xs
xsm
sm
md
lg

‘นิวยอร์กไทมส์’แจกแจง ทำไมจึงต้องเรียกร้อง‘ไบเดน’ ให้ถอนตัวจากการลงชิงทำเนียบขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: คณะบรรณาธิการของนิวยอร์กไทมส์



To Serve His Country, President Biden Should Leave the Race
By The Editorial Board of the New York Times
28/06/2024

ภายหลังการดีเบตรอบแรกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ระหว่าง โจ ไบเดน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนนี้จากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันตามลำดับ โดยปรากฏผลเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า ไบเดนเป็นฝ่ายแพ้เละเทะ และที่สำคัญมากก็คือแสดงให้เห็นถึงความชราร่วงโรยของเขาอย่างเด่นชัด ปรากฏว่าคณะบรรณาธิการของนิวยอร์กไทมส์ สื่อทรงอิทธิพลของฝ่ายเสรีนิยมในสหรัฐฯ ได้รีบออกบทความเรียกร้องให้ ไบเดน ถอนตัวออกจากการแข่งขัน เพื่อเปิดทางให้พรรคเดโมแครตหาคนอื่นที่ฟอร์มสดกว่าและมีโอกาสชนะมากกว่ามาแข่งขันกับทรัมป์ บทความนี้สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศของแวดวงการเมืองอเมริกันโดยเฉพาะในฝ่ายเสรีนิยม ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ทรงความสำคัญมากนี้ จึงขอเก็บความนำมาเสนอในที่นี้ ดังนี้:

ประธานาธิบดีไบเดน พูดแล้วพูดอีกและแจกแจงได้อย่างถูกต้องทีเดียวว่า เดิมพันในการเลือกตั้งประธานาธิบดี (สหรัฐฯ) เดือนพฤศจิกายนนี้นั้น ใหญ่โตมโหฬารไม่ได้น้อยไปกว่าอนาคตของประชาธิปไตยอเมริกันเลย

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้พิสูจน์ตัวเขาเองให้เห็นมาแล้วว่าเป็นอันตรายอย่างสำคัญต่อประชาธิปไตยดังกล่าว –เขาเป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในร่องในรอยและเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวซึ่งไม่มีคุณค่าควรที่จะได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากสาธารณชน เขาเคยพยายามอย่างเป็นระบบเพื่อบ่อนทำลายความซื่อสัตย์สุจริตของการเลือกตั้ง พวกผู้สนับสนุนของเขาก็เพิ่งบอกกล่าวอย่างเปิดเผยต่อสาธารชนถึงวาระแห่งปี 2025 ซึ่งจะทำให้เขาได้รับอำนาจเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาและคำข่มขู่อันสุดโต่งของเขาอย่างชนิดสุดๆ ตัวเขาเองก็ประกาศว่าถ้าหากได้กลับมาครองตำแหน่ง เขาจะเป็นประธานาธิบดีชนิดที่แตกต่างออกไป โดยที่จะไม่ยอมถูกเหนี่ยวรั้งด้วยการตรวจสอบทัดทานอำนาจซึ่งถูกสร้างเอาไว้ภายในระบบทางการเมืองอเมริกัน

มิสเตอร์ไบเดนบอกว่าเขาคือผู้เข้าแข่งขันซึ่งมีโอกาสดีที่สุดที่จะรับมือกับการคุกคามแบบทรราชย์เช่นนี้และทำให้มันพ่ายแพ้ปราชัยไป เหตุผลสนับสนุนตัวเขาในเรื่องนี้มีข้อใหญ่ใจความทีเดียวอิงอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเคยเอาชนะมิสเตอร์ทรัมป์มาแล้วในปี 2020 อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้เป็นหลักเหตุผลอันเพียงพออีกต่อไปแล้วสำหรับการยืนยันว่าทำไมมิสเตอร์ไบเดนจึงควรที่จะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครตในปีนี้

