เจรจาหยุดยิงสงครามกาซายังไร้ข่าวดี ยิว-ฮามาสโทษกันบ่อนทำลายข้อตกลง

เอเอฟพี - การเจรจาที่ไคโรไร้ความคืบหน้า ทั้งฮามาสและอิสราเอลกล่าวหากันว่า พยายามบ่อนทำลายความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในสงครามกาซาที่กำลังจุดชนวนการประท้วงทั่วโลก

คณะผู้ไกล่เกลี่ยจากกาตาร์ อียิปต์ และอเมริกา ร่วมหารือกับตัวแทนฮามาสเพื่อรับฟังคำตอบต่อข้อเสนอหยุดยิง 40 วัน และแลกเปลี่ยนนักโทษปาเลสไตน์กับตัวประกันอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (4 พ.ค.) ซึ่งยุติลงก่อนเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอียิปต์เล็กน้อย โดยจะมีการหารือกันต่อในวันอาทิตย์ (5 พ.ค.)

การเจรจาก่อนหน้านี้ชะงักงันส่วนหนึ่งเนื่องจากฮามาสเรียกร้องการหยุดยิงถาวร แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยืนกรานว่า อิสราเอลจะบดขยี้นักรบฮามาสที่ยังเหลืออยู่ในเมืองราฟาห์ให้หมดสิ้นไม่ว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่

สำนักข่าวอัล-อาเฮราที่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองอียิปต์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวระดับสูงว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก และคณะผู้ไกล่เกลี่ยสามารถหาทางออกในประเด็นขัดแย้งส่วนใหญ่ได้แล้ว

เจ้าหน้าที่อาวุโสของฮามาสคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีก่อนเริ่มการเจรจาว่า ฮามาสเปิดกว้างรับการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของอิสราเอลและอเมริกา แต่ยังมีปัญหาอีกหลายประเด็นที่ต้องจัดการ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ฮอสซัม บาดราน เจ้าหน้าที่อาวุโสของฮามาส กล่าวหาว่า การยืนกรานของเนทันยาฮูในการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ทางใต้สุดของฉนวนกาซา มีเจตนาในการทำลายความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

หลังการเจรจาเริ่มต้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลกล่าวหาว่า ฮามาสบ่อนทำลายโอกาสในการบรรลุข้อตกลงเช่นเดียวกันด้วยการไม่ยอมยกเลิกข้อเรียกร้องให้ยุติสงคราม

ทั้งนี้ อิสราเอลไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเจรจาที่ไคโร โดยบอกว่า จะรอจนกว่าการเจรจากรอบโครงการปล่อยตัวประกันมีความคืบหน้าเสียก่อน

การที่ตัวประกันอิสราเอลจำนวนมากยังถูกคุมขังอยู่ในกาซาส่งผลให้สถานการณ์การเมืองในอิสราเอลตึงเครียดหนัก ผู้ประท้วงบางคนกล่าวหาเนทันยาฮูพยายามยื้อให้สงครามยืดเยื้อ

ผู้ประท้วงยังคงชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลบรรลุข้อตกลงเพื่อปล่อยตัวประกันอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีคนนับพันรวมตัวกันในเทลอาวีฟ ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลระบุว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในกาซา 128 คน ซึ่งกองทัพคาดว่า 35 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถูกกดดันอย่างหนักภายในประเทศให้ใช้อิทธิพลกดดันรัฐบาลอิสราเอลมากขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภา 88 คนจากพรรคเดโมแครตของไบเดนเอง ลงชื่อในจดหมายแสดงความกังวลอย่างรุนแรงกับการที่อิสราเอลจงใจขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่พลเรือนปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้ไบเดนพิจารณาระงับการขายอาวุธเว้นแต่อิสราเอลจะเปลี่ยนแนวทางการทำสงครามในกาซา

ซินดี้ แม็กเคน ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ว่า แม้อิสราเอลยอมให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาเพิ่มในช่วงหลายวันมานี้ตามการเรียกร้องของอเมริกา แต่ไม่เพียงพอแก้ปัญหาการอดอยากอย่างครอบคลุมในบริเวณตอนเหนือของกาซา และสถานการณ์นี้กำลังลุกลามลงสู่พื้นที่ทางใต้

นอกจากนั้น สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังระบุว่า อาคารบ้านเรือนในกาซากว่า 70% ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงหรือบางส่วน ซึ่งต้องใช้ความพยายามฟื้นฟูปฏิสังขรณ์สูงมากแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง

ขณะเดียวกัน เทดรอส เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบในราฟาห์อาจนำไปสู่การนองเลือด โดยยูเอ็นคาดว่า ขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์ราว 1.2 ล้านคนหลบภัยอยู่ในเมืองนี้

สงครามกาซายังกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ โดยกองทัพอิสราเอลแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า สังหารผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ 5 คนระหว่างการปิดล้อมใกล้ทัลคาเรมนาน 12 ชั่วโมง

เอเอฟพีระบุว่า นับจากวันที่ 7 ต.ค. ที่นักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปในอิสราเอลที่เป็นต้นเหตุของสงครามครั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 496 คนในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ถูกสังหารโดยทหารหรือผู้ก่อตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล