ฮามาสฆ่าไม่ตาย! บลิงเคนสับวิธีทำสงครามกาซาของรัฐยิว ไร้ผล เนทันยาฮูไม่สน กร้าวอิสราเอลต้องชนะศึกครั้งนี้

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน จวกวิธีของอิสราเอลในการทำสงครามกาซาทำให้พลเรือนบริสุทธิ์มากมายต้องสังเวยชีวิต ทว่าจะไม่สามารถพิชิตผู้นำและนักรบฮามาสให้หมดสิ้นได้ ในทางกลับกันกลุ่มติดอาวุธนี้จะยังคงก่อความรุนแรงต่อไปอีกนาน อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังคงเพิกเฉยต่อแรงกดดันเช่นนี้จากอเมริกาผู้เป็นพันธมิตรหลักของตน และในวันจันทร์ (13 พ.ค.) ยังคงเดินหน้าโจมตีทั่วกาซา รวมทั้งเมืองราฟาห์ ขณะที่เนทันยาฮูย้ำยิวต้องชนะศึกครั้งนี้

บลิงเคน ซึ่งปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ในหลายรายการทอล์กโชว์ด้านข่าวทางเครือข่ายทีวีต่างๆ ของสหรัฐฯช่วงวันอาทิตย์ (12) ที่ผ่านมา กล่าวย้ำว่า กลุ่มฮามาส กำลังซ่องสุมกำลังขึ้นมาใหม่ในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา และเสริมว่า แม้กระทั่งกองทัพอิสราเอลรุกคืบลึกเข้าสู่เมืองราฟาห์ และเบื้องต้นอาจประสบความสำเร็จบ้าง แต่เสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อพลเรือนจำนวนมากโดยที่ไม่สามารถทำให้มั่นใจว่า ฮามาสจะไม่กลับมาปกครองกาซาได้อีก

ทั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์กว่าล้านคนหลบภัยอยู่ในเมืองราฟาห์ ขณะที่อิสราเอลอ้างว่า กองกำลังฮามาส 4 กลุ่มก็กำลังซุกซ่อนอยู่ในเมืองซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซาแห่งนี้

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกล่าวอีกว่า การทำสงครามในกาซา ซึ่งขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์สังเวยชีวิตแล้วกว่า 35,000 คนนั้น ทำให้มีแนวโน้มว่า อิสราเอลจะต้องเผชิญการก่อกวนของฮามาสไม่สิ้นสุด รวมทั้งภาวะสุญญากาศทางการเมืองซึ่งเกิดจากการที่กาซาไม่มีผู้ปกครอง ก็มีหวังจะถูกเติมเต็มด้วยภาวะอนาธิปไตยหรือการกลับมาอีกครั้งของฮามาส

บลิงเคนเสริมว่า วอชิงตันยังไม่ได้รับแผนการปกป้องพลเรือนในราฟาห์ที่น่าเชื่อถือจากอิสราเอล รวมทั้งแผนการที่น่าเชื่อถือสำหรับความมั่นคง การปกครอง และการปฏิสังขรณ์กาซาหลังสงคราม

เมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับรายงานของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ (10) ที่ระบุว่า อิสราเอลละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศจากการใช้อาวุธของอเมริกานั้น บลิงเคนตอบว่า ยังมีหลักฐานน้อยเกินกว่าที่จะตัดสินใจยุติการสนับสนุนทางทหารทั้งหมดให้อิสราเอล และสำทับว่า สภาวะที่สับสนวุ่นวายและอันตรายในสงครามกาซาทำให้ยากที่จะพิจารณาว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ในปฏิบัติการต่างๆ และมีการใช้อาวุธอะไรบ้าง

นอกจากนั้น มีรายงานว่าบลิงเคนยังหารือทางโทรศัพท์กับ โยอาฟ กัลแลน รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โดยย้ำว่า อเมริกาคัดค้านปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในราฟาห์ และเร่งเร้าให้อิสราเอลเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมนำความช่วยเหลือเข้าไปแจกจ่ายในกาซา

ทั้งนี้ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว อิสราเอลได้ส่งทหารและรถถังบุกภาคพื้นที่สู่ด้านตะวันออกของราฟาห์ และปิดจุดผ่านแดนหลัก 1 ใน 2 แห่งที่เป็นเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เกือบ 360,000 คนพากันหนีตายอพยพออกจากเมืองดังกล่าว

วันเดียวกันนั้น เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว หารือทางโทรศัพท์กับซาชี ฮาเนกบี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่ราฟาห์ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ที่รับประกันว่า ฮามาสจะพ่ายแพ้ในทุกพื้นที่ในกาซา ซึ่งทางด้านฮาเนกบีรับปากว่า อิสราเอลจะนำข้อกังวลของอเมริกาไปพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการกดดันของอเมริกาที่เป็นพันธมิตรและผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุด อิสราเอลยังคงเดินหน้าถล่มกาซาในวันจันทร์ (13) ซึ่งรวมถึงเมืองราฟาห์ เอเอฟพียังรายงานด้วยว่า มีการปะทะทางเหนือและตอนกลางของกาซา

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันจันทร์เนื่องในวันรำลึกถึงทหารผู้พลีชีพเพื่อชาติและเหยื่อการก่อการร้ายว่า สงครามเพื่ออิสรภาพของอิสราเอลยังไม่จบ และอิสราเอลตัดสินใจเด็ดขาดว่า จะเอาชนะในการต่อสู้ครั้งนี้

ทางด้าน กองกำลังอิซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของฮามาส เผยว่า ได้สู้รบภาคพื้นดินกับทหารอิสราเอลในราฟาห์ และที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ซึ่งอยู่นอกเมืองกาซาซิตี้ ทางตอนเหนือของกาซา

ผู้เห็นเหตุการณ์ยังเผยว่า ชาวปาเลสไตน์ในราฟาห์ได้รับคำสั่งให้อพยพเพิ่มเมื่อวันจันทร์ และครอบครัวจำนวนมากเก็บข้าวของออกเดินทางหลบหนีภัยสงครามแล้ว

ขณะเดียวกัน แม้อิสราเอลประกาศทำลายกองกำลังฮามาสที่เหลืออยู่ในราฟาห์ให้สิ้นซาก ทว่า นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า ทั้งหน่วยข่าวกรองของอเมริกาและอิสราเอลต่างชี้ว่า ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำฮามาส เวลานี้ไม่ได้กบดานอยู่ในราฟาห์

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, บีบีซี, เอพี)