ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) และทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเวเนซุเอลา หลังยามชายฝั่งอเมริกาพยายามสกัดเรือบรรทุกน้ำมันลำที่ 3 ในน่านน้ำสากลใกล้กับประเทศแถบอเมริกาใต้แห่งนี้ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ยามชายฝั่งสหรัฐฯพยายามสกัดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งในวันอาทิตย์(21ธ.ค.) ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของเวเนซุเอลา ที่หาทางหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการสกัดเรือครั้งที่ 3 ในรอบไม่กี่สัปดาห์ การไล่ล่าดังกล่าวมีขึ้นตามหลังประธานาธิบธีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร ไม่ให้เข้าและออกจากเวเนซุเอลา
จิโอวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์จากยูบีเอส กล่าวว่าพวกนักลงทุนมองเห็นความเสี่ยงเกี่ยวกับความปั่นป่วนที่จะเกิดขึ้นกับการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา อันเนื่องจากมาตรการปิดล้อมของสหรัฐฯ และปัจจัยนี้เองที่ผลักราคาน้ำมันให้ดีดตัวขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างเวเนซุเอลากับสหรัฐฯ ยังทำให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันจันทร์(22ธ.ค.) พุ่งขึ้นเกือบ 2% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.90 % ปิดที่ 4,469.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งแรงในวันจันทร์(22ธ.ค.) ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกลุ่มเทคโนโลยี
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 227.79 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 48,362.68 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 43.99 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,878.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 121.21 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,428.83 จุด
ความเคลื่อนไหวในแดนบวก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว และได้รับแรงขับเคลื่อนจากการประมาณการผลประกอบการของ Micron Technology และรายงานเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงเกินคาด
หุ้นของ เอ็นวิเดีย เพิ่มขึ้น 1.2% ถือเป็นตัวหนุใหญ่สุดของเอสแอนด์พี 500 หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าทางบริษัทได้แจ้งกับบรรดาลูกค้าชาวจีน ว่าพวกเขามีเป้าหมายเริ่มส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ทรงพลังที่สุดอันดับ 2 ของบริษัท ไปยังจีน ก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
(ที่มา:รอยเตอร์)


