ทรัมป์ออกมาวิจารณ์เซเลนสกี้ “ไม่ได้อ่าน” ข้อเสนอสันติภาพที่อเมริกาจัดทำขึ้นเพื่อยุติสงครามในยูเครน ขณะที่ทางด้านเครมลินยกย่องชมเชยยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่ของวอชิงตันสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ พร้อมแสดงความหวังว่า มันจะนำไปสู่การร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ยิ่งเพื่อคลี่คลายวิกฤตยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แสดงท่าทีในทางลบต่อ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ภายหลังคณะเจรจาของอเมริกาและยูเครนเสร็จสิ้นการหารือกันเป็นเวลา 3 วันเมื่อวันเสาร์ (6 ธ.ค.) ที่รัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายในการลดทอนประเด็นที่เห็นต่างกันเกี่ยวกับข้อเสนอสันติภาพของอเมริกา ต่อมาระหว่างการพูดคุยกับพวกผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ (7) ทรัมป์ถึงกับออกปากเป็นทำนองว่า เซเลนสกี้กำลังขัดขวางความคืบหน้าในการเจรจา
“ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ยังไม่ได้อ่านข้อเสนอนี้ นี่นับจนกระทั่งถึงเมื่อสักสองสามชั่วโมงที่ผ่านมานะ คนของเขาชอบข้อเสนอนี้ แต่เขานะไม่ – ทางรัสเซียก็พอใจกับข้อเสนอนี้นะ” ทรัมป์กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวขณะยืนอยู่บนพรมแดงในงานแจกรางวัลของศูนย์เคนเนดี้เซนเตอร์ ที่กรุงวอชิงตัน “รัสเซียเห็นดีด้วย ผมเชื่อ พวกเขารู้สึกพอใจกับข้อเสนอนี้ แต่ผมไม่แน่ใจหรอกว่าเซเลนกสี้เห็นดีกับข้อเสนอนี้หรือไม่ คนของเขานะชอบมัน แต่เขายังไม่ได้อ่านมันเลย”
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นชอบต่อสาธารณชนเกี่ยวกับแผนการของทำเนียบขาวนี้เหมือนกัน ในความเป็นจริงแล้ว ปูตินได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลายๆ ด้านของข้อเสนอนี้ของทรัมป์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้ ถึงแม้ว่าร่างฉบับเริ่มแรกของข้อเสนอนี้จะมีเนื้อหาในทางเอาอกเอาใจมอสโกอย่างมากมายก็ตามที
ทรัมป์นั้นมีความสัมพันธ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ กับเซเลนสกี้นับตั้งแต่เขากลับมาครองทำเนียบขาวเป็นรอบที่สองเมื่อต้นปีนี้ โดยที่เขายืนกรานว่า สงครามในยูเครนผลาญเงินภาษีของคนอเมริกันโดยเปล่าประโยชน์ และยังเรียกร้องซ้ำๆ ให้เคียฟยกดินแดนให้มอสโกเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาเกือบ 4 ปีและทำให้มีผู้คนล้มตายมากเกินไปแล้ว
ขณะที่เซเลนสกี้กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาที่ฟลอริดา และได้รับแจ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ของทั้งอเมริกาและยูเครน ก่อนสำทับว่า เคียฟมุ่งมั่นร่วมมือกับอเมริกาอย่างตรงไปตรงมาเพื่อบรรลุสันติภาพ
“ยูเครนมีความมุ่งมั่นที่จะยังคงทำงานด้วยความซื่อตรงจริงใจกับฝ่ายอเมริกัน เพื่อบรรลุถึงสันติภาพอันแท้จริง” เซเลนกสี้ โพสต์ข้อความเช่นนี้ทางโซเชียลมีเดีย
การวิจารณ์เซเลนสกี้ของทรัมป์คราวนี้ เกิดขึ้นขณะที่ ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแสดงความคิดเห็นในวันอาทิตย์ (7) ยกย่องชมเชยเอกสารยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่คณะบริหารของทรัมป์นำออกมาเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (5)
ตามรายงานของสำนักข่าวทาสส์ ของทางการรัสเซีย เปสคอฟกล่าวว่า เอกสารยุทธศาสตร์ฉบับล่าสุดซึ่งสะท้อนความสนใจหลัก ๆด้านนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ นั้น มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัสเซียเป็นส่วนใหญ่
ในเอกสารนี้มีข้อความต่างๆ ซึ่งคัดค้านการเผชิญหน้ากัน และนิยมชื่นชอบการสนทนากันและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมา เปสคอฟบอก พร้อมกับเสริมว่า รัสเซียคาดหวังว่านี่จะนำไปสู่ “ความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับวอชิงตันเพิ่มมากขึ้นอีกในเรื่องการทำความตกลงเกี่ยวกับยูเครน”
ทั้งนี้ในเอกสารที่ทำเนียบขาวนำออกเผยแพร่ฉบับนี้ระบุว่า อเมริกาต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัสเซีย หลังจากที่มอสโกถูกปฏิบัติจากทั่วโลกในฐานะประเทศที่น่ารังเกียจมานานปี นอกจากนั้นยังบอกว่า การยุติสงครามในยูเครนถือเป็นผลประโยชน์แกนกลางประการหนึ่งของสหรัฐฯ ในการเดินหน้าไปสู่ “การสถาปนาเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์กับรัสเซียขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ คีธ เคลล็อก ผู้แทนด้านยูเครนของทรัมป์ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งต้นปีหน้า และไม่ได้เข้าร่วมเจรจาที่ฟลอริดา กล่าวในเวทีประชุม “เรแกน เนชันแนล ดีเฟนซ์ ฟอรัม” ว่า ความพยายามในการยุติสงครามในยูเครนเหลืออีกเพียง “10 เมตรสุดท้าย” และเสริมว่า การทำความตกลงกันได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเด็นสำคัญที่ยังไม่ลงรอยกัน 2 เรื่อง โดยเรื่องหนึ่งคือเรื่องดินแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอนบาส อีกเรื่องคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย
ภูมิภาคดอนบาส หมายถึงแคว้นลูฮันสก์กับแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน โดยที่ฝ่ายรัสเซียยึดลูฮันสก์ได้แล้ว ขณะที่โดเนตสก์ทางยูเครนยังปักหลักป้องกันเอาไว้ได้ราว 30% และมอสโกตลอดจนข้อเสนอสันติภาพของทรัมป์เรียกร้องให้เคียฟยอมสละดินแดนส่วนนี้ ส่วนโรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้น ตั้งอยู่ในบริเวณที่รัสเซียควบคุมเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้นๆ ของการรุกรานคราวนี้ ปัจจุบันโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่ได้ดำเนินงาน และต้องการกระแสไฟฟ้าที่สม่ำเสมอไว้ใจได้สำหรับการระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ที่ปิดตัวลง 6 เตา ตลอดจนของพวกเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้งานแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความหายนะทางนิวเคลียร์
(ที่มา: เอพี)