ในการดีเบตเมื่อวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) ท่านประธานาธิบดีจำเป็นต้องทำให้สาธารณชนชาวอเมริกันบังเกิดความมั่นอกมั่นใจว่า เขาสามารถที่จะตอบสนองความเรียกร้องต้องการอันน่าครั่นคร้ามของตำแหน่งที่เขากำลังเสาะหาทางเพื่อให้ได้ครองต่อไปอีกสมัยหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม มันไม่สามารถคาดหมายว่าบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงจะเพิกเฉยละเลยต่อสิ่งที่พวกเขากลับมองเห็นกันได้อย่างถนัดชัดเจนเหลือเกิน นั่นคือ มิสเตอร์ไบเดนไม่ได้เป็นบุรุษที่เขาเคยเป็นเมื่อ 4 ปีก่อน

ท่านประธานาธิบดีปรากฏตัวในคืนวันพฤหัสบดี [1] ในสภาพที่เป็นเงาของบริกรผู้รับใช้สาธารณชนผู้ยิ่งใหญ่ เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่ออธิบายสิ่งที่เขาจะกระทำให้สำเร็จในสมัยที่สอง เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อตอบโต้การยั่วยุของมิสเตอร์ทรัมป์ เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อทำให้มิสเตอร์ทรัมป์ต้องยอมรับผิดสำหรับการโกหกพกลมของเขา, ความล้มเหลวของเขา, และแผนการที่ชวนให้หนาวสะท้านของเขา มีมากกว่าหนึ่งครั้งที่เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้สามารถพูดออกมาจนจบประโยค

มิสเตอร์ไบเดนเป็นประธานาธิบดีที่น่านับถือยกย่องคนหนึ่ง ภายใต้ความเป็นผู้นำของเขา ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองมั่งคั่ง [2] และเริ่มที่จะจัดการกับบรรดาความท้าทายระยะยาวต่างๆ และบาดแผลต่างๆ ที่ถูกกรีดให้เปิดกว้างโดยฝีมือของมิสเตอร์ทรัมป์ก็เริ่มได้รับการบำบัดเยียวยา ทว่าการรับใช้สาธารชนอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งมิสเตอร์ไบเดนสามารถกระทำได้ในตอนนี้ ก็คือการประกาศว่าเขาจะไม่ลงรับเลือกตั้งเพื่อเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งแล้ว

อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ท่านประธานาธิบดีกำลังเข้าไปพัวพันอยู่ในการเล่นพนันที่บุ่มบ่ามไร้ความยั้งคิด ยังมีพวกผู้นำของพรรคเดโมเครตอยู่อีกที่มีความพรักพร้อมมากกว่าเขา ซึ่งสามารถเสนอตัวให้แก่ผู้มีสิทธิออกเสียง ในฐานะเป็นทางเลือกอันชัดเจน, มีเสน่ห์จับจิตจับใจ, และทรงพลังมีความกระฉับกระเฉง จะได้ไม่ต้องไปเลือกทรัมป์ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่พรรคจะต้องนำเอาเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศชาติเข้าไปเสี่ยงภัย ด้วยการบังคับให้ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องเลือกเอาระหว่างความบกพร่องไม่เพียงพอของมิสเตอร์ทรัมป์ กับความบกพร่องไม่เพียงพอของมิสเตอร์ไบเดน มันเป็นการวางเดิมพันก้อนใหญ่เกินไปที่จะไปคาดหวังเอาอย่างง่ายๆ ว่าชาวอเมริกันจะยอมมองข้ามหรือจะยอมลดความสำคัญในเรื่องอายุและความอ่อนล้าโรยราของมิสเตอร์ไบเดน ซึ่งพวกเขาสามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาของพวกเขาเอง

ถ้าหากการแข่งขันเหลืออยู่เพียงแค่การต้องเลือกเอาระหว่างมิสเตอร์ทรัมป์กับมิสเตอร์ไบเดนแล้ว ท่านประธานาธิบดีที่กำลังดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันจะเป็นผู้ได้รับเลือกจากคณะบรรณาธิการนี้อย่างแน่นอนที่สุด นั่นแสดงให้เห็นว่ามิสเตอร์ทรัมป์กลายเป็นตัวสร้างอันตรายได้มากมายขนาดไหน ทว่าเมื่อพิจารณาถึงอันตรายดังที่ว่านี้, เดิมพันสำหรับประเทศชาติ, และความสามารถที่ไม่สม่ำเสมอเสียแล้วของมิสเตอร์ไบเดน สหรัฐฯก็จำเป็นที่จะต้องมีปรปักษ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้ในการต่อกรกับผู้ที่คาดหมายกันว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ การที่ต้องออกมาเรียกร้องให้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครตคนใหม่ ในช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงซึ่งสายมากแล้วถึงขนาดนี้ คือการตัดสินใจที่ไม่ใช่กระทำได้อย่างง่ายดายเลย แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงขนาดขอบเขตและความสาหัสร้ายแรงของความท้าทายของมิสเตอร์ทรัมป์ที่มีต่อคุณค่าและต่อสถาบันต่างๆ ของประเทศนี้ ตลอดจนความไม่เพียงพอของมิสเตอร์ไบเดนที่จะสามารถประจันหน้ากับเขาได้

การที่จะยุติปิดฉากการเข้าแข่งขันของตัวเขา ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับสัญชาตญาณส่วนตัวและสัญชาติญาณทางการเมืองทั้งหมดทั้งสิ้นของมิสเตอร์ไบเดน เขาคือผู้ที่สามารถหยิบยกนำพาตัวเองให้ก้าวขึ้นมาจากบรรดาโศกนาฎกรรมและความเพลี่ยงพล้ำต่างๆ ในอดีต และมีความเชื่ออย่างชัดเจนว่าเขาสามารถทำเช่นนั้นได้อีกครั้งหนึ่ง พวกผู้สนับสนุนของประธานาธิบดีผู้นี้กำลังพยายามอธิบายเพื่อลดทอนน้ำหนักความสำคัญของการดีเบตเมื่อคืนวันพฤหัสบดีลงมาอยู่แล้ว โดยระบุว่ามันเป็นเพียงข้อมูลสถิติตัวหนึ่งซึ่งต้องนำมาเปรียบเทียบกับผลงานความสำเร็จในตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทว่าผลงานการแสดงออกในช่วงดีเบตครั้งนี้ของท่านประธานาธิบดี ไม่สามารถที่จะขีดฆ่าทิ้งไปโดยบอกว่ามันเป็นช่วงคืนที่เลวร้ายแย่เอามากๆ คืนหนึ่ง หรือประณามว่าเป็นเพราะเขาป่วยเป็นหวัดอย่างที่มีการพูดๆ กัน เนื่องจากมันยังเป็นการยืนยันความวิตกกังวลซึ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนหรือกระทั่งหลายปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งเมื่อมิสเตอร์ไบเดนพยายามที่จะพูดอธิบายเกี่ยวกับข้อเสนอทางนโยบายต่างๆ ของเขา เขาก็ยังพูดแบบตะกุกตะกัก มันยังไม่สามารถที่จะลดทอนน้ำหนักความสำคัญลงไปได้ด้วยการออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนในรายการอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันเขามีรายการปรากฏตัวต่อสาธารณชนอย่างจำกัดและผ่านการควบคุมอย่างระมัดระวังยิ่ง

สมควรที่จะต้องระลึกกันเอาไว้ว่า มิสเตอร์ไบเดนเป็นผู้ท้าทายมิสเตอร์ทรัมป์ให้เปิดการดวลกันด้วยคำพูดครั้งนี้ เขาเป็นผู้วางกฎกติกา และเขาเป็นผู้ยืนกรานให้จัดขึ้นมาในวันเวลาก่อนการดีเบตของการเลือกตั้งใหญ่คราวก่อนๆ เป็นเดือนๆ เขาเข้าอกเข้าใจดีว่าเขาจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรับมือกับความวิตกกังวลของสาธารณชนที่มีมานานแล้วเกี่ยวกับความเฉียบคมทางด้านความคิดจิตใจของเขา และเป็นเรื่องที่เขาจะต้องกระทำให้ลุล่วงไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ความจริงที่มิสเตอร์ไบเดนจำเป็นต้องหันมาเผชิญในตอนนี้ก็คือ เขาล้มเหลวสอบตกในบททดสอบที่เขาเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอง

