เผยว.ส.ท.ตรวจพบระบบป้องกันอัคคีภัยสนามบินสุวรรณภูมิต่ำกว่ามาตรฐาน ติดตั้งอุปกรณ์ไม่ครอบคลุม หลายพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟไหม้ เสนอรายงานการตรวจสอบพร้อมแนะแนวทางแก้ไขต่อบอร์ด ทอท.คาดเจรจาลดสัญญาล็อกซเล่ย์ยืดเยื้อ เหตุขอค่าจ้างเท่าเดิม
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่มี พลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน วันนี้ (17 ม.ค.) จะมีการรายงานการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์(ว.ส.ท.) ที่มี นายมงคล วิสุทธิใจ เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งได้สรุปปัญหาที่ตรวจพบ พร้อมข้อเสนอแนะและแนวทางในการแก้ไข โดยพบว่า การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ หลายพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้และไฟฟ้าลัดวงจร เพราะมีการดัดแปลงพื้นที่ใช้สอย ทำให้ทางหนีไฟลดลง และมีสิ่งกีดขวางในเส้นทางหนีไฟ
จากรายงานผลการตรวจสอบภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารสะพานเทียบเครื่องบินในส่วนที่เป็นพื้นที่โครงสร้างงานระบบสาธารณูปโภคหลักของอาคาร ที่ให้บริการกับผู้ใช้อาคาร ที่เกิดจากการบริหารจัดการไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ โดยการตรวจสอบจะเน้นที่ห้องควบคุมเส้นทางเดินท่อ และสานไฟฟ้าควบคุมระบบต่างๆ ทางเดินอาคารและโถงของอาคารส่วนกลาง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ตรวจระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบที่เกี่ยวข้อง 2.ตรวจระบบดับเพลิงด้วยน้ำและระบบดับเพลิงอัตโนมัติอื่นๆ และ 3.สภาพระบายอากาศออกจากอาคาร
ในการตรวจสอบระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ พบว่า บางพื้นที่ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควัน หรือตรวจจับความร้อน เช่น ห้องไฟฟ้าบางห้อง โถงทางเดินรอบช่องเปิด และพื้นที่ปิดกั้นเส้นทางหนีไฟบางแห่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้
ส่วนอุปกรณ์ตรวจควันที่ติดตั้งส่วนใหญ่ ไม่ได้มาตรฐาน มีการติดตั้งบนท่อร้อยสายไฟ รางสาย ไฟกล่องต่อสายไฟ และปล่องระบบปรับอากาศเป็นจำนวนมาก ทำให้การตรวจจับควันทำได้ช้า เพราะอุปกรณ์ถูกปิดบัง และยากต่อการบำรุงรักษา ส่วนสวิตช์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือมีจำนวนน้อยกว่ามาตรฐานที่กำหนดว่า ต้องติดตั้งทุกระยะ 60 เมตรตาม แนวทางเดิน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ชุดควบคุมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบดับเพลิงอัตโนมัติหลายชุด มีการแสดงภาวะแจ้งเหตุและความขัดข้อง แต่ไม่มีการแก้ไข ส่วนป้ายหนีไฟส่วนมากไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีไฟส่องสว่างบางส่วนใช้ป้ายอเนกประสงค์ที่แสดงทางไปห้องสุขา และทางหนีไฟ ทำให้เกิดความสับสน เพราะลูกศรชี้ต่างทิศ อุปกรณ์ประเภทสวิตช์ไฟเต้ารับไฟฟ้ามีสภาพไม่คงทนแตกหักง่าย เป็นอันตรายอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ ส่วนงานระบบเดินสายไฟฟ้าส่วนมากไม่ได้มาตรฐานบางพื้นที่ติดตั้งสายดินไม่สมบูรณ์ในพื้นที่ห้องไฟฟ้ายังพบน้ำรั่วซึม และมีน้ำรั่วซึมหยดลงแผงควบคุม ในขณะที่พื้นที่ควบคุมหลายแห่งถูกแปรสภาพเป็นที่เก็บสำรองวัสดุและเป็นที่พักอาศัย
