ไล่ ชิงเต๋อ บอกในวันจันทร์ (24 มิ.ย.) ประชาธิปไตยไม่ใช่อาชญากรรม เผด็จการต่างหากที่เป็น “ปีศาจ” ตัวจริง หลังจีนขู่ลงโทษประหารชีวิต “พวกดื้อรั้น” ที่เรียกร้องสุดโต่งให้แบ่งแยกดินแดนไต้หวันเป็นเอกราช ด้านวอชิงตันไม่พลาดงานเสี้ยม กล่าวหาถ้อยแถลงและการกระทำของเจ้าหน้าที่จีนทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดและบ่อนทำลายเสถียรภาพ
จีนซึ่งยืนกรานว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน แสดงออกอย่างไม่ปิดบังว่า ชิงชัง ไล่ ชิง-เต๋อ ที่เพิ่งทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุว่า ไล่เป็น “พวกแบ่งแยกดินแดน” และปักกิ่งยังเริ่มจัดการซ้อมรบรอบดินแดนไต้หวัน หลังพิธีสาบานตนของไล่ไม่นาน
วันศุกร์ที่ผ่านมา (21) จีนเพิ่มการกดดันไต้หวันด้วยการออกแนวทางปฏิบัติทางด้านกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งมุ่งลงโทษผู้ที่ให้การสนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวัน
ต่อมาในวันจันทร์ (24 ) เมื่อถูกสอบถามเรื่องความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของจีนระหว่างเขาแถลงข่าวที่สำนักงานประธานาธิบดี ไล่ย้ำความเห็นใจต่อผู้ประสบอุทกภัยทางใต้ของจีนก่อนตอบว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่อาชญากรรม เผด็จการต่างหากที่เป็น “ปีศาจ” ตัวจริง
เขายังบอกว่า จีนไม่มีสิทธิลงโทษประชาชนไต้หวัน เพียงเพราะจุดยืนที่พวกเขายึดมั่น รวมทั้งจีนก็ไม่มีสิทธิที่จะมาลิดรอนสิทธิของประชาชนไต้หวันซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของพรมแดน
ไล่ยังพูดแบบเยาะๆ ว่า สำหรับจีนนั้น ใครก็ตามที่ไม่ยึดมั่นแนวความคิดของ “การรวมชาติ” ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน ก็ถูกถือเป็นผู้สนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวันไปหมด
เขาเรียกร้องให้จีนยอมรับการดำรงอยู่ของสาธารณรัฐจีน รวมทั้งแลกเปลี่ยนและติดต่อกับรัฐบาลอันชอบธรรมที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยไม่เช่นนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันจะยิ่งเหินห่างกว่าเดิม
ทั้งนี้ ไล่เป็นพวกที่พยายามตีความว่า ชื่อสาธารณรัฐจีน (Republic of China) หมายถึงไต้หวัน ถึงแม้ชื่อนี้ถูกใช้หมายถึงจีนทั้งหมดตลอดมา แม้กระทั่งหลังจากรัฐบาลสาธารณรัฐจีนของพรรคก๊กมิ่นตั๋งนำโดย เจียง ไคเช็ค พ่ายแพ้พรรคคอมมิวนิสต์ของ เหมา เจ๋อตง ในสงครามกลางเมือง และหลบหนีมาอยู่ที่ไต้หวันในปี 1949 เจียงและรัฐบาลสาธารณรัฐจีนต่อๆ มาซึ่งตั้งฐานอยู่ที่ไต้หวันแล้วก็ยังประกาศอ้างกันมาอีกนานว่า ตนเองคือตัวแทนของจีนทั้งหมด
ในวันเดียวกันนั้น แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แถลงแสดงความกังวลต่อสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นการข่มขู่ของจีนโดยบอกว่า วอชิงตันประณามการใช้ถ้อยคำและการกระทำของเจ้าหน้าที่จีนที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้นและบ่อนทำลายเสถียรภาพ
มิลเลอร์เสริมว่า การข่มขู่และการใช้กฎหมายเป็นอาวุธจะไม่สนับสนุนให้เกิดการแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติในระหว่างสองฝ่ายของช่องแคบไต้หวัน
ในอีกด้านหนึ่ง ไต้หวันระบุว่า นับจากวันพฤหัสฯ (20) ที่ผ่านมา จีนเพิ่มเที่ยวบินทางทหารจำนวนมากออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพร้อมรบร่วมในบริเวณใกล้เกาะไต้หวัน
ทั้งนี้ ระหว่างวันพฤหัสฯ ถึงวันอาทิตย์ (20-23 มิ.ย.) ไต้หวันตรวจพบเครื่องบินของกองทัพจีน 115 ลำปฏิบัติการใกล้ไต้หวัน โดยห่างจากปลายสุดด้านใต้ของเกาะเพียง 31 ไมล์ทะเล (57 กิโลเมตร)
ไต้หวันระบุว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จีนทำกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันเป็นประจำโดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์กดดันที่เรียกว่า การสร้าง “พื้นที่สีเทา”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาวุโสของไทเปเผยว่า การซ้อมรบประจำปี “ฮั่นกวง” ของไต้หวันที่จะเริ่มต้นขึ้นเดือนหน้านั้นมีเป้าหมายจำลองการสู้รบจริงที่เป็นไปได้มากที่สุด ขณะที่มี “การคุกคามจากศัตรู” คือจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไล่ นั้นคัดค้านการอ้างอธิปไตยเหนือไต้หวันของปักกิ่ง และระบุว่าประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินอนาคตของตนเอง พร้อมเสนอเจรจากับจีนแต่ถูกปฏิเสธโดยตลอด
ด้านจีนตอบโต้ว่า ประชาชนจีนทั้งหมดเท่านั้นต่างหากที่สามารถตัดสินอนาคตของไต้หวันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจีน และความเคลื่อนไหวในการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการของไต้หวันจะเป็นเหตุผลอันชอบธรรมสำหรับจีนในการเข้าโจมตีไต้หวัน
รัฐบาลไทเปอ้างว่า ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชอยู่แล้วในชื่อสาธารณรัฐจีน และไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงสถานะนี้
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซีส์)