ปูตินประกาศชัยชนะสำคัญ รัสเซียเข้ายึดโปครอฟสก์ เมืองยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันออกของยูเครนสำเร็จ เปิดทางให้แดนหมีขาวลุยยึดพื้นที่ซึ่งยังเหลืออยู่ของแคว้นโดเนตสก์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถึงแม้ว่ายูเครนยังคงออกมาปฏิเสธ บอกว่าการสู้รบที่นั่นยังไม่จบ ขณะเดียวกันพวกนักวิเคราะห์ชี้ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ความสำเร็จนี้ก็จะทำให้เครมลินเป็นต่อมากขึ้นในการเจรจาแผนสันติภาพกับตัวแทนของทรัมป์ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคาร (2 ธ.ค.)
รัสเซียพยายามเข้ายึดเมืองโปครอฟสก์ ซึ่งเป็นฮับลอจิสติกส์สำคัญทางยุทธศาสตร์ของกองทัพยูเครนตั้งแต่เมื่อกลางปีที่แล้ว ทว่าเผชิญการต้านทานอย่างหนักมาตลอด
อย่างไรก็ตาม ในวิดีโอที่เครมลินเผยแพร่เมื่อคืนวันจันทร์ (1) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้กล่าวชมเชยเหล่าผู้บังคับบัญชาของกองทัพรัสเซีย โดยบอกว่า การยึดเมืองโปครอฟสก์ ได้ครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะสำคัญและเป็นหลักประกันในการส่งเสริมภารกิจที่กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนที่ดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้ว
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียยังเผยแพร่วิดีโอหลายคลิป แสดงให้เห็นภาพทหารรัสเซียชูธงชาติในบริเวณที่ดูเหมือนเป็นใจกลางเมืองโปครอฟสก์ ตลอดจนบุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ของเมืองนี้
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันอาทิตย์ (30 พ.ย.) วาเลอรี เก-ราสิมอฟ ผู้บัญชาการทหารรัสเซีย รายงานกับปูตินว่า กองกำลังรัสเซียกำลังเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างทหารยูเครนรอบเมืองโปครอฟสก์และเมืองเมร์โฮร็อดที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีทหารยูเครนติดอยู่ 2,000 นาย นอกจากนั้นยังสามารถยึดเมืองโวฟชานสก์ ซึ่งอยู่ในแคว้นคาร์คีฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน
พวกผู้สังเกตการณ์บอกว่า หากตีเมืองโปครอฟสก์แตกจริง จะทำให้รัสเซียมีที่มั่นใหม่ในการบุกตะลุยขึ้นเหนือไปยังเมืองครามาตอร์สก์ และ สโลเวียนสก์ ซึ่งเป็น 2 เมืองใหญ่ที่สุดในแคว้นโดเนตสก์ ที่ยังอยู่ในความควบคุมของยูเครน
อย่างไรก็ดี กองเสนาธิการใหญ่ของกองทัพยูเครน ระบุในคำแถลงที่ออกในวันอังคาร ปฏิเสธข่าวของฝ่ายรัสเซียซึ่งอ้างว่ายึดได้ โปครอฟสก์, โวฟชานสก์, ตลอดจนเมืองคูเปียนสก์ ในแคว้นคาร์คิฟ ที่มอสโกอ้างว่ายึดไปตั้งแต่หลายวันก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ กองบัญชาการทหารด้านตะวันออกของยูเครน โพสต์บนโซเชียลมีเดียยืนยันว่า กองกำลังยูเครนยังคงค้นหาและโจมตีเพื่อกำจัดข้าศึกในบริเวณชานเมืองโปครอฟสก์ และสำทับว่า กองกำลังรัสเซียที่เข้าไปปักธงในย่านใจกลางเมืองได้ล่าถอยไปแล้ว
รัสเซียนั้นต้องการครอบครองทั่วทั้งภูมิภาคดอนบาส ที่เป็นฐานอุตสาหกรรมสำคัญมาตั้งแต่สมัยโซเวียต โดยที่ดอนบาส ประกอบด้วยแคว้นลูฮันสก์ ซึ่งรัสเซียประกาศยึดได้ทั้งหมดแล้ว และแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโปครอฟสก์
พวกนักวิเคราะห์ฝ่ายรัสเซียชี้ว่า การยึดโปครอฟสก์จะเป็นการยึดดินแดนในยูเครนครั้งสำคัญที่สุดนับจากที่ตีเมืองอัฟดิอิฟกา สำเร็จตอนต้นปีที่แล้ว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสถานะของรัสเซียในการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน ขณะที่ปูตินกำลังเรียกร้องให้เคียฟยอมสละดินแดนที่เหลือในโดเนตสก์ให้
นอกจากนั้นยังมีแนวโน้มมากขึ้นที่กองทัพรัสเซียจะรุกคืบเข้าสู่แคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของยูเครน
เอเอฟพีรายงานว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ไอเอสดับเบิลยู) หน่วยงานคลังสมองที่ตั้งฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน พบว่า เดือนที่ผ่านมากองทัพรัสเซียถือว่ารุกคืบได้มากที่สุดภายหลังจากเดือนพ.ย. 2024
การประกาศยึดโปครอฟสก์ได้ของรัสเซีย ยังเกิดขึ้นขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันข้อตกลงสันติภาพสำหรับยูเครน โดย สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษ และจาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดหารือกับปูตินที่มอสโกในช่วงบ่ายวันอังคาร (2 ธ.ค.)
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า คณะบริหารทรัมป์มองการเจรจาที่มอสโกในแง่บวกมาก
ส่วน รุสเตม อูเมรอฟ ผู้แทนการเจรจาของยูเครน ยืนยันว่า การหารือกับทีมเจรจาของอเมริกาที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) มีความคืบหน้าสำคัญ แม้ยังมีบางประเด็นที่ต้องหารือกันต่อไปก็ตาม
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ที่เดินทางถึงไอร์แลนด์เมื่อคืนวันจันทร์ หลังจากพบกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงที่ปารีส เพื่อระดมการสนับสนุนจากพันธมิตรยุโรปนั้น แสดงความคาดหวังว่า จะได้พูดคุยกับทรัมป์ในประเด็นสำคัญที่ท้าทายอย่างยิ่ง และสำทับว่า รัสเซียโจมตีหนักขึ้นเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของคนยูเครน
ผู้นำเคียฟสำทับว่า ยูเครนจะไม่ยอมอ่อนข้อและทำให้ดูเหมือนรัสเซียได้รางวัลจากสงครามครั้งนี้
ขณะที่มาครงกล่าวว่า นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่อาจชี้อนาคตสำหรับสันติภาพในยูเครนและความมั่นคงของยุโรป
เซเลนสกี้และมาครงยังหารือทางโทรศัพท์กับวิตคอฟฟ์และอูเมรอฟระหว่างที่ทั้งคู่ประชุมกันที่ฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์
นอกจากนั้น เมื่อคืนวันจันทร์มาครงยังคุยโทรศัพท์กับทรัมป์เกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของความพยายามในการเป็นตัวกลางการเจรจา โดยผู้นำฝรั่งเศสเน้นย้ำว่า การรับประกันความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นสำหรับยูเครน
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อเสนอสันติภาพ 28 ข้อเวอร์ชั่นดั้งเดิมของทรัมป์นั้น เคียฟต้องยอมยกดินแดนส่วนที่ยังควบคุมอยู่ในโดเนตสก์ให้รัสเซีย และในทางพฤตินัย อเมริกาต้องยอมรับว่า โดเนตสก์ ไครเมีย และลูกันสก์เป็นของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการหารือที่เจนีวา อเมริกาได้ปรับปรุงร่างพิมพ์เขียวดังกล่าว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาใหม่แต่อย่างใด
ด้าน คาจา คัลลาส ประธานฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพบปะระหว่างปูตินกับวิตคอฟฟ์ โดยบอกว่า ความกดดันทั้งหมดอาจตกอยู่กับฝ่ายที่อ่อนแอกว่า เนื่องจากวิธีที่ง่ายกว่าในการยุติสงครามคือ การที่ยูเครนยอมจำนน
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)