ส่วนระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบระบายอากาศ และควบคุมควันไฟ พบว่า มีการเดินท่อของงานระบบต่างๆ เพิ่มจากระบบที่มีอยู่เดิม จึงมีผลต่อการวางระบบป้องกันอัคคีภัย หากไม่แก้ไขจะมีผลทำให้ไม่สามารถฉีดพ่นน้ำครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีฉีดน้ำได้ ส่วนการติดตั้งหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติบางส่วน ไม่ได้มาตรฐานบางพื้นที่ไม่พบว่ามีการติดตั้ง เช่น บริเวณพื้นที่ใต้บันไดเลื่อน ห้องเครื่องไฟฟ้าบางห้อง เคาน์เตอร์สายการบิน โถงอาคาร และโถงสู่ห้องบัน ไดหนีไฟ เป็นต้น
รวมทั้งยังพบว่าระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยน้ำและระบบท่อน้ำบางส่วนชำรุด แต่ไม่มีการแก้ไข บางส่วนถูกตัดตอนเปลี่ยนสภาพการใช้งานของพื้นที่ ทำให้น้ำรั่วซึมออกกจากระบบดับเพลิง มีการติดตั้งเครื่องดับเพลิงมือถือที่ไม่สามารถใช้งานได้เหมาะสมกับสภาพจริง การติดตั้งระบบดับเพลิงด้วยหัวกระจายน้ำไม่ครอบคลุมบริเวณสายพานลำเลียงกระเป๋า
การตรวจสอบลักษณะอาคารป้องกันอัคคีภัย พบว่า มีการปรับเปลี่ยนการใช้งานโดยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ทำให้จำนวนทางหนีไฟลดลง เส้นทางหนีไฟถูกผนวกรวมกับพื้นที่ร้านค้าช่วงกว้างไม่ได้มาตรฐาน บางเส้นทางคดเคี้ยว บางแห่งมีการใช้ผิวทางโลหะเป็นอันตรายหากเปียกลื่นช่องบันไฟลงสู่ประตูห้องบันไดหนีไฟไม่มีการป้องกันควันหรือการลามของไฟได้ ไม่มีการติดตั้งระบบดับเพลิงหัวกระจายน้ำอัตโนมัติ ประตูหนีไฟหลายแห่งมีสิ่งกีดขวางตู้สายดับเพลิงถูกย้ายมาอยู่ในเส้นทางหนีไฟเป็นอุปสรรคในการใช้งานและมีอุปกรณ์ไม่ครบ บางจุดอยู่ในพื้นที่เช่าไม่สามารถเปิดใช้งานได้
ซึ่งในรายงานยังระบุด้วยว่า ศาลาทรงไทยบริเวณกลางทางแยก ยังเป็นอุปสรรคต่อการระบายควัน เพราะพัดลมดูดอากาศระบายควันจะอยู่ด้านบน ส่วนงานศิลป์นารายณ์กวนเกษียรสมุทร และร้านอาหารกลางทางเดินในอาคาร Concourse D ยังปิดกั้นเส้นทางหนีไฟในการอพยพ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ที่มี AHU มีการใช้วัสดุที่ติดและลามไฟได้สร้างเป็นผนังชิดเพดานเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟลามได้เร็ว และมีการจัดตู้พักสินค้ารอจำหน่ายประเภทน้ำหอมและเครื่องสำอางที่แปรสภาพเป็นเชื้อเพลิงได้ ที่ซ่อนหลังแผงไฟป้ายโฆษณาสินค้า ผนังกั้นร้านค้าใช้วัสดุที่ติดไฟและลามไฟได้ เช่น ไม้อัด กระดาษอัด เป็นต้น
ส่วนพื้นทางหนีไฟในอุโมงค์ใต้อาคารมีขยะเชื้อเพลิง และสิ่งของกีดขวางและเป็นพื้นผิวทางที่ลื่นจากน้ำและน้ำมันที่ไหลจากด้านบนเป็นอันตรายต่อการอพยพบริเวณแยกในอุโมงค์ไม่มีป้ายบอกทางออกหนีไฟ และไม่มีไฟที่ส่องสว่างเพียงพอ และเส้นทางหนีไฟในอุโมงค์บางช่วงมีคานเหล็กอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีแถบสีสะท้อนแสงส่วนประตูทางหนีไฟขึ้นอุโมงค์ชั้นใต้ดินถูกปิดและกั้นด้วยเหล็ก ไม่พร้อมสำหรับการอพยพผู้คนจำนวนมาก ต้องใช้เวลาในการเปิดประตูนานกกว่ามาตรฐานกำหนดบางประตูเปิดไม่ได้
