัจจุบัน บริษัทฯคาดว่า บริษัทฯมีส่วนแบ่งทางด้านวีซีดี การ์ตูนอะนิเมชั่น รายใหญ่มากกว่า 50% เพราะมีลิขสิทธิ์ในมือมากมาย เช่นที่เป็นแบบออลไรท์ คือ เคโรโระ นารูตะ มาจิแรงเยอร์ เป็นต้น ส่วนโดราเอมอนนั้นได้ลิขสิทธิ์เฉพาะวีซีดีและโรงหนังเท่านั้น
นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด (ด้านการตลาด ค้าปลีก พัฒนาธุรกิจ) บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะรุกธุรกิจเต็มที่โดยเฉพาะทางด้านมีเดีย หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลักคือ คอนเท้นต์ ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลัก, มีเดีย, การจัดจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่ง, เมอร์ชันไดส์ไลเซนส์ โดยวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ปีนี้แยกตามไลเซ่นส์ดังนี้ ไลเซ่นส์ที่มาจากการ์ตูน 60% ไลเซ่นส์ที่มาจากมูฟวี่ 30% และอีก 10% มาจากวาไรตี้ คอนเท้นต์ เพลง จากรายได้รวมทั้งหมด
โดยล่าสุดกลุ่มมีเดีย ซึ่งมีแนวทางการตลาดคือ เป็นผู้ผลิตรายการเองกับนำลิขสิทธิ์ไปให้กับฟรีทีวีหรือเคเบิ้ลทีวี ซึ่งขณะนี้ได้แตกธุรกิจออกมาใหม่ 2 สายคือ ทีวีดาวเทียมและสิ่งพิมพ์ ซึ่งในส่วนของทีวีดาวเทียมนั้น หลังจากที่ได้เตรียมแผนงานมานาน ขณะนี้ บริษัทฯได้เข้าสู่ธุรกิจนี้เต็มตัวแล้ว โดยร่วมมือกับทางบริษัท เน็กซ์สเต๊ป ประเทศไทย จำกัด เปิดช่องทีวีดาวเทียม ชื่อว่า เน็กซ์สเต๊ปเทเลวิชั่น หรือ สถานีทีวีครอบครัว ออกอากาศทางทีวีดาวเทียม ผ่านดาวเทียมไทยคม ซึ่งทางเน็กซ์สเต๊ปได้ใบอนุญาติโดยตรงจากทางกรมประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ความรับผิดชอบของโรสฯคือ การออกอากาศการ์ตูนในรายการ แก๊งค์การ์ตูนพลัส เวลา 15.30 – 19.00 น. จันทร์-อาทิตย์ โดยนำเอาลิขสิทธิ์ของบริษัทฯที่มีอยู่ไปออกอากาศ ซึ่งจะเป็นการขยายช่องทางทีวีมากขึ้นจากเดิมมีเพียงแค่ ฟรีทีวี รายการแก๊งค์การ์ตูนไฟว์ ทางช่อง 5
สำหรับผู้ที่จะชมรายการได้นั้น จะต้องมีจานดาวเทียมซี-แบนด์ ซึ่งในประเทศไทย มีประมาณ 2 ล้านกว่าจาน และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ซึ่งมีสมาชิกรวมกันประมาณ 2.5 ล้านครัวเรือน
ส่วนอีกสายคือ สิ่งพิมพ์ โดยได้ออกหนังสือการ์ตูนชื่อว่า เซนชู (ZENSHU) เป็นรายเดือน เริ่มฉบับแรกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จำหน่ายราคา 55 บาท แต่จะมีของแถมมูลค่ามากกว่า 50 บาททุกเล่ม โดยให้เพ็ญบุญจัดจำหน่ายซึ่งเล่มแรกแถมสติ๊กเกอร์เคโรโระ เนื้อหาในหนังสือนี้ จะเกี่ยวกับข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ด้านการ์ตูนทั้งหมดทุกค่าย ไม่เฉพาะแค่ของโรสฯเท่านั้น และในอนาคตมีแผนที่จะทำเป็นการ์ตูนพ๊อกเก็ตบู๊คจำหน่ายอีกด้วย
“จุดประสงค์ที่เราทำทั้งสื่อทีวีและสื่อสิ่งพิมพ์ ก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในการขายโฆษณา และเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทฯเอง และเป็นการรองรับความต้องการของตลาดด้วย” นายจิรัฐกล่าว
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเปิดช่องทางจำหน่ายเกี่ยวกับการ์ตูนโดยเฉพาะ ด้วยการปรับร้านค้าปลีก โรส จำนวน 3 สาขา เริ่มแรกจากทั้งหมดที่มีมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ให้เป็นร้าน “แก๊งค์การ์ตูนชอป” อยู่ระหว่างการดำเนินการคือ สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ซึภ่งายในร้านจะเป็นศูนย์รวมสินค้าที่เกี่ยวกับการ์ตูนจากทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น วีซีดี ดีวีดี เพลง การ์ตูน หนังสือ เมอร์ชันไดซ์ต่างๆ
รวมไปถึงการเตรียมจัดอีเว้นท์ “แก๊งค์การ์ตูนเฟสติวัล” เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าของบริษัทฯและขายสินค้าไลเซ่นส์ต่างๆ โดยมีแผนจัดขึ้นไม่น้อยกว่า 3 ครั้งต่อปี ซึ่งมีการเจรจากับทางศูนย์การค้าต่างๆไว้แล้ว เช่น ที่ แฟชั่นไอส์แลนด์ เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เป็นต้น
ปัจจุบัน บริษัทฯคาดว่า บริษัทฯมีส่วนแบ่งทางด้านวีซีดี การ์ตูนอะนิเมชั่น รายใหญ่มากกว่า 50% เพราะมีลิขสิทธิ์ในมือมากมาย เช่นที่เป็นแบบออลไรท์ คือ เคโรโระ นารูตะ มาจิแรงเยอร์ เป็นต้น ส่วนโดราเอมอนนั้นได้ลิขสิทธิ์เฉพาะวีซีดีและโรงหนังเท่านั้น