กลุ่มมือปืนจู่โจมบุก 2 เมืองสำคัญในรัฐดาเกสถานของรัสเซีย ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันจันทร์ (24 มิ.ย.) เพิ่มจำนวนเป็น 19 คน ผู้ว่าการรัฐชี้กองกำลังต่างชาติมีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง โฆษกเครมลินกล่าวหาอเมริกาต้องรับผิดชอบเหตุโจมตีพลเรือนโดยใช้ขีปนาวุธยิงไกลของอเมริกันที่เกิดขึ้นในไครเมียวันอาทิตย์ (23) จนทำให้มีผู้เสียเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีกกว่า 150 คน พร้อมย้ำคำเตือนของปูตินก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียอาจจัดส่งขีปนาวุธที่มิใช่นิวเคลียร์ไปยังภูมิภาคต่างๆ ในระยะที่สามารถโจมตีอเมริกาและยุโรปได้ หากประเทศตะวันตกเหล่านี้ยอมให้ยูเครนใช้อาวุธที่จัดหาให้โจมตีเป้าหมายในรัสเซีย
ที่รัฐดาเกสถาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในภูมิภาคคอเคซัสของรัสเซีย รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มมือปืนพร้อมปืนกล ได้บุกเข้าไปในโบสถ์คริสต์ออร์โธดอกซ์ และโบสถ์ยิวในเมืองเดอร์เบนต์ ตอนค่ำวันอาทิตย์ (23 ) และสังหารบาทหลวงนิโคไล โคเทลนิคอฟ วัย 66 ปี
ส่วนที่เมืองมาฮัชกาลา ในรัฐเดียวกัน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 125 กิโลเมตร มือปืนกราดยิงป้อมตำรวจจราจร และโจมตีโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง ต่อมามีเสียงปืนยิงต่อสู้กันรอบอาสนวิหารอัสสัมชัญในเมืองนี้ ภาพข่าวเผยให้เห็นประชาชนวิ่งหาที่หลบภัยท่ามกลางควันที่พวยพุ่งเหนือท้องฟ้า
จนถึงเย็นวันจันทร์ (24) ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบก่อเหตุคราวนี้ ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียแถลงว่ารวมแล้วมีตำรวจ 15 นาย และพลเรือน 4 คนถูกสังหาร และผู้โจมตีอย่างน้อย 5 คนถูกวิสามัญฆาตกรรม
เซียร์เก เมลิคอฟ ผู้ว่าการรัฐดาเกสถานระบุว่า นี่เป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมทั้งสำหรับดาเกสถานและทั่วประเทศ ก่อนสำทับว่า กองกำลังต่างชาติมีส่วนร่วมในการวางแผนโจมตีครั้งนี้
เมลิคอฟยังประกาศไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตในวันที่ 24-26 มิ.ย. โดยมีการลดธงครึ่งเสา และยกเลิกกิจกรรมบันเทิงทั้งหมด
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่กล่าวหามานานแล้วว่า ตะวันตกพยายามปลุกปั่นกระแสแบ่งแยกดินแดนในคอเคซัส ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ
ดาเกสถานเป็นสาธารณรัฐในสหพันธรัฐรัสเซีย ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และตั้งอยู่ในเขตสหพันธ์คอเคซัสเหนือของรัสเซียที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ภาษา และศาสนา
การโจมตีโบสถ์คริสต์และโบสถ์ยิวจุดชนวนความหวาดกลัวว่า รัสเซียอาจเผชิญการคุกคามจากกลุ่มอิสลามิสต์ระลอกใหม่ หลังเหตุโจมตีนองเลือดในมอสโกเพิ่งผ่านไปเพียง 3 เดือน
เหตุการณ์ในเมืองหลวงรัสเซียดังกล่าวคือการโจมตีคอนเสิร์ตฮอลล์ชานกรุงมอสโกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 145 คน และกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบ
นอกจากนั้น เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วหลังจากสงครามปะทุขึ้นในกาซา กลุ่มผู้ก่อจลาจลโบกธงปาเลสไตน์ได้บุกเข้าไปในท่าอากาศยานเมืองมาฮัชกาลา เพื่อไล่ล่าผู้โดยสารอิสราเอลในเที่ยวบินจากเทลอาวีฟ
สื่อของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายว่า บุตรชาย 2 คนของหัวหน้าเขตเซอร์โกกาลา ในดาเกสถาน อยู่ในกลุ่มของผู้ที่ก่อการโจมตี และถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมตัวแล้ว