สำหรับข้อเสนอและแนวทางการแก้ไขจะต้องปรับปรุงงานติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้ได้มาตรฐานติดตั้งอุปกรณ์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ติดตั้งสวิตช์แจ้งเหตุด้วยมือเพิ่มให้มาตรฐานสำรวจระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบควบคุมดับเพลิงอัตโนมัติ และแก้ไขเพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติและต้องมีการทดสอบระบบการทำงานมีการปรับตำแหน่งติดตั้งแผงควบคุมให้เข้าถึงเพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษา ปรับตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดลำแสงให้ชุดส่งและรับลำแสงพ้นสิ่งกีดขวาง
แก้ไขการติดตั้งหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติให้ได้มาตรฐานปรับปรุงการติดตั้งเดินสายไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าในท่อร้อยสายในทุกพื้นที่เพิ่มแสงสว่างในเส้นทางหนีไฟแก้ไขป้ายใช้แบบที่ไฟส่องจากป้ายและติดตั้งป้ายแยกระหว่างทางไปห้องน้ำและทางหนีไฟออกจากกัน
ส่วนข้อเสนอแนะเพื่อการป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยนั้น ทาง ว.ส.ท.เสนอให้ใช้แม่เหล็กไฟฟ้าล็อกประตูหนีไฟแทนการใช้กุญแจคล้องนำสิ่งกีดขวางพ้นจากทางเข้าออก และเส้นทางทางหนีไฟทุกแห่งซ่อมประตูห้องโถงทุกพื้นที่ให้สามารถสกัดควันไม่ให้ไฟลามได้ ปรับปรุงทางลาดและเพิ่มราวจับตามมาตรฐานเพิ่มเส้นทางหนีไฟ สำหรับผู้พิการ ผู้เจ็บและคนชราลดปริมาณวัสดุตกแต่งที่ติดไฟง่าย ติดตั้งระบบกระจายเสียงในเส้นทางหนีไฟ ติดตั้งระบบปลดม่านที่ทนไฟไม่น้อยกว่า 1 ชม.หรือใช้การพ่นน้ำดับเพลิงแบบม่านน้ำ รวมทั้งหามาตรการป้องกันการพัดพาควันไปลามออกนอกพื้นที่ และต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ทุกส่วนเมื่อเกิดเหตุขึ้นนี้
**** ล็อกซเล่ย์ยันคงอัตราค่าจ้างเท่าเดิม
แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า จะมีการรายงานความคืบเรื่องเงินค้าจ้างเนื่องจากการปรับลดระยะเวลาของสัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอซีทีเอส ซึ่งเป็นนโยบายของคณะกรรมการ ทอท.ที่ให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ โดยมี นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงินของ ทอท.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานได้ทำหนังสือถึงกลุ่มล็อกซเล่ย์ฯให้เสนอราคาปรับลดอายุสัญญาพร้อมระบุรายละเอียดที่ชัดเจน
ปรากฏว่า ทางกลุ่มล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือตอบกลับแจ้งยืนยันการลดระยะเวลาการจ้างจาก 10 ปี เหลือ 5 ปี โดยคิดอัตราค่าจ้างต่อเดือนงวดละ 45,162,917 บาท รวมเป็นเงิน 2,709,775,020 บาท และขอให้พิจารณากำหนดราคาจ้างในส่วนเพิ่มเติมที่สอดคล้องและชดเชยกับระยะเวลาที่ปรับลดด้วย และได้มีการนัดประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2550 สรุปว่าทางผู้แทนกลุ่มล็อกซเล่ย์ รับว่า จะต้องนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมผู้ถือหุ้นคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาซึ่งจะต้องรอหลังผ่านพ้นช่วงปีใหม่
แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งคำตอบจากกลุ่มล็อกซเล่ย์ แต่มีการยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะคิดอัตราค่าจ้างในอัตราเดิม ในขณะที่คณะกรรมกรรมการตรวจสอบของ ทอท.ที่มี นายนนทพล นิ่มสมบุญ เป็นประธานได้ตั้งข้อสังเกตว่าจะต้องพิจารณาปรับลดเงินค่าจ้างลงด้วยโดยให้พิจารณาตามมูลค่างานจริงเพื่อมิให้ ทอท.เสียผลประโยชน์ด้วย ทำให้การเจรจาอาจยืดเยื้อไม่สามารถหาข้อยุติได้ และอาจเสนอให้บอร์ด ทอท.ตัดสินใจ
