xs
xsm
sm
md
lg

ร้ายแรงกว่าวิกฤตขีปนาวุธคิวบา! รัสเซียคิดลดความสัมพันธ์ตะวันตก ตอบโต้ US-พันธมิตรถลำลึกสงครามยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัสเซียกำลังพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์กับตะวันตก สืบเนื่องจากการที่สหรัฐฯ และพันธมิตรเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ จากการเปิดเผยของวังเครมลินในวันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.)

การลดระดับความสัมพันธ์หรือถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ จะเป็นการสะท้อนภาพความเคร่งเครียดแห่งการเผชิญหน้ากันระหว่างรัสเซียกับตะวันตกเกี่ยวกับยูเครน หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แม้กระทั่งระหว่างวิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ครั้งที่สงครามเย็นเฉียดใกล้กลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ รัสเซียก็ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แม้มอสโกเคยตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอลเกี่ยวกับสงครามตะวันออกกลางปี 1967

เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่าบรรดาเอกอัครราชทูตกำลังทำงานด้วยความยากลำบากแต่สำคัญในการคงไว้ซึ่งการเปิดช่องทางการสื่อสารกับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่ยุ่งยากเช่นนี้ แต่เขายอมรับว่ากำลังมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดความสัมพันธ์กับตะวันตก

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของความเคลื่อนไหวดังกล่าว ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ระบุว่า เนื่องด้วยท่าทีปัจจุบันของตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย มันจึงเป็นหนึ่งในหลายทางเลือกที่กำลังถูกพิจารณา แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ทั้งนั้น

"ประเด็นเกี่ยวกับการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต คือแนวทางปฏิบัติมาตรฐานของรัฐต่างๆ ที่เผชิญความไม่เป็นมิตรและการแสดงออกถึงความเป็นศัตรู" เปสคอฟกล่าว "สืบเนื่องจากการที่ตะวันตกเข้าเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ สหพันธรัฐรัสเซียไม่อาจยกเว้นแต่พิจารณาทางเลือกต่างๆ สำหรับตอบโต้การแทรกแซงที่เป็นปรปักษ์ดังกล่าวของตะวันตกในวิกฤตยูเครน"

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกคำสั่งให้ทหารหลายหมื่นนายยกพลบุกยูเครนในปี 2022 นำเสนอสงครามในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ในวงกว้างกับสหรัฐฯ ที่เขาบอกว่าเพิกเฉยผลประโยชน์ของมอสโก หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตปี 1991 และจากนั้นก็วางแผนฉีกรัสเซียเป็นชิ้นๆ พร้อมกับยึดทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซีย

ตะวันตก และยูเครน ให้คำจำกัดความสงครามว่าเป็นการบุกยึดดินแดนในลักษณะของจักรวรรดินิยม ขณะที่พวกผู้นำตะวันตก ซึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้ต้องการทำลายรัสเซีย ชี้ว่าถ้า ปูติน ชนะสงคราม เมื่อนั้นพวกเผด็จการทั่วโลกจะฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น

ด้วยที่รัสเซียถือครองความได้เปรียบในสงครามภาคพื้นใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 วิกฤตยูเครนได้ลุกลามปานปลายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงกรณีที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ได้รับมอบจากอเมริกาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ในขณะที่วังเครมลินส่งสัญญาณออกมาว่า พวกเขามองว่าพฤติกรรมดังกล่าวคือการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างร้ายแรง

ปูติน ออกคำสั่งให้ทำการฝึกซ้อมประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี บ่งชี้ว่ารัสเซียอาจประจำการขีปนาวุธทั่วไปที่มีพิสัยโจมตีถึงสหรัฐฯ และพันธมิตร และลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมกับเกาหลีเหนือ

สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปยังคงมีสถานทูตในรัสเซีย และรัสเซียเองก็มีสถานทูตในวอชิงตันและเมืองหลวงต่างๆ ในยุโรป แม้บรรดานักการทูตจากทั้ง 2 ฝ่าย บอกว่าพวกเขาประสบปัญหาเจอสภาพแวดล้อมที่เป็นปรปักษ์มานานหลายทศวรรษ

"มอสโกเลิกล้มความพยายามซ่อมแซมความสัมพันธ์กับตะวันตก" เจฟฟรีย์ โรเบิร์ก นักประวัติศาสตร์ด้านความสัมพันธ์นานาชาติสหภาพโซเวียต ณ มหาวิทยาลัยคอลเลจ คอร์ก ในไอร์แลนด์ให้ความเห็น

"มันเป็นการส่งสัญญาณว่า ปูติน คิดว่าเขาสามารถนำทางโลกใหม่หลายขั้วที่กล้าหาญหนึ่งๆ ขณะเดียวกัน ก็ปฏิเสธที่จะมีสัมพันธภาพกับตะวันตก" เขากล่าว "แต่บางทีมันอาจเป็นแค่สัญลักษณ์ เป็นการประท้วง เป็นสัญญาณความผิดหวังที่มีต่อตะวันตก หรืออาจเป็นบรรเทาอารมณ์พวกสายแข็งรัสเซีย ที่ต้องการขยายวงสงครามในยูเครน"

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น