xs
xsm
sm
md
lg

พักรบชั่วคราว? ทรัมป์อวดความสำเร็จจับมือสีระงับสงครามการค้า ประกาศลดภาษีจีน10%-พักรบแรร์เอิร์ธ-สงบศึกค่าธรรมเนียมท่าเรือ-เปิดทางอินวิเดียคุยปักกิ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (ซ้าย) จับมือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ขณะลาจากกันภายหลังเจรจาหารือกันที่ท่าอากาศยานกิมเฮ ซึ่งอยู่ติดกับท่าอากาศยานนานาชาติกิมเฮ ในเมืองปูซาน ของเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.)
“ทรัมป์-สี”พบปะเจรจากันเกือบ 2 ชั่วโมงที่เกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ตกลงสงบศึกการค้าที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานชะงักงันและเขย่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจทั่วโลก โดยปักกิ่งพักการใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธออกไป 1 ปี รวมทั้งสั่งซื้อถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรอื่นๆ ของอเมริกาล็อตใหญ่ทันที ขณะวอชิงตันลดภาษีศุลกากรสินค้าจีนลงมา 10% หยุดจำกัดบีบคั้นอุตสาหกรรมต่อเรือแดนมังกรตลอดจนผ่อนคลายระดับหนึ่งให้พวกบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งเปิดทางให้อินวิเดียพูดคุยเรื่องชิปเอไอกับแดนมังกร

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า การพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันพฤหัสฯ (30 ต.ค.) ซึ่งเป็นการหารือแบบเจอหน้าหน้าจริงๆ ครั้งแรกในรอบ 6 ปี เป็น “ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่” ด้านประมุขแดนมังกรเผยบรรลุ “ฉันทามติสำคัญ” เพื่อระงับการต่อสู้ระหว่างสองชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก และเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพื่อติดตามผลโดยเร็วที่สุด

ทรัมป์กล่าวภายหลังการหารือเกือบ 2 ชั่วโมงที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้คราวนี้ว่า เป็นการพบกันที่เลอเลิศเหลือเชื่อ พร้อมยกย่องสีเป็น “ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของประเทศที่มีอำนาจอย่างมาก”

ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า สีจะทุ่มเทความพยายามในการสกัดการไหลเวียนของพวกสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตเฟนทานิล ซึ่งเป็นยาระงับปวดในกลุ่มโอปิออยด์ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดของคนอเมริกันจำนวนมาก ดังนั้น อเมริกาจึงตกลงลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนด้วยเหตุผลเกี่ยวข้องกับเฟนทานิลนี้ลงมาจาก 20% เหลือ 10% ส่งผลให้อัตราภาษีที่เก็บจากจีนโดยรวมลดลงจาก 57% เหลือ 47%

ทรัมป์ยังบอกอีกว่า การตกลงกันครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการที่จีนจะสั่งซื้อถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรอื่นๆ ล็อตใหญ่จากอเมริกาทันที

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า ปักกิ่งจะระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าบางอย่างที่รวมถึงแรร์เอิร์ธหรือแร่ธาตุหายากออกไป 1 ปี โดยที่แรร์เอิร์ธนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์มากมายตั้งแต่สมาร์ทโฟน อีวี เครื่องบินไปจนถึงอาวุธ และเป็นไพ่ไม้ตายสำคัญที่จีนใช้ต่อรองในสงครามการค้ากับอเมริกาคราวนี้

เพื่อเป็นการตอบแทน โฆษกฝ่ายจีนผู้หนึ่งบอกว่า วอชิงตันตกลงระงับไว้ก่อนเป็นเวลา 1 ปีเช่นกันสำหรับความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่บังคับใช้มาตรการจำกัดการส่งออกของพวกกิจการในเครือบริษัทต่างชาติที่ถูกขึ้นบัญชีดำ “Entity List” ของสหรัฐฯ

นอกจากนั้น สหรัฐฯยังตกลงหยุดพัก 1 ปีสำหรับการสอบสวนตามมาตรา 301 ของอเมริกันในอุตสหกรรมต่อเรือของจีน ซึ่งได้นำไปสู่การที่ทั้ง 2 ฝ่ายประกาศตอบโต้จัดเก็บค่าธรรมเนียมใช้ท่าเรือจากเรือของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่จีนก็จะระงับการใช้มาตรการตอบโต้ของฝ่ายตนในระยะเวลาเดียวกัน ทั้งนี้การตอบโต้เช่นนี้ กำลังสร้างความวิตกว่าสร้างปัญหาให้แก่อุตสาหกรรมการต่อเรือ การขนส่งสินค้าทางทะเล และ ลอจิสติกส์ ของทั้งสองฝ่าย

คำแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีนยังระบุว่า สองประเทศบรรลุฉันทามติในการขยายการค้าสินค้าเกษตร และจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแอปวิดีโอสั้น ติ๊กต็อก ที่ทรัมป์ต้องการให้ถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของธุรกิจในอเมริกาให้บริษัทอเมริกัน

นอกจากนั้น ทรัมป์เผยว่า จีนจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อพลังงานจากอเมริกา ซึ่งเขาโพสต์ทางสื่อสังคมวันพฤหัสฯว่า อาจมีข้อตกลงใหญ่เกิดขึ้นในอะแลสกาที่คณะบริหารสหรัฐฯ กำลังระดมการสนับสนุนโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลวที่นั่น

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสีได้มาตั้งแต่วันอาทิตย์ (26 ต.ค.) ที่ทีมเจรจาของอเมริกาเปิดเผยหลังหารือกับฝ่ายจีนที่กัวลาลัมเปอร์ว่า บรรลุกรอบข้อตลงกับคณะผู้แทนจีนเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีสินค้าศุลกากรจีน 100% รวมทั้งมาตรการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธของจีน

การพบกันที่บรรยากาศเสมือนอบอวลด้วยมิตรภาพระหว่างสองผู้นำสำคัญของโลกครั้งนี้เกิดขึ้นข้างเคียงการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เกาหลีใต้จัดขึ้นที่เมืองคยองจู ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองปูซาน

สีกล่าวเมื่อเริ่มต้นการประชุมว่า เป็นเรื่องปกติที่จีนและอเมริกาจะมีปัญหาขัดแย้งกันเป็นครั้งคราว และเสริมว่า การพัฒนาและฟื้นฟูชาติของจีนไม่ได้ขัดแย้งกับเป้าหมายของทรัมป์ในการทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ทำเนียบขาวแสดงความหวังว่า ซัมมิตครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นการพบกันอีกหลายครั้งระหว่างผู้นำอเมริกา-จีน โดยทรัมป์เผยว่า จะเดินทางเยือนจีนในเดือนเมษายนปีหน้า ก่อนให้การต้อนรับสีในอเมริกาหลังจากนั้น

ทางฝั่งสื่อจีนบรรยายภาพการพบกันครั้งนี้ว่า เป็นชัยชนะในการวางนโยบายของสี โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานโดยอ้างคำพูดของสีว่า จีนมีความเชื่อมั่นและศักยภาพในการฝ่าฟันความเสี่ยงและความท้าทายทุกรูปแบบ

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ข้อตกลงนี้อาจนำความสัมพันธ์จีน-อเมริกากลับสู่ช่วงเวลาก่อน “วันแห่งการปลดแอก” ของทรัมป์เมื่อเดือนเมษายนที่นำไปสู่สงครามภาษีศุลกากร แต่อาจเป็นเพียงข้อตกลงสงบศึกอันเปราะบางโดยที่รากเหง้าของปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข

ทรัมป์ยังเปิดเผยว่า ปักกิ่งกำลังจะหารือกับ เจนเสน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิปเอไอของสหรัฐฯ พร้อมกับระบุว่า ทางการสหรัฐฯทำหน้าที่เป็น “เหมือนกับกรรมการ” ในการเจรจาหารือระหว่างฝ่ายจีนกับอินวิเดียนี้

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถาม เขาตอบว่า การเจรจาเหล่านี้จะไม่เกี่ยวข้องกับชิป “แบล็กเวลล์” ซึ่งถือเป็นชิประดับดีที่สุดของอินวิเดียในเรื่องการใช้งานกับเอไอ แต่ผู้นำสหรัฐฯก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมไปกว่านี้ โดยกล่าวเพียงว่า “มันยังมีชิปอีกเยอะแยะ และเรื่องนี้เป็นเรื่องดีสำหรับเรา”

ในส่วนเรื่องของไต้หวัน ซึ่งมีความกังวลกันในพวกที่สนับสนุนเกาะแห่งนี้ว่า ไต้หวันอาจจะกลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่ถูกใช้ในการเจรจาต่อรองระหว่างสหรัฐฯกับจีนในคราวนี้ด้วย ทรัมป์กล่าวตอบว่า ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเจรจา

ในประเด็นอื่นๆ ทรัมป์บอกว่าได้ตกลงที่จะ “ทำงานร่วมกัน” กับจีนในเรื่องยูเครน โดยกล่าวว่า “ยูเครน—เราทั้งคู่จะทำงานร่วมกัน— เราเห็นพ้องกันว่าฝ่ายต่างๆ ถูกล็อกอยู่ในการสู้รบ และบางครั้งคุณก็ต้องปล่อยให้พวกเขารบกันนะ ผมว่า แต่เรากำลังจะทำงานด้วยกันในเรื่องยูเครน”

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น