“นักวิชาการ” ทำนายรัฐบาล “หมัก” ไปเร็วแน่นอน หากยังประกาศเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าขนาดใหญ่โดยไม่สนใจเรื่องการศึกษา ชี้ชัดประชานิยมมีแต่ให้โทษ แฉทำ ปชช.เสียนิสัย-ประเทศชาติเสียหายยับเพราะหนี้เน่ากว่า 60 เปอร์เซ็นต์
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี คืนวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ เปิดประเด็นซักถามถึงนโยบายประชานิยมของพรรคพลังประชาชน โดยมีนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ นายชลวิทย์ เจียรจิตต์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และนายวิษณุ บุญมารัตน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ร่วมดำเนินรายการ
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเป็นห่วงมาโดยตลอดว่านโยบายประชานิยม ซึ่งทุกพรรคการเมืองนำเอามาใช้หาเสียง โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนที่ได้จัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลกระทบให้กับประเทศในระยะยาว ซึ่งถ้าทำนโยบายตามที่ประกาศไว้แบบไม่ระวัง ในอนาคตก็จะพังอย่างแน่นอน จึงอยากขอร้องว่าอยากให้ทำแบบยั่งยืน โดยไม่ต้องลด แลก แจก แถม เพราะจะทำให้ประชาชนเสียนิสัย
“อยากถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะใช้วิธีใดเพื่อดึงเงินในอนาคตมาใช้ทำโครงการรถไฟฟ้า และโครงการขนาดใหญ่ แล้วจะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้เพียงพอหรือไม่ โดยในสมัยที่ตนเป็น ส.ส. ได้แจ้งเตือนในข้อเท็จจริงเรื่องการทำรถไฟฟ้าในราคา 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะมีส่วนต่างอย่างมหาศาล”
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำงานไม่หวือหวานั้น นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นใจ พล.อ.สุรยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีชุดเก่า เพราะอายุอานามก็มาก และเป็นข้าราชการเก่า จึงเป็นสาเหตุให้การทำงานเกิดความล่าช้า แต่ตอนนี้น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะพรรคการเมืองแทบทุกพรรค ไม่คำนึงถึงประเทศในระยะยาวเรื่องการมุ่งเน้นที่จะทำเรื่องการศึกษา
ด้าน นายชลวิทย์ กล่าวว่า คนยากจนที่มีอยู่ในประเทศ มีอัตราเงินเดือนประมาณ 1,600 บาท ซึ่งพบว่ามีอยู่ประมาณ 15 ล้านคน โดยคนยากจนเหล่านี้ คือ เสียงของพรรคพลังประชาชนซึ่งมาจากภาคอีสาน และภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ เพราะนโยบายประชานิยมฝังลึกอยู่ในใจพวกเขาเหล่านั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่านโยบายประชานิยมมีโทษมากกว่ามีคุณ ที่สำคัญคือรัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายเร่งด่วนเรื่องการศึกษา
“รวมทั้งโครงการโคล้านตัวก็ควรล้ม เพราะวัวบ้านเราเป็นโคที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งหวยบนดินก็เป็นสิ่งที่สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้านละล้านนั้น ทำให้เกิดหนี้เน่าสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ จึงขอร้องว่าอย่าดูถูกประชาชนเรื่องการแต่งตั้ง ครม. โดยเฉพาะ รมว.คลัง ทำให้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับพรรคประชาธิปัตย์เรื่องความคิดที่จะเร่งพัฒนาการศึกษา” นายชลวิทย์ กล่าว
ขณะที่ นายวิษณุ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่วิตกเรื่องนโยบายประชานิยม เพราะสุดท้ายแล้วก็คือประชานิยม ซึ่งพรรคพลังประชาชนนำนโยบายดังกล่าวมาใช้ ก็เพื่อต้องการให้คนระดับล่างเชื่อง อาทิ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลจะเอาเงินมาจากไหน ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นเอารัฐวิสาหกิจไปขาย หรือไม่ก็ออกหวยบนดิน ดังนั้นวิกฤตของรัฐบาลชุดนี้จะมาเร็วกว่าในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บริหารประเทศ
“ดังนั้น การเมืองภาคสังคมจึงส่วนสำคัญมากที่จะมีส่วนร่วมกันในการกำหนดนโยบาย และมีอย่างเดียวที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ คนปัจจุบัน ไม่ให้ความสนใจกับนโยบายด้านการศึกษาแม้แต่น้อย หรืออาจจะเป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนอีสานเป็นคนงานก่อสร้างไปตลอดใช่หรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดควรจะเข้าไปแก้ไขนโยบายด้านการศึกษา เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเราเขาพัฒนาจนแซงหน้าไปเกือบหมดแล้ว” นายวิษณุ กล่าว