ในการตอบแบบสอบถามหยั่งเสียงแสดงความคิดเห็น และในการให้สัมภาษณ์ต่างๆ พวกผู้มีสิทธิออกเสียงบอกว่า พวกเขามองหาปากเสียงสดๆ ใหม่ๆ ที่จะมารับมือจัดการกับมิสเตอร์ทรัมป์ และคำปลอบโยนสำหรับมิสเตอร์ไบเดนและพวกผู้สนับสนุนตัวเขาก็คือว่า มันยังคงมีเวลาสำหรับการรณรงค์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่มิสเตอร์ไบเดน ทั้งนี้ ขณะที่ชาวอเมริกันกำหนดเงื่อนไขให้การดำเนินการเพื่อเลือกตั้งประธานาธิบดีต้องมีการลงแรงทำงานหนักอยู่เป็นเวลายาวนานเป็นหลายๆ ปี ทว่าในประเทศประชาธิปไตยจำนวนมากแล้ว การรณรงค์หาเสียงถูกกำหนดให้ดำเนินการภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น

มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจที่ชาวพรรครีพับลิกันเองไม่ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบค้นหาทางจิตวิญญาณกันอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ภายหลังการดีเบตในคืนวันพฤหัสบดี ผลงานการแสดงออกของมิสเตอร์ทรัมป์เองสมควรถูกพิจารณาว่าต้องถูกคัดออกเพราะขาดคุณสมบัติ ทั้งนี้เขาโกหกอย่างโจ่งแจ้งและซ้ำแล้วซ้ำอีก [3] ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการกระทำของตัวเขาเอง, ประวัติผลงานสมัยที่เขาเป็นประธานาธิบดี, และเกี่ยวกับปรปักษ์ของเขา เขาพูดถึงแผนการต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจอเมริกัน, บ่อนทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน, และสร้างความเสียหายให้แก่ความสัมพันธ์ที่อเมริกามีอยู่กับประเทศอื่นๆ เขาปฏิเสธไม่ยอมให้คำมั่นสัญญา [4] ว่าเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ ตรงกันข้ามยังคงหวนกลับไปใช้ถ้อยคำภาษาชนิดที่เคยปลุกปั่นยุยงให้เกิดการบุกโจมตีรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมปี 2020 มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันเลือกที่จะไปเข้าด้วยกับความทะเยอทะยานของมิสเตอร์ทรัมป์ [5] ภาระจึงตกอยู่กับพรรคเดโมแครตสำหรับการที่จะต้องยกเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้อยู่เหนือความทะเยอทะยานของบุคคลคนเดียว

ชาวพรรคเดโมแครตที่เคยเชื่อถือคล้อยตามมิสเตอร์ไบเดน ถึงตอนนี้ต้องค้นหาความกล้าหาญให้เจอและไปพูดความจริงง่ายๆ ธรรมดาๆ กับผู้นำของพรรค พวกคนสนิทและพวกผู้ช่วยที่คอยส่งเสริมให้กำลังใจแก่การลงแข่งขันของท่านประธานาธิบดี และคอยหาที่กำบังให้เขาไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนในรายการซึ่งไม่ได้มีการเขียนบทเอาไว้ล่วงหน้า สมควรที่จะต้องยอมรับรู้รับทราบแล้วถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฐานะของมิสเตอร์ไบเดน และความไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถซ่อมแซมแก้ไขความเสียหายดังกล่าว

