“ปูติน”แถลงใหญ่ในวันจันทร์ (30 ต.ค.) ระบุยูเครนและฝ่ายตะวันตกสร้างสถานการณ์ยั่วยุปลุกม็อบตามล่าคนยิวในสนามบินดาเกสถานของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ (29) นอกจากนั้นยังกล่าวหาอเมริกาอยู่เบื้องหลังความพยายามปลุกปั่นความไม่สงบในแดนหมีขาวและตะวันออกกลางอีกด้วย ด้านวอชิงตันตอบโต้ ข้อกล่าวหาดังกล่าว “ไร้สาระ”
ตามรายงานของทางการแดนหมีขาว กองกำลังความมั่นคงของรัสเซียจับกุมผู้ก่อเหตุกว่า 80 คนในเหตุการณ์ที่ผู้ก่อจลาจลในสาธารณรัฐดาเกสถาน ซึ่งเป็นดินแดนของรัสเซียที่อยู่ในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ และประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม บุกเข้าไปในลานบินของท่าอากาศยานเมืองมาฮัชกาลา เมืองเอกของสาธารณรัฐแห่งนี้เมื่อค่ำวันอาทิตย์และเข้าล้อมเครื่องบินโดยสารในเที่ยวบินจากอิสราเอล
ต่อมา ระหว่างการประชุมกับพวกสมาชิกระดับสูงของสภาความมั่นคงรัสเซียที่มีการถ่ายทอดทางทีวีเมื่อวันจันทร์ (30) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า เหตุการณ์ในมาฮัชกาลา ได้รับการยุยงปลุกปั่นผ่านโซเชียลมีเดียโดยมีต้นทางมาจากยูเครน รวมถึงพวกเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของฝ่ายตะวันตกด้วย และเสริมว่า การกระทำนี้เป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของวอชิงตันที่มุ่งสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนทั่วโลกเพื่อให้แน่ใจว่า ตนเองจะยังคงมีอิทธิพลครอบงำโลก และขัดขวางไม่ให้ศัตรูอย่างรัสเซียขึ้นมาแทนที่ในโลกยุคใหม่ที่เป็นโลกซึ่งมีแกนอำนาจหลายขั้ว
ประมุขวังเครมลินสำทับว่า กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ยังพยายามทำลายเสถียรภาพสังคมรัสเซียด้วยการโกหก การยั่วยุ การใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และการรุกรานทางจิตวิทยาและทางข้อมูล
ปูตินยังกล่าวหาอเมริกาบ่มเพาะความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง โดยแจงว่า ในความคิดของตนนั้นเห็นได้ชัดว่า ผู้ที่จัดแจงให้เกิดความวุ่นวายนองเลือดคือบรรดาผู้นำในรัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศบริวารที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากความไร้เสถียรภาพของโลก
ประธานาธิบดีรัสเซียเสริมว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัสเซียต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ชัดเจน และทันท่วงทีกรณีที่เกิดการจลาจล เพื่อปกป้องรักษาความกลมเกลียวระหว่างศาสนา
การแสดงความคิดเห็นของปูตินเกิดขึ้นหลังจากมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหายูเครนมีบทบาทโดยตรงในเหตุจลาจลในดาเกสถาน โดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับ อิลยา โปโนมารีออฟ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติรัสเซียที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในยูเครน และเคยเปิดเผยว่า ตนเองเป็นนักลงทุนในช่องรายการ “ยูโทร ดาเกสถาน” ของแอปเทเลแกรม
ทั้งนี้ ก่อนเกิดจลาจลในสนามบินมาฮัชกาลา มีข้อความบนช่องรายการ “ยูโทร ดาเกสถาน” ในแอปเทเลแกรม เรียกร้องผู้คนไปที่สนามบินเพื่อพบ “แขกไม่ได้รับเชิญ” และขับไล่เครื่องบินที่มาจากอิสราเอลพร้อมผู้โดยสารให้ไปจากสนามบิน
ขณะเดียวกัน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จากภาพข่าวการสังหารผู้คนอย่างสยดสยองในกาซาแสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องง่ายมากที่ศัตรูจะฉวยโอกาสยั่วยุให้เกิดความวุ่นวาย
ด้านโอเลก นิโกเลนโก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน สวนกลับทันควันโดยโจมตีมอสโกว่า เหตุการณ์ในมาฮัชกาลาสะท้อนการต่อต้านยิวที่หยั่งรากลึกในหมู่ชนชั้นนำและสังคมรัสเซีย
ส่วน มิไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน สำทับว่า เคียฟไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงดังกล่าว
เช่นเดียวกับแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่บอกว่า ความคิดเห็นของรัสเซียไร้สาระ และเรียกร้องให้มอสโกประณามการประท้วงเหล่านั้นอย่างเปิดเผย ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และรับประกันความปลอดภัยของชาวยิวและอิสราเอลในรัสเซีย
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)