“หมอเลี้ยบ” พร้อมรับตำแหน่ง รมว.คลัง หากมีคนในพรรคเสนอชื่อ ชี้ภาวะ ศก.ทรุด รับมือลำบาก อาจต้องขอคำชี้แนะจากลูกพี่ “แม้ว” ขณะที่มีเสียงยี้ออกมาจากภาคเอกชน ที่ต้องการมืออาชีพ-แก้ปัญหาด้วยกึ๋น ไม่ใช่มือใหม่ที่ยังต้องใช้พี่เลี้ยง เพราะปัญหาศก.ทรุดในปัจจุบัน มีความสลับซับซ้อน นอกจากนี้ ยังต้องมีบารมีเพียงพอด้วย
วันนี้ (22 ม.ค.) น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนเองมีความพร้อมหากได้รับเลือกจากพรรคให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยยอมรับว่า มีผู้เสนอชื่อให้เข้ามานั่งเก้าอี้ดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะมีข้อสรุปผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในคณะรัฐมนตรี เนื่องจากจะมีการหารือหลังจากได้ตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะทูลเกล้าฯ เสนอรายชื่อแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
“ถ้าได้รับมอบหมาย ถึงเวลาที่ต้องรับผิดชอบ ผมก็พร้อมที่จะทำ และเชื่อว่า ทำงานได้ ถึงจะมีคนสบประมาท ก็ไม่มีปัญหา ในสมัยที่ทำเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ตอนที่เป็น รมว.สาธารณสุข ก็ยังผ่านมาได้ แต่ผมก็ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีทีมงานที่ช่วยอยู่เบื้องหลัง”
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ได้มีการทาบทามคนนอกเข้ามาทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจ โดยอาจจะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.คลัง หรือตำแหน่ง รมช.คลัง
นพ.สุรพงศ์ ยอมรับว่า การหาคนมานั่งตำแหน่ง รมว.คลัง ในตอนนี้เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านกฎหมายที่ห้ามรับตำแหน่งในสถาบันการเงิน หรือบริษัทเอกชน หลังจากที่พ้นตำแหน่ง และบรรยากาศทางการเมืองตอนนี้ ทำให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถไม่ต้องการเข้ามาเปลืองตัว หรือกลัวว่าจะถูกเช็กบิลทีหลัง
นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า พรรคมีจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะเข้ามาเร่งรัดทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 6 เดือน โดยยอมรับว่าปัญหาขณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลกระทบมาจากภายนอกเป็นหลัก ทั้งปัญหาซับไพรม์ ราคาน้ำมัน และค่าเงินหยวน ขณะที่ในประเทศ ค่าเงินบาทยังมีปัญหา การส่งออกยังไม่ชัดเจนว่าจะเติบโตได้มากน้อยเพียงใด
นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ว่า หากตนเองได้รับตำแหน่งแล้ว ก็มีแนวคิดจะขอคำปรึกษางานด้านเศรษฐกิจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หากมีช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่มีความคิดนอกกรอบในการคิดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
“ถ้ามีโอกาสและเวลาที่เหมาะสมก็จะขอคำปรึกษางานด้านเศรษฐกิจจากอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะหลายครั้งที่ทำงานร่วมกันได้เห็นว่าท่านมีความคิดนอกกรอบที่นำมาใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ”
ขณะเดียวกัน บรรดานักธุรกิจ และนักลงทุน ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ หน้าตาทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่อย่างกว้างขวาง โดย นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า โผรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่คลอดออกมา โดยเฉพาะรายชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันบรรยากาศการลงทุน เพราะปรากฏรายชื่อของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์
“สำหรับข่าวที่ หมอเลี้ยบ จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง นั้น มองว่า ยังไม่ใช่บุคคลที่ตลาดทุนคาดหวัง และเชื่อมั่นในการเข้ามาบริหารงานด้านเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้จริง”
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนยังห่วงการจัดตั้งรัฐบาลผสม และขอให้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นภายใน 3-6 เดือน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่น ขณะนี้พบว่าการทาบทามคนนอกให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจยังมีปัญหา ในเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติที่เข้มงวดของรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้ผู้มีความรู้ความสามารถแวดวงธุรกิจ ต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเข้ามาดำรงตำแหน่ง
ส่วนกระแสข่าว นพ.สุรพงษ์ จะมาดำรงตำแหน่งขุนคลังนั้น ถ้าอยากเข้ามานั่งจริงๆ ก็ต้องใช้ทีมเศรษฐกิจที่ต้องเก่งระดับสุดยอดมากๆ เนื่องจาก นพ.สุรพงษ์ ยังไม่มีภาพบริหารการเงินการคลัง
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เห็นว่า ตำแหน่ง รมว.คลัง มีความสำคัญมากไม่น้อยกว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการหาบุคคลที่มีความเหมาะสมค่อนข้างยาก และมีข้อจำกัด แต่ส่วนตัวอยากให้บุคคลที่มีความเข้าใจเรื่องตลาดทุน เพราะตลาดทุนมีบทบาทสำคัญเป็นแหล่งระดมทุนให้กับนักธุรกิจ และเป็นแหล่งออมเงินของประชาชน
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. กล่าวว่า ให้น้ำหนักกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ถึงร้อยละ 75 เพราะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะนโยบายระดับรากหญ้า ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจจะต้องสรรหาบุคคลที่มีความสามารถ
นายสมหมาย ภาษี อดีต รมช.คลัง กล่าวภายหลังการเดินทางมาเยี่ยมข้าราชการกระทรวงการคลัง โดยระบุว่า ได้ฝากให้ข้าราชการกระทรวงการคลังประสานงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่เพื่อดำเนินโครงการต่างๆ ให้ดี และเชื่อว่า ทุกคนมีฝีมือการทำงานอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีปัญหา
“สำหรับสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ และขุนคลังคนใหม่เข้ามาบริหารงานด้านเศรษฐกิจนั้น ในภาพรวมแล้วมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่มีปัญหามากจนเกินไป ดังนั้น ในการทำงานของรัฐบาลต้องไม่ทะเลาะหรือขัดแย้งกันมากเกินไป เพราะจะหวังให้ รมว.คลัง คนเดียวมาแก้ไขคงไม่ได้ ต้องช่วยกันทำงานเป็นทีม เชื่อว่าก็น่าจะช่วยคลี่คลายเศรษฐกิจได้
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว รมว.คลัง มีความสำคัญมากกว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะจะมีบทบาทสำคัญในการดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ชะลอตัว ดังนั้น รมว.คลัง ต้องเป็นที่ยอมรับมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีบารมี และมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยต้องกล้าดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและประเทศ เพื่อประโยชน์ในระยะยาว ไม่ใช่ดำเนินเฉพาะนโยบายประชานิยมและที่สำคัญจะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์ และไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง