ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (15 พ.ค.) เลื่อนโปรแกรมเดินทางเยือนต่างประเทศทั้งหมด ท่ามกลางสถานการณ์ในสมรภูมิรบที่เสื่อมทรามลงเรื่อยๆ ในขณะที่เคียฟเผยว่าปัจจุบันกำลังมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดในเมืองวอฟชานสค์ ในแคว้นคาร์คิฟ ตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน
การยึดเมืองแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนราว 5 กิโลเมตร จะถือเป็นการรุกคืบครั้งสำคัญที่สุดของรัสเซีย นับตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเปิดฉากรุกเข้าสู่แคว้นแห่งนี้เมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) เปิดแนวรบใหม่ในปฏิบัติการรุกรานและบีบให้ทางยูเครนต้องเร่งเสริมกำลัง
การจู่โจมดังกล่าวทำให้กองกำลังยูเครนเสียสมดุล ก่อนหน้าในสิ่งที่ เซเลนสกี เชื่อว่าอาจเป็นการบุกจู่โจมครั้งใหญ่ของรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ หลังจากมอสโกค่อยๆ รุกคืบอย่างช้าๆ ในภาคตะวันออกของยูเครนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
"สถานการณ์ยากลำบากมาก ศัตรูกำลังยึดจุดประจำการต่างๆ บนท้องถนนของเมืองวอฟชานสค์" โอเลคซีย์ คาร์คิฟสกี ผู้บัญชาการตำรวจลาดตระเวนของเมืองวอฟชานสค์กล่าว
ส่วน ดมริโทร ลาซุตกิน โฆษกของกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า "กลุ่มทหารราบบางส่วนของรัสเซียบุกเข้าไปในเมืองแล้ว ทว่าต่อมากองกำลังยูเครนสามารถขับไล่พวกเขาได้บางส่วน" อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการตั้งรับยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดในแถบชานเมืองทางเหนือและทางตะวันตกเฉียงเหนือ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันพุธ (15 พ.ค.) ว่ากองกำลังของพวกเขายึดถิ่นพักอาศัยได้เพิ่มเติมอีก 2 แห่งในแคว้นแห่งนี้ รวมแล้วเป็น 12 แห่งนับตั้งแต่วันศุกร์ (10 พ.ค.) โดยล่าสุดคือ Hlyboke และลุคยันต์ซี ซึ่งอยู่ห่างจากแถบชานเมืองของคาร์คิฟแค่ราว 25 กิโลเมตร
ก่อนหน้านั้นในช่วงเย็นวันอังคาร (14 พ.ค.) กองทัพยูเครนเผยว่าพวกเขาต้องถอนกำลังออกจากฐานประจำการใหม่ในพื้นที่ของวอฟชานสค์และลุคยันต์ซี สืบเนื่องจากปฏิบัติการบุกจู่โจมและระดมยิงเป็นพายุของฝ่ายศัตรู
เซอร์กีย์ นีคีโฟรอฟ โฆษกของประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า เซเลนสกีระงับการเดินทางเยือนต่างแดนทั้งหมดที่วางแผนเอาไว้สำหรับช่วงไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากผู้นำยูเครนจัดการประชุมทางไกลรายวันกับบรรดาเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง เพื่อประเมินสถานการณ์ในแคว้นคาร์คิฟ และการป้อนอาวุธ
ยูเครนพยายามสกัดการจู่โจมของรัสเซียในแคว้นคาร์คิฟ ยืนหยัดต่อต้านการรุกคืบของมอสโกในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ และป้องกันความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีดินแดนใหม่ๆ
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารระดับสูงของยูเครน เตือนว่ารัสเซียมีกองกำลังทหารกลุ่มเล็กๆ บริเวณทางเหนือของแคว้นคาร์คิฟ ตามแนวชายแดนติดกับแคว้นซูมี ผิดกับยูเครนที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพล เช่นเดียวกับอาวุธที่ได้รับการส่งมอบล่าช้ามานานหลายเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐฯ ที่ทงสภาคองเกรสต้องใช้เวลานาน 6 เดือน ถึงสามารถอนุมัติแพกเกจช่วยเหลือสำคัญๆ ได้
"สำหรับรัสเซีย ตอนนี้มันคือประตูแห่งโอกาสอย่างแท้จริง พวกรัสเซียรู้สึกถึงมันได้ พวกเขามีทรัพยากรต่างๆ อย่างพอเพียง" เซอร์ฮี รัคมานิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงและกลาโหมของรัฐสภายูเครน บอกกับรอยเตอร์
เขาคาดหมายว่าช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นเวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับยูเครน แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น สืบเนื่องจากการได้รับมอบอาวุธล็อตใหม่ หากว่ามันถูกส่งไปถึงตรงเวลา
สถานการณ์ที่เสื่อมทรามลงในแคว้นคาร์คิฟ ประจวบเหมาะกับการเดินทางเยือนกรุงเคียฟของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งบอกว่าอเมริกามีเป้าหมายรับประกันเร่งรัดการส่งมอบอาวุธที่จำเป็นเข้าสู่สมรภูมิอย่างเร็วที่สุด
"เรากำลังเร่งส่งมอบกระสุน ยานเกราะ ขีปนาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศ เร่งส่งมอบพวกมันไปยังแนวหน้า เพื่อปกป้องทหาร และปกป้องพลเรือน" เขากล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)