xs
xsm
sm
md
lg

สนค.แนะใช้ AR-VR สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทำธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สนค.วิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการค้ายุคใหม่ เผยเทคโนโลยี AR และ VR ถูกนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการท่องเที่ยว ศึกษา ค้าปลีก ชี้เป็นโอกาสผู้ประกอบการใช้ AR และ VR สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการผลักดันให้ธุรกิจขยายตัวด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างกว้างขวาง รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของภาคธุรกิจ เช่น การศึกษา การท่องเที่ยว สุขภาพ การผลิต ธุรกิจค้าปลีก ทำให้เป็นตัวเร่งการขยายตัวของตลาด Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ให้เป็นที่ต้องการมากขึ้น

ทั้งนี้ จากรายงานการเติบโตของตลาด AR และ VR ปี 2565-2569 ของ International Data Corporation (IDC) แสดงให้เห็นว่าตลาด AR และ VR ทั่วโลกในปี 2565 มีมูลค่า 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มสูงถึง 5.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 268.84

นายพูนพงษ์อธิบายว่า สำหรับ AR หรือ Augmented Reality คือเทคโนโลยีความจริงเสริมที่ผสานโลกเสมือนกับมุมมองโลกของความจริง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นโลกดิจิทัลไปพร้อมกับโลกจริง ณ เวลาเดียวกัน (real time) ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แว่น AR หรือสมาร์ทโฟน ขณะที่ VR หรือ Virtual Reality คือ เทคโนโลยีเสมือนจริงที่จำลองสภาพแวดล้อมให้มีความเสมือนจริงอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์มุมมองโลกเสมือน 360 องศาและตัดขาดจากโลกแห่งความเป็นจริงผ่านอุปกรณ์ VR Headset หรืออุปกรณ์เซ็นเซอร์เพื่อแสดงการเคลื่อนไหวในโลกเสมือนจริง

ปัจจุบันเทคโนโลยี AR และ VR ได้ถูกนำมาใช้เป็นจำนวนมากและในหลายสาขา เช่น การท่องเที่ยว สิงคโปร์ ได้พัฒนาทัวร์ AR ผ่านแอปพลิเคชัน Visit Singapore Travel Guide ในสถานที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณ Merlion Park และโรงละครวิคตอเรียและคอนเสิร์ตฮอลล์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวไทย จังหวัดเลยใช้เทคโนโลยี AR และ VR ที่บอกเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเลยและสถานที่ท่องเที่ยวในโลกเสมือนจริง ณ งาน Mask Festival 2023

ศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ สหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยี AR และ VR ผ่านแอปพลิเคชัน The Met Replica เพื่อสร้างประสบการณ์เยี่ยมชมงานศิลปะต่างๆ เช่น ศิลปะอียิปต์ ศิลปะยุโรป และศิลปะเอเชีย รวมถึงการเข้าสู่แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ Roblox โดยผู้เล่นได้มีส่วนร่วมเป็นตัวละครสมมติกับงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ อังกฤษ ใช้เทคโนโลยี VR สร้างคอนเสิร์ตเสมือนจริงของวงดนตรีป็อปสัญชาติสวีเดนอย่าง ABBA โดยมีเพลงดังอย่าง Mamma Mia และ Dancing Queen

การศึกษา อินเดีย สถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย ณ เมืองโชธปุระ ร่วมกับมูลนิธิ TIH iHub Drishti จัดให้มีหลักสูตรการศึกษานอกเวลา ประจำปีการศึกษา 2566-2567 เป็นโปรแกรม MTech เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AR และ VR สำหรับผู้ที่สนใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหลายภาคส่วน เช่น การผลิต สุขภาพ การศึกษา สื่อบันเทิง ไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ใช้เทคโนโลยี AR สร้างภาพจำลองฝึกการกู้ชีพพื้นฐาน (CPR) เพื่อใช้ในการเรียนการสอนทางการแพทย์ให้สมจริงยิ่งขึ้น

ธุรกิจค้าปลีก ไทย บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ใช้เทคโนโลยี 3D-Immersive-Interactive Web 3.0 ผ่านแพลตฟอร์ม MNIVERSE ซึ่งเป็นการศูนย์การค้าบนโลกเมตาเวิร์สแห่งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ ไทยยังมีการนำเอาเทคโนโลยี AR และ VR มาในภาคธุรกิจอื่นอีกด้วย อาทิ ธุรกิจเกม ธุรกิจการพัฒนา Mobile Application ธุรกิจการออกแบบสถาปนิก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจ จัดอบรม-สัมมนา

ธุรกิจสำนักงาน จีน บริษัท Lenovo ใช้เทคโนโลยี AR และ VR ในผลิตภัณฑ์แว่นตา ThinkReality VRX สำหรับลูกค้าขององค์กรและส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานกันเองภายในองค์กรโดยเฉพาะ เช่น แอปพลิเคชันสำหรับการประชุม การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือใช้เป็นการสร้างการโต้ตอบระหว่างโปรแกรมกับมนุษย์

ธุรกิจเครื่องสำอาง ฝรั่งเศส บริษัท L’Oréal ใช้เทคโนโลยี AR สร้างแบบทรงคิ้วอัตโนมัติผ่านอุปกรณ์ช่วยเสริมสวย L’Oréal Brow Magic และเครื่องช่วยทาลิปสติก HAPTA ที่สามารถหมุนได้ 360 องศา เพื่อช่วยผู้ที่เคลื่อนไหวมือและแขนได้จำกัด

“เทคโนโลยี AR และ VR เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายธุรกิจ เนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจในการให้บริการลูกค้า และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในภาคธุรกิจผ่านระบบเสมือนจริง รวมถึงสามารถสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้เสมือนทดลองสินค้าและบริการจริงในต้นทุนที่ต่ำลง ดังนั้น ผู้ประกอบการอาจพิจารณาใช้เทคโนโลยี AR และ VR ในการประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขันธุรกิจในตลาดโลก และมีความพร้อมในการปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต” นายพูนพงษ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น