ฝูงม็อบบุกสนามบินแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐดาเกสตานของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์(29ต.ค.) เข้าไปตามล่าชาวอิสราเอลและคนยิว หลังมีข่าวลือมีเที่ยวบินหนึ่งจากอิสราเอลลงจอดที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ ท่ามกลางความโกรธแค้นที่มีต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สังหารผู้คนในฉนวนกาซาไปจำนวนมาก
ความรุนแรงครั้งนี้ ซึ่งมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน เกิดขึ้นในภูมิภาคที่มีชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่ และมันปะทุขึ้นท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสในกาซา กระตุ้นให้อิสราเอลส่งเสียงเรียกร้องให้รัสเซียปกป้องพลเรือนของพวกเขา
ผู้ว่าการรัฐดาเกสตาน ให้คำสัญญาว่าพวกที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะถูกลงโทษ
อ้างอิงวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงสำนักข่าวอาร์ทีและอิซเวสเตียของรัสเซีย พบเห็นพวกผู้ประท้วงหลายสิบคน หลายคนตะโกนว่า Allahu Akbar (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่) บุกฝ่าประตูและแนวกั้น บางส่วนลงไปยังรันเวย์
ไม่นานหลังจากนั้น Rosaviatsiya สำนักงานการบินของรัสเซีย แถลงว่าได้บินสนามบิน สำหรับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก และกองกำลังด้านความมั่นคงได้เดินทางถึงจุดเกิดเหตุแล้ว "สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม" เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุ
ถ้อยแถลงจากกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐดาเกสตาน ระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน หรือใครบ้างที่ได้รับบาดเจ็บ
ในเวลาต่อมา Rosaviatsiya แถลงว่าสนามบินปลอดจากฝูงม็อบแล้ว แต่จะยังคงปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน
ช่องเทเลแกรมท้องถิ่นหลายช่อง เผยแพร่ภาพและวิดีโอ เป็นภาพกลุ่มชายอีกหลายสิบคนรออยู่ด้านนอกสนามบิน เพื่อคอยสกัดรถ และพบเห็นผู้ประท้วงคนหนึ่งชูป้ายข้อความว่า "พวกฆาตกรสังหารเด็ก ไม่ควรมีที่ยืนในดาเกสตาน"
นอกจากนี้แล้วยังปรากฏคลิปวิดีโอ เป็นภาพฝูงชนภายในอาคารสนามบินกำลังพยายามพังประตู ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินพยายามขัดขวางพวกเขา
เวลานี้อิสราเอลได้ยกระดับปฏิบัติการทางอากาศและทางภาคพื้น เล่นงานพวกนักรบฮามาสในฉนวนกาซาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ก่อเหตุบุกโจมตีอิสราเอลแบบไม่มีใครคาดคิด เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
นับตั้งแต่นั้น กระทรวงสาธารณสุขในกาซา เปิดเผยว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 8,000 ราย ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้นแบบไม่รามือของอิสราเอล ในนั้นครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก
ถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ในช่วงเย็นวันอาทิตย์(29ต.ค.) ระบุว่า "อิสราเอลคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่รัสเซียจะปกป้องพลเรือนอิสราเอลทุกคนและชาวยิวทุกคน และดำเนินการอย่างหนักหน่วงกับพวกก่อจลาจลและพวกที่ยั่วยุใช้ความรุนแรงกับชาวยิวและชาวอิสราเอล"
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อัคช์เมด ดูดาเยฟ รัฐมนตรีสารสนเทศของสาธารณรัฐเชเชน ที่อยู่ติดกัน เตือนบนเทเลแกรม เกี่ยวกับการยั่วยุใดๆ และเรียกร้องขอความสงบ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาคคอเคซัส
รัฐบาลดาเกสตาน โพสต์ข้อความลงบนเทเลแกรม เรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้มีความโกรธแค้นต่อการสังหารหมู่ที่ไร้มนุษยธรรมต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ "ขณะเดียวกัน เขาเรียกร้องประชาชนของสาธารณรัฐแห่งนี้ อย่าได้ยอมก้มหัวให้แก่การยั่วยุใดๆและอย่าก่อความตื่นตระหนกในสังคม"
ในช่วงค่ำวันเดียวกัน เซอร์เก เมลิคอฟ ผู้ว่าการสาธารณรัฐดาเกสตาน โพสต์ข้อความบนเทเลแกรม ระบุว่า "ชาวดาเกสตานทุกคนล้วนเห็นอกเห็นใจเหยื่อที่ทุกข์ทรมานจากการกระทำต่างๆของคนและนักการเมืองที่ไร้ความชอบธรรม และสวดมนต์ภาวนาขอสันติภาพในปาเลสไตน์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่สนามบินของเรา มันอุกอาจมากและควรได้รับการประเมินอย่างเหมาะสมจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก"
ข้อมูลของ Flightradar เว็บไซต์ติดตามการบิน พบว่าเที่ยวบินของสายการบินเรดวิงส์ บินออกจากเทลอาวีฟ ลงจอดที่สนามบินมาฮัชคาลา ตอนเวลา 19.00น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00น.) ขณะที่โซตา สื่อมวลชนอิสระของรัสเซีย รายงานว่ามันเป็นเที่ยวบินต่อเครื่อง ซึ่งมีกำหนดขึ้นบินไปมอสโกอีกครั้ง ในอีก 2 ชั่วโมงหลังจากนั้น
สาธารณรัฐดาเกสตานและเชเชน ต่างเป็นพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่ และเป็นภูมิภาคที่พบพบเห็นสถานการณ์ความตึงเครียดรุนแรงกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางรัสเซียมานานหลายปี
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(29ต.ค.) สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอนสติ รายงานว่าศูนย์ยิวแห่งหนึ่ง ในสาธารณรัฐนอร์ทคอเคซัส ถูกจุดไฟเผาในเมืองนาลชิค
(ที่มา:เอเอฟพี)