รอยเตอร์ - รัสเซียลดธงครึ่งเสาในวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) และประกาศเป็นวันไว้ทุกข์ทั่วประเทศสำหรับผู้เสียชีวิต 133 คน จากเหตุการณ์ที่มือปืน 4 คนบุกเข้าไปกราดยิงในสถานที่จัดคอนเสิร์ตชานกรุงมอสโก ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในรัสเซียในรอบสองทศวรรษ
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศให้วันอาทิตย์เป็นวันไว้ทุกข์ทั่วประเทศ หลังจากลั่นวาจาว่า จะไล่ล่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวทั้งหมดมาลงโทษ ผู้นำรัสเซียยังแสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต 133 คน ที่รวมถึงเด็ก 3 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 150 คน
กลุ่มรัฐอิสลามออกมาอ้างความรับผิดชอบการโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) ทว่า ปูตินไม่เอ่ยชื่อผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ต่อหน้าสาธารณชนว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการที่พยายามหลบหนีเข้ายูเครนแต่อย่างใด
ประมุขวังเครมลินยังอ้างว่า มีบางคนในยูเครนเตรียมนำทางผู้ก่อเหตุข้ามแดน แต่ยูเครนยืนกรานว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งปูตินยังกล่าวหาว่า เป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ
วันอาทิตย์ ผู้คนมากมายนำดอกไม้ไปวางที่ครอคัส ซิตี้ ฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่รองรับผู้ชม 6,200 ที่นั่ง และตั้งอยู่นอกมอสโกที่ถูกมือปืน 4 คนบุกเข้าไปกราดยิงด้วยปืนอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดในรัสเซียนับจากปี 2004 ที่กลุ่มนักรบอิสลามบุกยึดโรงเรียนเบสลานและจับตัวประกันกว่า 1,000 คน ซึ่งรวมถึงเด็กหลายร้อยคน นอกจากนั้น ยังมีผู้คนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อรอบริจาคเลือดในมอสโก
ปูตินกล่าวว่า มีผู้ถูกควบคุมตัว 11 คน ซึ่งรวมถึงมือปืนทั้ง 4 คน ที่หนีจากคอนเสิร์ตฮอลล์และมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคบรีแยนสก์ที่อยู่ห่างจากมอสโกทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 340 กิโลเมตร ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น บุคคลเหล่านั้นพยายามหาที่ซ่อนและมุ่งหน้าไปยังยูเครน และมีการจัดเตรียมจากทางฝั่งยูเครนเพื่อนำคนเหล่านั้นข้ามแดน ทางด้านหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย (เอฟเอสบี) แถลงว่า มือปืนมีผู้ติดต่อในยูเครนและถูกจับได้ใกล้ชายแดน ส่วนทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ตอบโต้ว่า เป็นเรื่องปกติของปูตินและ “วายร้ายอื่นๆ” ที่ต้องการโยนความผิดให้คนอื่น
ทั้งนี้ ปูตินสั่งบุกยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 จุดชนวนสงครามใหญ่ในยุโรปหลังเกิดความขัดแย้งในดินแดนด้านตะวันออกของยูเครนยาวนาน 8 เดือนระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มชาวยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียและตัวแทนของรัสเซีย
ในคลิปที่เผยแพร่โดยสื่อรัสเซียและแอปเทเลแกรมที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครมลินนั้น หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกมัดมือ และถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนจิกผมและเหยียบที่ใต้คาง สารภาพด้วยสำเนียงคนรัสเซียว่า ถูกจ้างให้ก่อเหตุโจมตีและที่ทำไปก็เพื่อเงิน โดยผู้ว่าจ้างให้สัญญาจะจ่ายให้ 500,000 รูเบิล (กว่า 5,000 ดอลลาร์เล็กน้อย) และผู้ต้องสัยบางคนให้การผ่านล่ามทาจิก (กลุ่มคนพื้นเมืองในเอเชียกลางที่พูดภาษาเปอร์เซีย)
กลุ่มรัฐอิสลามนั้นเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่เคยยึดครองพื้นที่กว้างขวางในอิรักและซีเรีย แต่ปูตินเข้าแทรกแซงในสงครามกลางเมืองซีเรียเมื่อปี 2015 ด้วยการให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด รบกับฝ่ายตรงข้ามและกลุ่มรัฐอิสลาม อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเหตุใดกลุ่มรัฐอิสลามจึงเลือกโจมตีรัสเซียในเวลานี้
ทางฝ่ายทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแผนการโจมตีในมอสโกให้แก่รัสเซียตั้งแต่ต้นเดือน รวมทั้งออกคำเตือนคนอเมริกันในรัสเซียเมื่อวันที่ 7 มี.ค. และสำทับว่า กลุ่มรัฐอิสลามเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้แต่เพียงผู้เดียว และยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด