คนร้ายกลุ่มหนึ่งเปิดฉากกราดยิงและขว้างระเบิดใส่การแสดงดนตรีร็อก ที่คอนเสิร์ตฮอลล์ชานกรุงมอสโกในวันศุกร์ (23 มี.ค.) สังหารผู้เข้าชมไปอย่างน้อย 40 คน บาดเจ็บอีก 100 คน นอกจากนั้นยังวางเพลิงทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามภายในฮอลล์ ทั้งนี้ตามการปากคำของพวกเจ้าหน้าที่รัสเซียตลอดจนคลิปวิดีโอที่มีผู้นำออกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ล่าสุด กลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ออกมาแถลงอ้างตัวเป็นผู้ก่อเหตุคราวนี้
กลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ซึ่งสวมเครื่องแบบชุดลายพราง ได้บุกเข้าไปในอาคารดังกล่าว จากนั้นก็เปิดฉากกราดยิงและขว้างระเบิดมือ หรือไม่ก็เป็นระเบิดเพลิงที่ทำให้เกิดไฟไหม้ ตามปากคำของนักหนังสือพิมพ์ผู้หนึ่งที่ทำงานให้สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตี ของทางการรัสเซีย ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
พระเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วหอแสดงดนตรี โครคัส ซิตี้ คอนเสิร์ต ฮอลล์ แห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองคราสโนกอร์สก์ ทางตอนเหนือของเมืองหลวงรัสเซีย ซึ่งสามารถบรรจุผู้ชมได้หลายพันคน และใช้เป็นที่แสดงของศิลปินระหว่างประเทศระดับท็อปมาแล้วหลายรายการ ทั้งนี้ อาคารแห่งนี้นอกจากคอนเสิร์ตฮอลล์แล้ว ยังมีหอประชุม และโรงละคร โดยใช้ชื่อเรียกรวมๆ กันว่า โครคัส ซิตี้ ฮอลล์ นอกจากนั้น บริเวณใกล้ๆ ยังมีศูนย์การค้า ซึ่งเรียกกันว่า โครคัส ซิตี้ เช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คนร้ายบุกเข้าไป ขณะที่วง “ปิกนิก” ที่เป็นวงร็อกยุคโซเวียต กำลังจะเริ่มการแสดง โดยบัตรการแสดงคราวนี้ขายได้หมดเกลี้ยงทั้ง 6,200 ที่นั่ง
นอกจากนั้นมีสื่อรัสเซียบางเจ้ารายงานว่าได้เกิดการระเบิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 รวมทั้งมีข่าวว่าคนร้ายบางคนยังคงปักหลักอยู่ภายในอาคาร โดยพยายามสร้างเครื่องกีดขวางกำบังตัวเอง
“จากข้อมูลข่าวสารในเบื้องต้น มีผู้ถูกสังหารเสียชีวิตไป 40 คน และอีกกว่า 100 คนได้รับบาดเจ็บ โดยเป็นผลจากการโจมตีของพวกผู้ก่อการร้ายภายในโครคัส ซิตี้ ฮอลล์” เป็นคำแถลงของสำนักงานเอฟเอสบี ที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งอ้างอิงโดยสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ และสื่อรัสเซียรายอื่นๆ
พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของรัสเซียบอกว่า การสืบสวนสอบสวนโดยถือว่าเป็นคดี “ก่อการร้าย” เริ่มต้นขึ้นแล้ว และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้รับรายงานข่าวเพิ่มเติมล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ โฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ แถลงกับสื่อมวลชนรัสเซีย
ทางด้านหน่วยทหารรักษาดินแดนแห่งชาติของรัสเซียบอกว่า กำลังของตนได้เข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุ และกำลังค้นหาพวกคนร้าย ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายหนึ่งระบุว่าเห็นพวกตำรวจพร้อมด้วยสุนัขนักดมกลิ่น ออกตรวจตรายวดยานต่างๆ ที่จอดอยู่ใกล้ๆ กับอาคารที่เกิดเหตุ
สำหรับกลุ่ม “รัฐอิสลาม” ออกคำแถลงอ้างว่า พวกนักรบของตนได้โจมตี “การชุมนุมใหญ่” บริเวณนอกกรุงมอสโก และ “ได้ล่าถอยกลับมายังฐานของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย”
ช่องข่าว บาซา แอน์ด มาช ทางแพลตฟอร์มเทเลแกรม ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพวกหน่วยงานความมั่นคง ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นเปลวไฟและควันโขมงลอยขึ้นมาจากอาคารแห่งนี้
ภาพอื่นๆ แสดงให้เห็นชาย 2 เดินกำลังเดินอยู่ในฮอลล์ และมีคนอย่างน้อย 1 คนนอนอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับทางเข้า นอกจากนั้นยังเห็นพวกผู้เข้าชมคอนเสิร์ตกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ข้างใต้ที่นั่งหรือกำลังพยายามที่จะหลบหนี
พวกเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์สัมภาษณ์ ระบุว่ามีคนร้ายระหว่าง 2 ถึง 5 คน “สวมเครื่องแบบทางยุทธวิธีและถืออาวุธปืนอัตโนมัติ” เปิดฉากยิงใส่พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้า จากนั้นก็เริ่มกราดยิงภายในฮอลล์
“คนที่อยู่ข้างในฮอลล์ได้รับคำแนะนำให้หมอบอยู่กับพื้นเพื่อรักษาตัวเองไม่ให้ถูกยิงเป็นเวลาราว 15 ถึง 20 นาที” สื่อรัสเซียอ้างคำบอกเล่าของนักหนังสือพิมพ์อาร์ไอเอ โนวอสตี โดยเขาบอกด้วยว่า ผู้คนเริ่มคลานออกมาข้างนอก เมื่อได้รับแจ้งว่าปลอดภัย
ทางด้านกระทรวงเหตุฉุกเฉินของรัสเซีย โพสต์ข้อความทางช่องเทเลแกรมของตนว่า มีคนราว 100 คนหลบหนีออกมาได้ผ่านทางห้องใต้ถุนของฮอลล์ ขณะที่อีกหลายๆ คนหลบภัยพักพิงที่บริเวณใต้หลังคา
ทว่าประมาณหนึ่งในสามของอาคารแห่งนี้ทีเดียวที่เกิดไฟไหม สำนักข่าวทาสส์รายงาน
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา แถลงว่า เหตุคราวนี้เป็น “การโจมตีอย่างนองเลือดของผู้ก่อการร้าย”
“ประชาคมระหว่างประเทศทั้งมวล ต้องประณามอาชญากรรมอันน่าขยะแขยงครั้งนี้” เป็นข้อความที่เธอโพสต์ทางเทเลแกรม
ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคง แถลงแสดงความเป็นห่วงบรรดาเหยื่อของการโจมตีกราดยิงอย่างเลวร้ายคราวนี้
ทางทำเนียบขาวบอกด้วยว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ในเฉพาะหน้านี้ ว่าเหตุคราวนี้เกี่ยวข้องกับการสู้รบขัดแย้งในยูเครน
สำหรับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการโจมตีนี้ ขณะที่ฝ่ายข่าวกรองทหารของยูเครนยังไม่ลืมที่จะเรียกเหตุการณ์คราวนี้ว่า เป็น “การยั่วยุ” ของรัสเซีย รวมทั้งกล่าวหาว่าพวกหน่วยพิเศษของมอสโกอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
ด้านกองกำลังอาวุธที่อ้างว่าเป็นชาวรัสเซียซึ่งสู้รบเพื่อยูเครน โดยใช้ชื่อว่า “กองกำลังรัสเซียแห่งเสรีภาพ” และมีบทบาทรับผิดชอบก่อการโจมตีเข้าไปในพื้นที่ของรัสเซียซึ่งอยู่ใกล้ๆ ชายแดนยูเครนมาแล้วหลายครั้ง ในคราวนี้ได้ออกมาปฏิเสธเช่นกันว่า พวกตนไม่มีส่วนใดๆ
กรุงมอสโกและเมืองใหญ่ของรัสเซียแห่งอื่นๆ เคยตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของกลุ่มอิสลามิสต์ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็มีเหตุร้ายหลายกรณีเช่นกันที่ไม่ทราบมูลเหตุจูงใจทางการเมืองที่ชัดเจน
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมอสโก ได้ออกคำเตือนพลเมืองของตนว่า “พวกสุดโต่งมีแผนการที่จะออกปฏิบัติการแล้ว โดยพุ่งเป้าหมายที่การชุมนุมขนาดใหญ่ๆ ในมอสโก” รวมทั้งงานคอนเสิร์ต
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)