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่มี พลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน วันนี้ (17 ม.ค.) จะมีการรายงานการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์(ว.ส.ท.) ที่มี นายมงคล วิสุทธิใจ เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งได้สรุปปัญหาที่ตรวจพบ พร้อมข้อเสนอแนะและแนวทางในการแก้ไข โดยพบว่า การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ หลายพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้และไฟฟ้าลัดวงจร เพราะมีการดัดแปลงพื้นที่ใช้สอย ทำให้ทางหนีไฟลดลง และมีสิ่งกีดขวางในเส้นทางหนีไฟ
จากรายงานผลการตรวจสอบภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารสะพานเทียบเครื่องบินในส่วนที่เป็นพื้นที่โครงสร้างงานระบบสาธารณูปโภคหลักของอาคาร ที่ให้บริการกับผู้ใช้อาคาร ที่เกิดจากการบริหารจัดการไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ โดยการตรวจสอบจะเน้นที่ห้องควบคุมเส้นทางเดินท่อ และสานไฟฟ้าควบคุมระบบต่างๆ ทางเดินอาคารและโถงของอาคารส่วนกลาง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ตรวจระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบที่เกี่ยวข้อง 2.ตรวจระบบดับเพลิงด้วยน้ำและระบบดับเพลิงอัตโนมัติอื่นๆ และ 3.สภาพระบายอากาศออกจากอาคาร
ในการตรวจสอบระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ พบว่า บางพื้นที่ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควัน หรือตรวจจับความร้อน เช่น ห้องไฟฟ้าบางห้อง โถงทางเดินรอบช่องเปิด และพื้นที่ปิดกั้นเส้นทางหนีไฟบางแห่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้
ส่วนอุปกรณ์ตรวจควันที่ติดตั้งส่วนใหญ่ ไม่ได้มาตรฐาน มีการติดตั้งบนท่อร้อยสายไฟ รางสาย ไฟกล่องต่อสายไฟ และปล่องระบบปรับอากาศเป็นจำนวนมาก ทำให้การตรวจจับควันทำได้ช้า เพราะอุปกรณ์ถูกปิดบัง และยากต่อการบำรุงรักษา ส่วนสวิตช์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือมีจำนวนน้อยกว่ามาตรฐานที่กำหนดว่า ต้องติดตั้งทุกระยะ 60 เมตรตาม แนวทางเดิน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ชุดควบคุมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบดับเพลิงอัตโนมัติหลายชุด มีการแสดงภาวะแจ้งเหตุและความขัดข้อง แต่ไม่มีการแก้ไข ส่วนป้ายหนีไฟส่วนมากไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีไฟส่องสว่างบางส่วนใช้ป้ายอเนกประสงค์ที่แสดงทางไปห้องสุขา และทางหนีไฟ ทำให้เกิดความสับสน เพราะลูกศรชี้ต่างทิศ อุปกรณ์ประเภทสวิตช์ไฟเต้ารับไฟฟ้ามีสภาพไม่คงทนแตกหักง่าย เป็นอันตรายอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ ส่วนงานระบบเดินสายไฟฟ้าส่วนมากไม่ได้มาตรฐานบางพื้นที่ติดตั้งสายดินไม่สมบูรณ์ในพื้นที่ห้องไฟฟ้ายังพบน้ำรั่วซึม และมีน้ำรั่วซึมหยดลงแผงควบคุม ในขณะที่พื้นที่ควบคุมหลายแห่งถูกแปรสภาพเป็นที่เก็บสำรองวัสดุและเป็นที่พักอาศัย
