นิวยอร์กไทมส์/อาร์ที - เครื่องดื่มชูกำลังกลายเป็นตัวเลือกของทหารยูเครนจำนวนมาก รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต่างเหนื่อยล้ากับการรบรากับรัสเซีย แม้มีข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพก็ตาม โดยรายงานระบุว่า ยอดขายเครื่องดื่มชนิดนี้พุ่งกระฉูดเกือบ 50% นับจากสงครามเริ่มต้น และแบรนด์ขายดีที่สุดมีทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์นอกอย่างเรดบูลล์
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันเสาร์ (8 มิ.ย.) โดยอ้างอิงการสัมภาษณ์ทหารยูเครนจำนวนมากว่า เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาเฟอีนชนิดนี้มักเป็นวิธีที่ทหารยูเครนหลายคนใช้เพื่อเอาชนะความเหนื่อยล้าหมดแรงสุดขีด และรับมือกับความจริงอันโหดร้ายในสนามรบ
ทหารที่มีหน้าที่ลาดตระเวนคนหนึ่งบอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังตั้งแต่ตื่นนอน ตอนออกลาดตระเวน ก่อนเข้าโจมตี และอธิบายว่า ถ้าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้คงไม่สามารถเดินเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตรโดยแบกอาวุธหนัก 40 กิโลกรัมไปด้วย แถมส่วนใหญ่ยังอดนอนและไม่ได้กินข้าวนาน 3 วันเต็ม
ทหารบางคนเล่าว่า เลือกแบกเครื่องดื่มชูกำลังออกแนวหน้ามากกว่าขนมปัง
แน่นอนว่า การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปมีผลต่อสุขภาพ เช่น อาจทำให้มือสั่น ความดันโลหิตสูง และมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร โดยผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างทหารอเมริกันเมื่อปี 2018 พบว่า การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังปริมาณมากมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับอาการซึมเศร้า ความกังวล พฤติกรรมก้าวร้าว และอ่อนเพลีย
ทว่า ทหารบางคนเพิกเฉยต่อข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพจากการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นเวลานาน ทหารราบยศนายสิบคนหนึ่งเผยว่า เพื่อนทหารคนหนึ่งที่อายุมากกว่า เป็นโรคหัวใจ และดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้วันละ 10 กระป๋อง ถูกพบเสียชีวิตโดยมือข้างหนึ่งถือกระป๋องเครื่องดื่มนี้อยู่
ตัวแทนในอุตสาหกรรมยังเปิดเผยว่า เครื่องดื่มชูกำลังฮิตในหมู่ผู้บริโภคทั่วไปเช่นเดียวกัน หลายคนดื่มเพื่อให้สามารถรับมือกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ความกังวล และการอดนอน
จากรายงานของนิวยอร์กไทมส์ เครื่องดื่มชูกำลังที่ขนขึ้นรถบรรทุกไปส่งถึงแนวหน้า กลายเป็น “สกุลเงินแนวรบ” และตลาดเครื่องดื่มชนิดนี้กำลังเติบโตไม่หยุดในยูเครนจนเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในสิ่งดีๆ ที่มีอยู่น้อยมากในเศรษฐกิจที่ถูกทำลายย่อยยับของยูเครน ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50% นับจากที่วิกฤตความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อต้นปี 2022
แบรนด์ที่ขายดีที่สุดคือ แบรนด์ท้องถิ่นราคาย่อมเยาอย่างเช่น น็อนสต็อป และพิตบูลล์ รวมถึงแบรนด์นำเข้าอย่างเรดบูลล์จากออสเตรเลีย มอนสเตอร์จากอเมริกา และเฮลล์จากฮังการี
ทั้งนี้ สำนักข่าวอาร์ที นิวส์ของรัสเซียรายงานว่า สถานการณ์การสู้รบล่าสุดนั้น กองทัพยูเครนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบในดอนบาสส์และแคว้นคาร์คิฟที่อยู่ติดกับชายแดนรัสเซีย โดยเคียฟกำลังขาดแคลนกำลังพลอย่างรุนแรงแม้เพิ่งปรับกฎการเกณฑ์ทหารเข้มงวดขึ้นก็ตาม
วันพุธที่แล้ว (5 มิ.ย.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ประเมินว่า ยูเครนสูญเสียทหารเดือนละอย่างน้อย 50,000 นาย มากกว่าที่กองทัพรัสเซียสูญเสียถึง 5 เท่า
