ราคาน้ำมันขยับลงมากกว่า 2% ในวันพุธ(3ก.ย.) ก่อนหน้าการประชุมโอเปกพลัส ท่ามกลางความคาดหายว่าจะมีการปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตอีกรอบในเดือนตุลาคม ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานได้แรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำยังคงเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจกายน ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
8 ชาติมาชิกของโอเปกและพันธมิตร ที่เรียกว่าโอเปกพลัส จะพิจารณาปรับเพิ่มกำลังผลิตเพิ่มเติม ณ ที่ประชุมในวันอาทิตย์(7ก.ย.) แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับรอยเตอร์ ในขณะที่ทางกลุ่มหาทางทวงคืนส่วนแบ่งการตลาด
การปรับเพิ่มกำลังผลิตอีกครั้งของโอเปกพลัส ซึ่งสูบน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของโลก หมายความว่าพวกเขาจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการลดกำลังผลิต 2 รอบ รวมแล้วกว่า 1.65 ล้านบาร์เรลต่อว่า หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.6% ของอุปสงค์โลก เร็วกว่ากำหนดกว่า 1 ปี
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันพุธ(3ก.ย.) โดยแนสแดคและแอสแอนด์พี500 ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของอัลฟาเบ็ท หลังศาลแห่งหนึ่งของอเมริกาพิพากษาคัดค้านการแยกตัวของบริษัทแม่กูเกิล ขณะที่นักลงทุนมองในแง่บวกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนนี้
ดาวโจนส์ ลดลง 24.58 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 45,271.23 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 32.72 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,448.26 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 218.10 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,497.73 จุด
อัลฟาเบ็ท และ แอปเปิล เป็นตัวหนุนสำคัญสำหรับเอสแอนด์พี 500 และ แนสแดค ในวันพุธ(3ก.ย.) หุ้นของอัลฟาเบ็ทดัดตัวขึ้นกว่า 9% จากคำพิพากษาเมื่อวันอังคาร(2ก.ย.) ที่อนุญาตให้กูเกิลคงไว้ซึ่งการควบคุม Chrome browser และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่มีข้อห้ามทำ สัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวกับบรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์และพวกผู้พัฒนา browser ทั้งหลาย
หุ้นของแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 3.8% หลังศาลมีคำตัดสินด้วยว่าอัลฟาเบ็ท สามารถจ่ายเงินให้แอปเปิลต่อไป เพื่อให้ Google Search ถูกติดตั้งเป็นค่าเริ่มต้นใน iPhone ได้
ส่วนราคาทองคำเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ(3ก.ย.) ข้อมูลการภาคแรงงานที่อ่อนแอลงของอเมริกา เพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.21% ปิดที่ 3,635.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)