xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’คุยโทรศัพท์‘สี จิ้นผิง’โวสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน 'แข็งแกร่งอย่างยิ่ง' ขณะผู้นำปักกิ่งย้ำนำไต้หวัน'หวนคืนสู่จีน'คือหนึ่งในรากฐานของระเบียบโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ภายหลังการเจรจาหารือกันที่ฐานทัพอากาศกิมเฮ ในเมืองปูซาน, เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2025
‘ทรัมป์’คุยโทรศัพท์‘สี จิ้นผิง’โวสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน 'แข็งแกร่งอย่างยิ่ง' ขณะผู้นำปักกิ่งย้ำนำไต้หวัน'หวนคืนสู่จีน'คือหนึ่งในรากฐานของระเบียบโลก

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนว่า "แข็งแกร่งอย่างยิ่ง" เมื่อวันจันทร์ (24 พ.ย.) ภายหลังการโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ซึ่งได้บอกกับทรัมป์ว่า เรื่องการนำเอาไต้หวัน "หวนกลับคืนสู่จีน" เป็นส่วนสำคัญในวิสัยทัศน์ของปักกิ่งต่อระเบียบโลก

การต่อสายหารือคราวนี้ซึ่งทั้งสองประเทศต่างไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ ทรัมป์ กับ สี พบปะเจรจากันที่เมืองปูซาน, เกาหลีใต้ ซึ่งทั้งคู่ได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับกรอบโครงของข้อตกลงการค้าที่ยังไม่ได้มีข้อสรุปชัดเจน

ในขณะนี้ จีนยังกำลังอยู่ในวิกฤตทางการทูตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีกับพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯอย่างญี่ปุ่น หลัง ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีแดนอาทิตย์อุทัย ออกมาพูดเมื่อกลางเดือนนี้ว่า หากจีนเข้าโจมตีใดๆ ต่อไต้หวัน อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางทหารของญี่ปุ่น

"จีนกับสหรัฐฯครั้งหนึ่งเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์และลัทธิทหาร (หมายถึงจักรวรรดิญี่ปุ่นในสมัยก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2) และเวลานี้ก็สมควรร่วมมือกันเพื่อปกป้องผลลัพธ์ของสงครามโลกครั้งที่ 2" สี กล่าวเช่นนี้กับทรัมป์ ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน โดยที่ประมุขแดนมังกรกล่าวเสริมด้วยว่า "การกลับคืนสู่จีนของไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจขาดหายไปได้ของระเบียบโลกหลังสงคราม"

ทั้งนี้ไต้หวันเวลานี้เป็นเกาะปกครองตนเอง และยังคงใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐจีน ซึ่งเป็นนามที่ใช้อ้างครอบคลุมว่าเป็นตัวแทนของแผ่นดินจีนทั้งหมด ขณะที่ปักกิ่งถือว่าเกาะกบฎแห่งนี้เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ที่จะต้องนำกลับมารวมชาติ แม้อาจจะต้องใช้กำลัง ทางด้านทางการไต้หวันในเวลานี้ตอบโต้ว่า มีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้

ทรัมป์นั้นไม่ได้เอ่ยถึงไต้หวันเลย ในข้อความที่เขาโพสต์บนแพลตฟอร์ม ทรูธโซเชียล เกี่ยวกับการคุยโทรศัพท์ "ที่ดีมาก" กับประมุขจีนคราวนี้ แต่ได้เล่าว่าการพูดจาครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ รวมถึงเรื่องยูเครน สารเสพติดเฟนทานิล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐฯ

“ความสัมพันธ์ของเรากับจีนแข็งแกร่งมาก! การคุยโทรศัพท์ครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการพบกันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเกาหลีใต้เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน นับตั้งแต่นั้นมา เราทั้งสองฝ่ายมีความก้าวหน้าอย่างมากในการรักษาข้อตกลงให้เป็นปัจจุบันและมีความถูกต้อง” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ บอกด้วยว่า เขาตอบรับคำเชิญของ สี ให้เดินทางเยือนปักกิ่งในเดือน เม.ย. ปีหน้า และได้เชิญ สี จิ้นผิง ให้เดินทางเยือนสหรัฐฯ แบบ state visit (การเยือนอย่างเป็นรัฐพิธีในฐานะเป็นแขกของประมุขประเทศ) ในช่วงต่อไปของปี 2026

ทางด้าน แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือกับ สี จิ้นผิง มุ่งเน้นไปที่ประเด็นการค้า และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

“เรายินดีกับสิ่งที่เราได้เห็นจากจีน และพวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน” ลีวิตต์ กล่าว

หลังจากอยู่ในความตึงเครียดทางการค้ามาหลายเดือนอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีของทรัมป์ สี กับ ทรัมป์ ได้บรรลุกรอบข้อตกลงที่เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 30 ต.ค. โดยวอชิงตันตกลงที่จะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 100% และจีนจะชะลอมาตรการควบคุมการออกใบอนุญาตส่งออกแร่ธาตุแรร์เอิร์ธและแม่เหล็กแรร์เอิร์ธ

ขณะที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาหวังว่าข้อตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับแร่ธาตุแรร์เอิร์ธจะเสร็จสิ้นภายในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ (ปีนี้ตรงกับวันที่ 27 พ.ย.)