มิสเตอร์ไบเดนได้ตอบคำถามที่เร่งด่วนคำถามหนึ่งไปแล้วในคืนวันพฤหัสบดี มันไม่ได้เป็นคำตอบอย่างชนิดที่เขาและพวกผู้สนับสนุนของเขากำลังวาดหวังให้เกิดขึ้นมา แต่ถ้าหากความเสี่ยงของวาระที่สองแห่งการดำรงตำรงของทรัมป์มีความใหญ่โตมโหฬารอย่างที่เขาบอกว่ามันเป็นเช่นนั้น –และเราก็เห็นด้วยกับเขาที่ว่าอันตรายดังกล่าวนี้ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ – ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว การที่เขาจะเสียสละอุทิศตัวให้แก่ประเทศนี้ ก็ทำให้เขาและพรรคของเขาเหลือทางเลือกอยู่เพียงทางเดียว

เส้นทางที่ชัดเจนที่สุดสำหรับชาวพรรคเดโมแครตที่จะสร้างความพ่ายแพ้ให้แก่ผู้สมัครลงแข่งขันคนหนึ่งซึ่งถูกนิยามจำกัดความด้วยการโกหกพกลมของเขา ก็คือการทำความตกลงกับสาธารณชนชาวอเมริกันอย่างสัตย์จริงตรงไปตรงมา นั่นคือ ยอมรับว่ามิสเตอร์ไบเดนไม่สามารถที่จะแข่งขันต่อไปได้อีกแล้ว และสร้างกระบวนการขึ้นมาเพื่อคัดสรรคนอื่นสักคนซึ่งมีศักยภาพมากกว่าเข้ามาแทนที่เขา เพื่อทำให้มิสเตอร์ทรัมป์ปราชัยไปในเดือนพฤศจิกายน

มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการพิทักษ์ปกป้องจิตวิญญาณของประเทศนี้ –โดยที่นี่เองก็คืออุดมการณ์ซึ่งได้เคยนำพามิสเตอร์ไบเดนให้ลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2019 –ให้พ้นจากการบิดเบือนอย่างเลวร้ายยิ่งของมิสเตอร์ทรัมป์ และมันคือการรับใช้ที่ดีที่สุดซึ่งมิสเตอร์ไบเดนสามารถกระทำให้แก่ประเทศชาติที่เขาได้รับใช้มาอย่างมีเกียรติมาเป็นระยะเวลายาวนานเช่นนี้

บทความนี้ระบุว่า คณะบรรณาธิการ (the editorial board) ของนิวยอร์กไทมส์ เป็นผู้เขียน โดยที่หนังสือพิมพ์นี้อธิบายเอาไว้ว่า คณะบรรณาธิการ เป็นกลุ่มของนักหนังสือพิมพ์ทำหน้าที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งทัศนะของพวกเขาก่อรูปขึ้นมาจากความเชี่ยวชาญ, การวิจัย, การถกเถียง, และค่านิยมบางอย่างที่ดำรงคงอยู่มายาวนาน [6] ทั้งนี้คณะบรรณาธิการนั้นแยกขาดจากห้องข่าว (newsroom)

เชิงอรรถ

[1]https://www.nytimes.com/2024/06/27/us/politics/biden-debate-democrats.html
[2]https://www.nytimes.com/2024/02/02/us/politics/biden-economy.html
[3]https://www.nytimes.com/2024/06/27/us/politics/trump-debate-performance-falsehoods.html
[4]https://www.pbs.org/newshour/politics/watch-trump-hedges-during-cnn-debate-on-whether-hed-accept-2024-election-results
[5]https://www.nytimes.com/2024/03/06/opinion/trump-republican-party.html
[6]https://www.nytimes.com/interactive/2018/opinion/editorialboard.html

(เก็บความจากเรื่อง To Serve His Country, President Biden Should Leave the Race By The Editorial Board ของนิวยอร์กไทมส์ https://www.nytimes.com/2024/06/28/opinion/biden-election-debate-trump.html)
กำลังโหลดความคิดเห็น