xs
xsm
sm
md
lg

ประชันฝีมือล็อบบี้! ‘ปูติน’หวานหยดก่อนซัมมิต‘ทรัมป์’ ชมมีความ‘จริงใจ’มุ่งยุติศึกยูเครน ขณะยุโรปวาดหวังโน้มน้าวได้ผล ทำให้ประมุขทำเนียบขาวแข็งกร้าวรัสเซียยิ่งขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปูติน”กล่าวในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) ยกย่อง “ความพยายามอย่างจริงใจ” ของสหรัฐฯที่จะยุติสงครามในยูเครน พร้อมกับเสนอลู่ทางความเป็นไปได้ที่จะมีการทำข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์ เขาพูดเช่นนี้ 1 วันก่อนหน้าการประชุมซัมมิตกับ “ทรัมป์” ที่อะแลสกา ท่ามกลางการล็อบบี้อย่างหนักหน่วงของพวกผู้นำยุโรปและ “เซเลนสกี้” เพื่อให้ผู้นำสหรัฐฯแสดงจุดยืนอันหนักแน่นในการกดดันรัสเซียยอมตกลงสงบศึกยูเครน

ขณะประชุมกับพวกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอาวุโสที่สุดของเขาที่ทำเนียบเครมลินในวันพฤหัสบดี (14) โดยมีการถ่ายทอดออกอากาศทางทีวีรัสเซียด้วย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า สหรัฐฯนั้น “ในความเห็นของผมแล้ว กำลังใช้ความพยายามอย่างทรงพลังและจริงใจมากเพื่อยุติความเป็นปรปักษ์กัน, ยุติวิกฤต, และบรรลุข้อตกลงซึ่งเป็นที่สนใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบขัดแยงครั้งนี้”

ปูติน กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นมา “เพื่อสร้างเงื่อนไขระยะยาวสำหรับสันติภาพระหว่างประเทศของเรากับยุโรป และในโลกโดยองค์รวม -ถ้าหากว่า ในขั้นตอนต่อไป เราสามารถบรรลุข้อตกลงในแวดวงของการควบคุมเหนืออาวุธเชิงรุกในทางยุทธศาสตร์”

ความเห็นเช่นนี้ของเขา ดูจะเป็นสัญญาณแสดงว่ารัสเซียจะหยิบยกประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาหารือกันอย่างกว้างขวางในเรื่องความมั่นคง เมื่อเขานั่งลงพร้อมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพื่อการประชุมซัมมิตรัสเซีย-สหรัฐฯครั้งแรกภายหลังจากเดือนมิถุนายน 2021

ซัมมิตครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ที่อยู่ใกล้ๆเมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในวันศุกร์ (15) โดยที่ ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยคนหนึ่งในทำเนียบเครมลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสฯว่า การประชุมจะเริ่มต้นในเวลา 11.30 น. โดยจะเป็นการหารือกันตัวต่อตัวระหว่างปูตินกับทรัมป์ และมีล่ามของแต่ละฝ่ายเท่านั้นซึ่งนั่งอยู่ด้วย หลังจากนั้นจะเป็นการเจรจาระหว่างคณะผู้แทนของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางฝั่งรัสเซียนอกจาก ปูตินแล้ว จะประกอบด้วยเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ, อันเดร เบลูซอฟ รัฐมนตรีกลาโหม, อันตอน ซิลูเอนอฟ รัฐมนตรีคลัง และคิริลล์ ดมิทริฟ ผู้เจรจาด้านเศรษฐกิจ

เขาเผยด้วยว่า ภายหลังการประชุม ปูตินและทรัมป์จะแถลงข่าวร่วมกันและสรุปผลการเจรจา ซึ่งจะถือเป็นการแถลงข่าวร่วมกันครั้งแรกระหว่างผู้นำรัสเซียและอเมริกานับตั้งแต่ปี 2018 ที่ปูตินพบกับทรัมป์ที่เฮลซิงกิ