ส่วนระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบระบายอากาศ และควบคุมควันไฟ พบว่า มีการเดินท่อของงานระบบต่างๆ เพิ่มจากระบบที่มีอยู่เดิม จึงมีผลต่อการวางระบบป้องกันอัคคีภัย หากไม่แก้ไขจะมีผลทำให้ไม่สามารถฉีดพ่นน้ำครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีฉีดน้ำได้ ส่วนการติดตั้งหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติบางส่วน ไม่ได้มาตรฐานบางพื้นที่ไม่พบว่ามีการติดตั้ง เช่น บริเวณพื้นที่ใต้บันไดเลื่อน ห้องเครื่องไฟฟ้าบางห้อง เคาน์เตอร์สายการบิน โถงอาคาร และโถงสู่ห้องบัน ไดหนีไฟ เป็นต้น
รวมทั้งยังพบว่าระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยน้ำและระบบท่อน้ำบางส่วนชำรุด แต่ไม่มีการแก้ไข บางส่วนถูกตัดตอนเปลี่ยนสภาพการใช้งานของพื้นที่ ทำให้น้ำรั่วซึมออกกจากระบบดับเพลิง มีการติดตั้งเครื่องดับเพลิงมือถือที่ไม่สามารถใช้งานได้เหมาะสมกับสภาพจริง การติดตั้งระบบดับเพลิงด้วยหัวกระจายน้ำไม่ครอบคลุมบริเวณสายพานลำเลียงกระเป๋า
การตรวจสอบลักษณะอาคารป้องกันอัคคีภัย พบว่า มีการปรับเปลี่ยนการใช้งานโดยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ทำให้จำนวนทางหนีไฟลดลง เส้นทางหนีไฟถูกผนวกรวมกับพื้นที่ร้านค้าช่วงกว้างไม่ได้มาตรฐาน บางเส้นทางคดเคี้ยว บางแห่งมีการใช้ผิวทางโลหะเป็นอันตรายหากเปียกลื่นช่องบันไฟลงสู่ประตูห้องบันไดหนีไฟไม่มีการป้องกันควันหรือการลามของไฟได้ ไม่มีการติดตั้งระบบดับเพลิงหัวกระจายน้ำอัตโนมัติ ประตูหนีไฟหลายแห่งมีสิ่งกีดขวางตู้สายดับเพลิงถูกย้ายมาอยู่ในเส้นทางหนีไฟเป็นอุปสรรคในการใช้งานและมีอุปกรณ์ไม่ครบ บางจุดอยู่ในพื้นที่เช่าไม่สามารถเปิดใช้งานได้
ซึ่งในรายงานยังระบุด้วยว่า ศาลาทรงไทยบริเวณกลางทางแยก ยังเป็นอุปสรรคต่อการระบายควัน เพราะพัดลมดูดอากาศระบายควันจะอยู่ด้านบน ส่วนงานศิลป์นารายณ์กวนเกษียรสมุทร และร้านอาหารกลางทางเดินในอาคาร Concourse D ยังปิดกั้นเส้นทางหนีไฟในการอพยพ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ที่มี AHU มีการใช้วัสดุที่ติดและลามไฟได้สร้างเป็นผนังชิดเพดานเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟลามได้เร็ว และมีการจัดตู้พักสินค้ารอจำหน่ายประเภทน้ำหอมและเครื่องสำอางที่แปรสภาพเป็นเชื้อเพลิงได้ ที่ซ่อนหลังแผงไฟป้ายโฆษณาสินค้า ผนังกั้นร้านค้าใช้วัสดุที่ติดไฟและลามไฟได้ เช่น ไม้อัด กระดาษอัด เป็นต้น
ส่วนพื้นทางหนีไฟในอุโมงค์ใต้อาคารมีขยะเชื้อเพลิง และสิ่งของกีดขวางและเป็นพื้นผิวทางที่ลื่นจากน้ำและน้ำมันที่ไหลจากด้านบนเป็นอันตรายต่อการอพยพบริเวณแยกในอุโมงค์ไม่มีป้ายบอกทางออกหนีไฟ และไม่มีไฟที่ส่องสว่างเพียงพอ และเส้นทางหนีไฟในอุโมงค์บางช่วงมีคานเหล็กอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีแถบสีสะท้อนแสงส่วนประตูทางหนีไฟขึ้นอุโมงค์ชั้นใต้ดินถูกปิดและกั้นด้วยเหล็ก ไม่พร้อมสำหรับการอพยพผู้คนจำนวนมาก ต้องใช้เวลาในการเปิดประตูนานกกว่ามาตรฐานกำหนดบางประตูเปิดไม่ได้
สำหรับข้อเสนอและแนวทางการแก้ไขจะต้องปรับปรุงงานติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้ได้มาตรฐานติดตั้งอุปกรณ์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ติดตั้งสวิตช์แจ้งเหตุด้วยมือเพิ่มให้มาตรฐานสำรวจระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบควบคุมดับเพลิงอัตโนมัติ และแก้ไขเพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติและต้องมีการทดสอบระบบการทำงานมีการปรับตำแหน่งติดตั้งแผงควบคุมให้เข้าถึงเพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษา ปรับตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดลำแสงให้ชุดส่งและรับลำแสงพ้นสิ่งกีดขวาง
แก้ไขการติดตั้งหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติให้ได้มาตรฐานปรับปรุงการติดตั้งเดินสายไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าในท่อร้อยสายในทุกพื้นที่เพิ่มแสงสว่างในเส้นทางหนีไฟแก้ไขป้ายใช้แบบที่ไฟส่องจากป้ายและติดตั้งป้ายแยกระหว่างทางไปห้องน้ำและทางหนีไฟออกจากกัน
ส่วนข้อเสนอแนะเพื่อการป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยนั้น ทาง ว.ส.ท.เสนอให้ใช้แม่เหล็กไฟฟ้าล็อกประตูหนีไฟแทนการใช้กุญแจคล้องนำสิ่งกีดขวางพ้นจากทางเข้าออก และเส้นทางทางหนีไฟทุกแห่งซ่อมประตูห้องโถงทุกพื้นที่ให้สามารถสกัดควันไม่ให้ไฟลามได้ ปรับปรุงทางลาดและเพิ่มราวจับตามมาตรฐานเพิ่มเส้นทางหนีไฟ สำหรับผู้พิการ ผู้เจ็บและคนชราลดปริมาณวัสดุตกแต่งที่ติดไฟง่าย ติดตั้งระบบกระจายเสียงในเส้นทางหนีไฟ ติดตั้งระบบปลดม่านที่ทนไฟไม่น้อยกว่า 1 ชม.หรือใช้การพ่นน้ำดับเพลิงแบบม่านน้ำ รวมทั้งหามาตรการป้องกันการพัดพาควันไปลามออกนอกพื้นที่ และต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ทุกส่วนเมื่อเกิดเหตุขึ้นนี้
**** ล็อกซเล่ย์ยันคงอัตราค่าจ้างเท่าเดิม
แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า จะมีการรายงานความคืบเรื่องเงินค้าจ้างเนื่องจากการปรับลดระยะเวลาของสัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอซีทีเอส ซึ่งเป็นนโยบายของคณะกรรมการ ทอท.ที่ให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ โดยมี นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงินของ ทอท.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานได้ทำหนังสือถึงกลุ่มล็อกซเล่ย์ฯให้เสนอราคาปรับลดอายุสัญญาพร้อมระบุรายละเอียดที่ชัดเจน
ปรากฏว่า ทางกลุ่มล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือตอบกลับแจ้งยืนยันการลดระยะเวลาการจ้างจาก 10 ปี เหลือ 5 ปี โดยคิดอัตราค่าจ้างต่อเดือนงวดละ 45,162,917 บาท รวมเป็นเงิน 2,709,775,020 บาท และขอให้พิจารณากำหนดราคาจ้างในส่วนเพิ่มเติมที่สอดคล้องและชดเชยกับระยะเวลาที่ปรับลดด้วย และได้มีการนัดประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2550 สรุปว่าทางผู้แทนกลุ่มล็อกซเล่ย์ รับว่า จะต้องนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมผู้ถือหุ้นคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาซึ่งจะต้องรอหลังผ่านพ้นช่วงปีใหม่
แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งคำตอบจากกลุ่มล็อกซเล่ย์ แต่มีการยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะคิดอัตราค่าจ้างในอัตราเดิม ในขณะที่คณะกรรมกรรมการตรวจสอบของ ทอท.ที่มี นายนนทพล นิ่มสมบุญ เป็นประธานได้ตั้งข้อสังเกตว่าจะต้องพิจารณาปรับลดเงินค่าจ้างลงด้วยโดยให้พิจารณาตามมูลค่างานจริงเพื่อมิให้ ทอท.เสียผลประโยชน์ด้วย ทำให้การเจรจาอาจยืดเยื้อไม่สามารถหาข้อยุติได้ และอาจเสนอให้บอร์ด ทอท.ตัดสินใจ