หลังการเจรจาซัมมิตที่เกาหลีใต้ จีนได้กลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อีกครั้ง และระงับการขยายข้อจำกัดในการส่งออกแร่ธาตุแรร์เอิร์ธ ส่วนสหรัฐฯ ได้ลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลง 10% เพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาของปักกิ่งที่จะช่วยควบคุมการเคลื่อนย้ายสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารโอปิออยด์สังเคราะห์เข้าไปยังอเมริกาเหนือ

ตามรายงานของซินหัว สี กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีเสถียรภาพ และดีขึ้นนับตั้งแต่การประชุม

“ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ขณะที่การเผชิญหน้ากลับส่งผลเสียต่อทั้งสองฝ่าย” เขา กล่าวเช่นนี้กับ ทรัมป์ พร้อมกระตุ้นให้ทั้งสองประเทศรักษาโมเมนตัมเชิงบวกเอาไว้

สี ยังย้ำด้วยว่า จีนสนับสนุนความพยายามทุกวิถีทางที่นำไปสู่สันติภาพในยูเครน

ในบันทึกย่อเกี่ยวกับการหารือทางโทรศัพท์คราวนี้ของฝ่ายจีน มีการเน้นย้ำเรื่องไต้หวัน ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่ไม่ว่าฝ่ายจีนหรือฝ่ายสหรัฐฯก็ไม่ได้มีการเอ่ยถึงในคำแถลงต่างๆ หลังจากการประชุมซัมมิตที่เกาหลีใต้ ตัวทรัมป์เองกล่าวในเวลาต่อมาว่า ผู้นำทั้งสองไม่ได้มีการพูดเรื่องไต้หวัน อันเป็นเรื่องที่ปักกิ่งระบุเรื่อยมาว่าเป็น 'เส้นแดง' ห้ามล่วงล้ำ ในความสัมพันธ์ระหว่างตนกับวอชิงตัน จากนั้นอีกหลายสัปดาห์ต่อมา สหรัฐฯ ยังได้อนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับไทเป

บอนนี เกลเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไต้หวัน ของกองทุนมาร์แชลล์เยอรมันของสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า ถ้อยแถลงเกี่ยวกับไต้หวันในคราวนี้ของ สี เป็นการตอกย้ำคำพูดที่เขาเคยกล่าวไว้ระหว่างการเยือนรัสเซียในเดือน พ.ค.

“สี จิ้นผิง คงจะใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนของเขาเกี่ยวกับไต้หวันให้ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นเพราะสื่อจำนวนมากรายงานข่าวการประชุมซัมมิตที่ปูซานโดยชี้ว่า ไม่มีการพูดถึงไต้หวัน” เกลเซอร์ กล่าว

ทรัมป์ ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยตรงกับข้อพิพาททางการทูตที่กำลังคุกรุ่นระหว่างญี่ปุ่นและจีนในเรื่องไต้หวัน แม้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น จอร์จ กลาส จะกล่าวว่า สหรัฐฯสนับสนุนโตเกียวเมื่อเผชิญกับ "การใช้อำนาจบีบบังคับ" ของจีนก็ตาม

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (24) ปักกิ่งยังวิพากษ์วิจารณ์แผนของโตเกียวที่จะติดตั้งระบบขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดยิงจากพื้นสู่อากาศ บนเกาะโยนากุนิ ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันเพียงราวๆ 110 กิโลเมตร โดยระบุว่าเป็นความพยายาม "สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค และก่อให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร"

มาร์วิน พาร์ค อดีตผู้อำนวยการไต้หวันในสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า ขีปนาวุธเหล่านี้มีลักษณะเชิงป้องกันอย่างชัดเจน โดยมีพิสัยทำการเพียงประมาณ 50 กิโลเมตร และไม่สามารถไปถึงไต้หวันได้ด้วยซ้ำ

“ความกังวลที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าของจีนคือ ความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะมีการขยายกำลังทหารต่อไปในอนาคต หากพวกเขานำระบบเพื่อการป้องกันตนเองอย่างบริสุทธิ์มาใช้ในตอนนี้ได้ มันก็อาจเป็นการง่ายขึ้นในอนาคตที่ฝ่ายญี่ปุ่นจะนำเอาขีดความสามารถที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นมาประจำในหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นตรงนี้” พาร์ค ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่กับบริษัทที่ปรึกษา อเมริกัน โกลบอล สตราเตจีส์ กล่าว

(ที่มา: รอยเตอร์/MGR Online)
กำลังโหลดความคิดเห็น