อาณาจักรรัสเซียขยายเข้าสู่ภูมิภาคคอเคซัสช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 แต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระอุขึ้นมาหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย จนกระทั่งนำไปสู่สงคราม 2 ครั้งในรัฐเชชเนีย ซึ่งอยู่ติดกับดาเกสถาน เริ่มจากเดือนสิงหาคม 1999 ที่นักรบเชชเนีย ชามิล บาซาเยฟ นำกลุ่มนักรบบุกเข้าสู่ดาเกสถานเพื่อช่วยเหลือกลุ่มวาห์ฮาบิสต์ ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรงในรัฐนั้น อันนำไปสู่การระดมทิ้งระเบิดของกองทัพรัสเซีย ก่อนที่จะเกิดสงครามเชชเนียครั้งที่สอง
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ (24 มิ.ย.) เครมลินได้ออกมากล่าวหาอเมริกาโดยตรงกรณีที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล “อะแทคซิมส์” (ATACMS) ซึ่งได้รับจากอเมริกาโจมตีคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันอาทิตย์ (22 ) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน รวมถึงเด็ก 2 คน และบาดเจ็บอีก 151 คน
เจ้าหน้าที่รัสเซียเตือนว่า สงครามยูเครนกำลังเข้าสู่ช่วงอันตรายที่สุด และปูตินย้ำเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สงครามจะขยายวงออกไป
ทว่า การกล่าวหาอเมริกาโดยตรงสำหรับเหตุโจมตีในไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตนตั้งแต่ปี 2014 ถึงแม้ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ต้องถือเป็นพัฒนาการอีกก้าวหนึ่งของสถานการณ์ในยูเครน
ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียเข้าใจแจ่มแจ้งว่า ใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีไครเมีย และสำทับว่า เห็นได้ชัดว่า ใครเป็นผู้จัดหาอาวุธดังกล่าว ล็อกเป้า และให้ข้อมูลแก่ยูเครน ก่อนขอให้ผู้สื่อข่าวไปถามโฆษกรัฐบาลในยุโรปและอเมริกาว่า เหตุใดรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นจึงต้องฆ่าเด็กรัสเซีย
ก่อนหน้านั้นในวันอาทิตย์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียก็แถลงแล้วว่า อเมริกาต้องรับผิดชอบเหตุโจมตีเมืองเซวาสโตโปล เมืองเอกของไครเมียคราวนี้ โดยภาพข่าวจากสถานีทีวีรัสเซียเผยให้เห็นผู้คนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจากชายหาด หลังจากขีปนาวุธระเบิดเหนือบริเวณดังกล่าวและทำให้ระบเดลูกปรายพุ่งเข้าใส่ผู้ที่พักผ่อนอยู่บนชายหาด
คำแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ยูเครนก่อการร้ายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนในเมืองเซวาสโตโปลด้วยขีปนาวุธเชิงยุทธวิธี ATACMS ติดระเบิดลูกปรายที่อเมริกาจัดหาให้ รวมทั้งใช้ข้อมูลจากดาวเทียมของอเมริกาในการล็อกเป้าโจมตี
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียเผยว่า ได้เปิดการสอบสวนกรณีนี้โดยถือเป็นคดีการก่อการร้ายแล้ว
เมื่อถูกถามว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่างไร เปสคอฟอ้างอิงคำแถลงของปูตินเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมาที่บอกว่า รัสเซียอาจส่งขีปนาวุธที่มิใช่นิวเคลียร์ ไปยังภูมิภาคต่างๆ ภายในระยะที่สามารถโจมตีถึงอเมริกาและพันธมิตรยุโรป หากประเทศเหล่านั้นยังยอมให้ยูเครนใช้อาวุธยิงได้ไกลๆ ที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เปสคอฟสำทับว่า การที่อเมริกามีส่วนเกี่ยวข้องในการสู้รบที่ส่งผลให้คนรัสเซียที่รักสงบเสียชีวิต ต้องได้รับผลลัพธ์จากการกระทำนั้นแน่นอน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)