ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ในวันอังคาร(12ส.ค.) ระบุประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ได้รับชัยชนะส่วนตัว" ด้วยการได้รับเชิญให้ไปพบปะเจรจากับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในแผ่นดินอเมริกา ขณะที่การประชุมดังกล่าวเท่ากับว่าต้องเลื่อนมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานมอสโกออกไปอีก
นอกจากนี้แล้ว เซเลนสกี ยังปฏิเสธถอนกำลังทหารออกจากภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพ หลัง ทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาและปูติน อาจเจรจาต่อรองกันเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนดินแดนเพื่อยุติสงครามระหว่างเคียฟกับมอสโก
การประชุมซัมมิต ซึ่งจะมีขึ้นในอะแลสกาในวันศุกร์(15ส.ค.) ถือเป็นการประชุมกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและประธานาธิบดีรัสเซียที่อยู่ในตำแหน่งทั้งคู่ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 และมีขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ หาทางเป็นคนกลางยุติสงครามของรัสเซียในยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีครึ่ง
เซเลนสกี ที่ไม่มีกำหนดเข้าร่วมด้วย แสดงความกังวลว่า รัสเซีย จะผลักดันข้อเรียกร้องแข็งกร้าว และ ทรัมป์ อาจเคาะข้อตกลงที่เรียกร้องให้ยูเครนยอมสละดินแดน "เราจะไม่ถอนตัวออกจากดอนบาส ถ้าเราถอนกำลังออกจากดอนบาสในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากป้อมปราการของเราและพื้นที่สูงที่เราควบคุมอยู่ แน่นอนว่ามันเท่ากับเราเปิดหัวสะพานให้รัสเซีย สำหรับเตรียมการจู่โจม"
ประธานาธิบดียูเครน บอกต่อว่าการประชุมซัมมิตในวันศุกร์(15ส.ค.) เท่ากับเป็นการเลื่อนมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯที่จะกำหนดเล่นงานรัสเซีย มาตรการคว่ำบาตรที่ทรัมป์เคยสัญญาว่าจะประกาศบังคับใช้ ถ้า ปูติน ไม่ยอมยุติสงคราม
"ลำดับแรกเลย พวกเขาจะพบปะกันในดินแดนสหรัฐฯ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นชัยชนะส่วนตัวของเขา ลำดับที่สองคือ เขากำลังหลุดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยว เพราะว่าเขากำลังประชุมในดินแดนของสหรัฐฯ และลำดับที่สามคือมันเท่ากับว่าเขาได้รับการเลื่อนมาตรการคว่ำบาตร" เซเลนสกีระบุ
เซเลนสกี ยังแสดงความกังวลต่อกรณีที่เขาได้รับสัญญาณจาก สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่า รัสเซีย อาจตกลงในข้อตกลงหยุดยิง โดยปราศจากให้รายละเอียดใดๆ "นี่คือสัญญาณแรกจากพวกเขา"
เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมซัมมิต เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่งของอเมริกาก่อนหน้านี้ว่า ทรัมป์ ไม่ได้มองการประชุมดังกล่าวว่าเป็นการยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย
ขณะเดียวกันทำเนียบขาวยืนยันว่าการประชุมมีขึ้นตามหลังคำร้องขอของ ปูติน ในขณะที่ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกของประธานาธิบดีทรัมป์ บอกว่าเป้าหมายของประธานาธิบดีคือ "ออกจากที่ประชุม ด้วยความเข้าใจที่ดีขึ้น ต่อแนวหน้าที่เราจะสามารถทำให้สงครามนี้ยุติลง"
ในด้านสมรภูมิรบ เซเลสสกีเตือนว่ารัสเซียกำลังรุกคืบอย่างมากใกล้เมืองถ่านหิน "โดโบรพิลลา" และกำลังมีแผนจู่โจมทางภาคพื้นรอบใหม่ในพื้นที่ต่างๆอย่งน้อย 3 แห่ง ตามแนวหน้า
"หน่วยทหารของรัสเซียรุกคืยลุกเข้ามา 10 กิโลเมตรในหลายจุด พวกเขาไม่มียุทโธปกรณ์ มีเพียงอาวุธในมือ บางส่วนถูกพบแล้ว บางส่วนถูกทำลาย และบางส่วนถูกจับเป็นเชลยศึก เราจะตามล่าที่เหลือและทำลายพวกเขาในอนาคตอันใกล้นี้" เซเลนสกีกล่าว
แผนที่หนึ่งที่เผยแพร่โดยแผ่นที่ออนไลน์ DeepState ซึ่งสังเกตการณ์สมรภูมิยูเครนและมีความใกล้ชิดกับกองทัพยูเครน เผยให้เห็นว่ารัสเซียได้รุกคืบในลักษณะเป็น 2 แง่ง ราวๆ 10 กิโลเมตร ลึกเข้าไปในแนวหน้าใกล้โดโบรพิลลา เมืองที่มีประชากรก่อนสงครามราวๆ 30,000 คน และถูกรัสเซียโจมตีด้วยโดรนเป็นประจำ
การรุกคืบดังกล่าวเสี่ยงก่อภัยคุกคามแก่เมืองคอสเตียนตีนิฟกา พื้นที่ตัวเมืองขนาดใหญ่สุดท้ายในแคว้นโดเนสตก์ ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน สถานการณ์ล่าสุดมีขึ้นหลังจากกองกำลังมอสโกเร่งรุกคืบมาเป็นเวลาหลายเดือน ท่ามกลางความได้เปรียบที่มีเหนือกองกำลังยูเครน
กองทัพยูเครนในวันอังคาร(12ส.ค.) ยอมรับว่าพวกเขากำลังเผชิญกับความยากลำบากในการสู้รบกับกองกำลังรัสเซียในภาคคะวันออก แต่ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่ารัสเซียสามารถยึดที่มั่นใกล้เมืองโดโบรพิลลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(ที่มา:เอเอฟพี)