ราคาน้ำมันขยับลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ในวันอังคาร(16ธ.ค.) ท่ามกลางความกังวลอุปทานล้นตลาด และแนวโน้มข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำปรับลด จากข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆนานา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สหรัฐฯนำเสนอการมอบคำรับประกันด้านความมั่นคงในรูปแบบนาโตแก่ยูเครน และคณะผู้แทนเจรจายุโรปรายงานถึงความคืบหน้าในการพูดคุยในวันจันทร์(15ธ.ค.) โหมกระพือมุมมองในแง่บวกว่าจุดจบของสงครามใกล้มาถึงแล้ว
จานิฟ ชาห์ นักวิเคราะห์จากไรสตัด กล่าวว่า "เบรนท์ร่วงลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตลาดประเมินความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งผลลัพธ์ของมันก็คือการเพิ่มเติมปริมาณน้ำมันรัสเซียเข้าสู่ตลาดและยิ่งทำให้อุปทานล้นตลาดมากขึ้น"
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันอังคาร(16ธ.ค.) นักลงทุนประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆนานา เพื่อทบทวนความเป็นไปได้ของแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) สำหรับปีหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 302.30 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 48,114.26 เอสแอนด์พี ลดลง 16.25 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,800.26 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 54.05 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,111.46 จุด
กระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 64,000 อัตราในเดือพฤศจิกายน หลังจากลดลงในเดือนตุลาคม สืบเนื่องจากรัฐบาลลดการใช้จ่าย อย่างไรก็ตามตัวเลขคนว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อันเนื่องจากนโยบายการค้าแนวก้าวร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ในรายงานแยกกันที่เผยแพร่ในวันอังคาร(16ธ.ค.) ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนตุลาคม ต่ำกว่าที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขนี้จะบิดเบือนไปจากความจริง ผลจากการรวบรวมข้อมูลล่าช้าสืบเนื่องจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล
ส่วนราคาทองคำปิดในกรอบแคบๆในวันอังคาร(16ธ.ค.) นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงานและตัวเลขคนว่างงานของสหรัฐฯ สำหรับแนวโน้มความเคลื่อนไหวด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 0.10 % ปิดที่ 4,332.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)