อูชาคอฟ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมซัมมิตคราวนี้ คือ ทางออกสำหรับวิกฤตยูเครน รวมถึงการรับประกันสันติภาพและความมั่นคง ตลอดจนปัญหาที่กำลังสร้างความกดดันทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ อเล็กเซ เฟดีฟ โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้แถลงยืนยันเงื่อนไขในการหยุดยิงและเริ่มต้นการเจรจากับยูเครนที่ปูตินประกาศไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วคือ เคียฟต้องถอนทหารออกจากสี่แคว้นที่รัสเซียเข้าผนวก และยกเลิกแผนการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อย่างเป็นทางการ

ทรัมป์เอง ก็เคยกล่าวตอนต้นสัปดาห์นี้ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องแลกเปลี่ยนดินแดนเพื่อยุติการสู้รบที่ทำให้มีคนล้มตายหลายหมื่นและประชาชนนับล้านต้องทิ้งบ้านเรือน ปรากฏว่าท่าทีเช่นนี้ทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน แสดงปฏิกิริยาว่าไม่มีทางยินยอมสละดินแดนเด็ดขาด โดยที่พวกผู้นำยุโรปก็หนุนหลังจุดยืนของเคียฟ

บรรดาผู้นำของยุโรป และ เซเลนสกี้ ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อหาทางล็อบบี้หว่านล้อมทรัมป์ ให้ใช้ท่าทีที่หนักแน่นในเวลาประชุมซัมมิตกับปูติน โดยเฉพาะการกดดันให้ผู้นำรัสเซียต้องยินยอมสงบศึกในยูเครน โดยในวันพุธ (13) จากการดำเนินการอย่างเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรีฟรีดิช เมิร์ซ แห่งเยอรมนี พวกผู้นำยุโรปและเซเลนสกี้ ก็ได้ประชุมทางไกลกับทรัมป์พร้อมด้วยรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์

ภายหลังการหารือ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แถลงว่า ทรัมป์เห็นด้วยว่า ดินแดนของยูเครนไม่ใช่สิ่งที่ต่อรองได้ และยูเครนต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาด้วย อีกทั้งแสดงออกชัดเจนว่า ต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างพบกับปูติน

ขณะเซเลนสกี้เสริมว่า ทรัมป์สนับสนุนแนวคิดในการบรรจุการรับประกันความมั่นคงในแถลงการณ์หลังสงคราม และเขายังเตือนว่า ปูตินไม่ได้ต้องการยุติสงครามอย่างจริงใจ

ด้านเมร์ซสำทับว่า ถ้าไม่มีความคืบหน้าหลังการประชุมที่อะแลสกา อเมริกาและยุโรปควรเพิ่มความกดดันต่อรัสเซีย

สำหรับทรัมป์นั้น กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวว่า การประชุมหารือเป็นไปด้วยดี

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับรัสเซีย ถ้าปูติน ไม่ตกลงยุติสงครามระหว่างการประชุมซัมมิต ทรัมป์ ตอบว่า รัสเซียจะเผชิญผลลัพธ์ร้ายแรงแน่นอน แต่ไม่ได้บอกว่า จะเป็นการแซงก์ชันระลอกใหม่หรือมาตรการอื่นใด

จากนั้น ทรัมป์บอกว่า เป้าหมายในการพบกันครั้งนี้คือ เตรียมการสำหรับซัมมิตครั้งต่อไปโดยเร็ว และอาจมี เซเลนสกี้ เข้าร่วมด้วย แต่ภายใต้เงื่อนไขว่า การประชุมในวันศุกร์ได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจ

ในวันพฤหัสฯ (15) เซเลนสกี้ยังเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ที่ลอนดอน โดยผู้นำอังกฤษมองว่า มีโอกาสที่ข้อตกลงหยุดยิงจะบรรลุผลซึ่งสืบเนื่องจากการผลักดันของทรัมป์

นอกจากนั้น เมื่อวันพุธ เคียร์เมอร์ยังเผยว่า ทางกลุ่มประเทศผู้ร่วมใจสนับสนุนยูเครน ได้ร่างแผนการทางทหารที่นำไปปฏิบัติได้ในกรณีที่มีการหยุดยิง แต่ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมเพิ่มความกดดันรัสเซียด้วยมาตรการแซงก์ชัน

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น