รัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย กล่าวในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) แสดงความคาดหวังว่า อเมริกาจะไม่ทำอะไรที่ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลาย
ลาฟรอฟบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เป็นผู้ที่เห็นชอบสนับสนุนให้มีการสนทนากับรัสเซีย และได้เสาะแสวงหาจนมีความเข้าใจอย่างเต็มที่ถึงจุดยืนของฝ่ายรัสเซียในเรื่องยูเครน รวมทั้ง “สาธิตให้เห็นถึงความมุ่งมั่นผูกพันที่จะหาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติและมีความยั่งยืน”
“เรากำลังยึดมั่นอยู่กับสามัญสำนึก และวาดหวังว่าการธำรงรักษาจุดยืนเช่นนี้ไว้จะเป็นฝ่ายชนะในวอชิงตัน และยึดมั่นว่าพวกเขาจะละเว้นจากการกระทำที่อาจทำให้ความขัดแย้งขยายตัวบานปลายไปสู่ระดับใหม่” ทั้งนี้สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานอ้างอิงว่า ลาฟรอฟพูดเช่นนี้
การแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ของลาฟรอฟ ในตอนแรกทีเดียวเป็นส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่เขาพูดกับหนังสือพิมพ์รายวัน คอร์เรียร์ เดลลา เซ-รา ของอิตาลี อย่างไรก็ดี สำนักข่าวทาสส์บอกว่าหนังสือพิมพ์อิตาลีฉบับนี้ตัดสินใจไม่ตีพิมพ์เผยแพร่บทสัมภาษณ์นี้
ลาฟรอฟบอกว่า ทรัมป์นั้นยอมรับว่า หนึ่งในเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนคือ การที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขยายสมาชิกและนำเอาโครงสร้างพื้นฐานของตนมาประจำอยู่ใกล้ๆ พรมแดนรัสเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนมาตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ลาฟรอฟยังวิจารณ์ว่า ยุโรปมีแผนบ่อนทำลายความพยายามของอเมริกาในการสร้างสันติภาพในยูเครน รวมทั้งปฏิเสธการติดต่อโดยตรงกับมอสโก แต่เลือกออกมาตรการแซงก์ชันใหม่ๆ ที่กลับย้อนศรไปทำลายเศรษฐกิจของยุโรปเอง
เขาสำทับว่า ยุโรปกำลังเตรียมพร้อมอย่างเปิดเผยสำหรับศึกใหญ่ครั้งใหม่กับรัสเซีย อย่างไรก็ดี เขาบอกว่า มอสโกพร้อมฟื้นการเจรจา หากกระแสเกลียดกลัวรัสเซียของยุโรปสิ้นสุดลง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)


