สี-ปูตินกระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ยันสัมพันธ์สองชาติส่งเสริมเสถียรภาพโลก

‘ปูติน’ เริ่มทริปเยือนจีนในวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) หารือชื่นมื่น ‘สี’ ซึ่งให้สัญญาปักกิ่งจะเป็นหุ้นส่วนที่ดีเสมอและจะร่วมกับมอสโกผดุงความยุติธรรมทั่วโลก โดยที่ประมุขทำเนียบเครมลินก็ขานรับความสัมพันธ์สองประเทศไม่ได้เป็นการฉวยโอกาส หรือมุ่งต่อต้านชาติใด แต่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้โลกมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองยังร่วมลงนามคำแถลงกระชับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ และหารือเกี่ยวกับการร่วมมือด้านนิวเคลียร์และพลังงาน ตลอดจนถึงซัปพลายอาหาร และการผลิตรถจีนในรัสเซีย

ในการเริ่มต้นการเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วันคราวนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เปิดเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งครอบคลุมถึงการหารือโดยละเอียดเกี่ยวสถานการณ์ยูเครน เอเชีย พลังงาน และการค้า ทั้งนี้ สี คือผู้สนับสนุนปูตินซึ่งทรงอิทธิพลที่สุดในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศ โดยที่ทั้งคู่ยังต่างเป็นปรปักษ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้ายกาจที่สุดของอเมริกาอีกด้วย นั่นคือ สหรัฐฯ ตราหน้าจีนเป็นศัตรูสำคัญที่สุด ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศที่เป็นภัยคุกคามมากที่สุด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ระบุอยู่บ่อยๆ ว่า ศตวรรษนี้เป็นศตวรรษที่ถูกกำหนดโดยการแข่งขันเพื่อการดำรงคงอยู่ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ซึ่งฝ่ายหลังนี้เขาหมายถึงปักกิ่งกับมอสโกเป็นสำคัญ

สีกล่าวกับปูติน ระหว่างการหารือในปักกิ่งซึ่งจัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชนว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียต้องผ่านความยากลำบากนานัปการกว่าจะมาถึงจุดนี้ และสองฝ่ายต้องส่งเสริมและดูแลสัมพันธภาพระหว่างกันต่อไป และเสริมว่า จีนยินดีร่วมกับรัสเซียผดุงความเป็นกลางและความยุติธรรมทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ จีนและรัสเซียได้เคยประกาศการเป็นหุ้นส่วนกันอย่างชนิด “ไร้ขีดจำกัด” ตอนที่ปูตินเยือนปักกิ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนรัสเซียจัดส่งทหารนับหมื่นบุกยูเครน จนกลายเป็นสงครามนองเลือดที่สุดในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่สอง

การที่ปูตินเลือกจีนเป็นจุดหมายปลายทางในการเยือนต่างประเทศทริปแรกของเขานับจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 5 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณถึงประชาคมโลกเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศของเขา รวมทั้งเป็นการตอกย้ำสายสัมพันธ์ระดับส่วนตัวที่แน่นแฟ้นใกล้ชิดของประมุขรัสเซียกับประมุขจีนคู่นี้

รายงานข่าวระบุว่า ปูตินได้กล่าวตอบสีในวันพฤหัสฯ ว่า ความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนไม่ได้เป็นการฉวยโอกาสหรือมุ่งต่อต้านประเทศใด แต่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้โลกมีเสถียรภาพ

หลังจากช่วงต้นของการหารือ ปูตินได้ระบุถึงภาคส่วนที่สองประเทศมุ่งกระชับความสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่การร่วมมือด้านนิวเคลียร์และพลังงาน จนถึงซัปพลายอาหาร และการผลิตรถจีนในรัสเซีย

ผู้นำทั้งคู่ร่วมลงนามในคำแถลงร่วมว่าด้วยการกระชับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ โดยสีกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การนำเอาแนวทางการเมืองมาใช้แก้ไขวิกฤตยูเครนเป็นวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม

ด้านปูตินแสดงความขอบคุณที่จีนพยายามแก้ไขวิกฤตนี้ และเสริมว่า จะสรุปสถานการณ์ในยูเครนซึ่งกองทัพรัสเซียกำลังรุกคืบในหลายแนวรบให้สีรับทราบ

ก่อนออกเดินทางเยือนแดนมังกรทริปนี้ ปูตินได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน โดยเขากล่าวยกย่อง สี ที่ช่วยพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทซึ่งยึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ของชาติและความไว้วางใจกันและกันอย่างลึกซึ้ง

รายงานระบุว่า จะมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำและเจ้าหน้าที่อาวุโสของสองประเทศในช่วงพักดื่มชาและงานเลี้ยงอาหารเย็นวันพฤหัสฯ ซึ่งจะเป็นไฮไลต์สำคัญของการเยือนครั้งนี้

ยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายการต่างประเทศของเครมลิน เผยว่า การหารือจะครอบคลุมสถานการณ์ในยูเครน เอเชีย พลังงาน และการค้า

รอยเตอร์รายงานว่า อันเดร เบลูซอฟ รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของรัสเซีย ตลอดจนถึงเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และเซียร์เก ชอยกู เจ้ากระทรวงกลาโหมคนก่อนซึ่งเวลานี้ขึ้นไปเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้ง ยูชาคอฟ และซีอีโอทรงอิทธิพลที่สุดของรัสเซียบางคน จะเข้าร่วมหารือกับฝ่ายจีนด้วย

นอกจากนี้ ปูติน วัย 71 ปี และสี วัย 70 ปี จะร่วมงานกาลาฉลองครบรอบ 75 ปีนับจากที่สหภาพโซเวียตรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเหมา เจ๋อตง เป็นผู้ประกาศความสัมพันธ์นี้เมื่อปี 1949

ปัจจุบัน ปูตินและสีนั้นมีวิสัยทัศน์ต่อสถานการณ์โลกโดยรวมคล้ายกัน นั่นคือมองว่าตะวันตกกำลังเสื่อมถอย ขณะที่จีนท้าทายความยิ่งใหญ่ของอเมริกาในทุกด้านตั้งแต่ควอนตัมคอมพิวติ้งไปจนถึงชีววิทยาสังเคราะห์ การสอดแนม และอำนาจทางทหาร

หลังหารือกับสี ปูตินเผยว่า ตนและผู้นำจีนกำลังร่วมกันผลักดันให้เกิดโลกหลายขั้ว โดยไม่มีการเป็นพันธมิตรแบบปิดกั้นในเอเชีย

ช่วงหลายปีมานี้ จีนกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการทหารกับรัสเซีย ขณะที่อเมริกาและพันธมิตรออกมาตรการแซงก์ชันทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะมอสโกจากกรณีการรุกรานยูเครน

ตะวันตกกล่าวหาว่า จีนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้รัสเซียสามารถต้านทานมาตรการแซงก์ชัน รวมทั้งจัดหาเทคโนโลยีสำคัญที่รัสเซียนำไปใช้ในการรบกับยูเครน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)