รัสเซียถล่มคาร์คิฟ-เครือข่ายพลังงาน เดือนนี้ยูเครนโดนบอมบ์สองพันครั้ง

เอเอฟพี - ยูเครนเผยรัสเซียใช้ระเบิดนำวิถี 4 ลูกโจมตีอาคารที่อยู่อาศัยในเมืองคาร์คิฟเมื่อวันเสาร์ (22 มิ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน นอกจากนั้น ยังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในหลายภูมิภาค เซเลนสกีชี้นับจากต้นเดือนมิถุนายน รัสเซียถล่มยูเครนด้วยจรวดนำวิถีกว่า 2,400 ลูก ในจำนวนนี้ 700 ลูกพุ่งเป้าโจมตีแคว้นคาร์คิฟ

สำนักงานอัยการแคว้นคาร์คิฟที่ตั้งอยู่ชายแดนยูเครนติดกับรัสเซีย เผยว่า มีผู้บาดเจ็บ 52 คน ซึ่งรวมถึงวัยรุ่น 3 คน ส่วนทางด้าน โอเลก ซีเนกูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ เผยก่อนหน้านั้นว่า แพทย์กำลังช่วยชีวิตผู้ป่วย 4 คนซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เขายังโพสต์ภาพหน้าต่างที่ปลิวหลุดจากอาคารจากแรงระเบิด เช่นเดียวกับรถและมินิบัสหลายคันที่ได้รับความเสียหาย ระเบิดยังฉีกผนังแฟลตพังพินาศ ก่อนระบุว่า มีเพียงโครงสร้างด้านพลเรือนที่ถูกโจมตีเสียหาย

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงว่า นับจากต้นเดือนนี้รัสเซียโจมตียูเครนด้วยจรวดนำวิถีกว่า 2,400 ลูก ในจำนวนนี้ 700 ลูกพุ่งเป้าโจมตีแคว้นคาร์คิฟ ซึ่งถือเป็นการก่อการร้ายที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งนี้ รัสเซียเปิดฉากบุกครั้งใหม่ในคาร์คิฟเมื่อเดือนพฤษภาคม และสามารถยึดดินแดนได้เพิ่มขึ้น

เดือนที่แล้ว รัสเซียใช้ระเบิดนำวิถีโจมตีร้านฮาร์ดแวร์ในคาร์คิฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน และบาดเจ็บหลายสิบคน โดยทางรัสเตม ยูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า รัสเซียทิ้งระเบิดนำวิถีโจมตียูเครนรวมเกือบ 10,000 ลูกในปีนี้

สำหรับการโจมตีล่าสุดเมื่อวันเสาร์ อัยการยูเครนระบุว่า รัสเซียใช้ระเบิดนำวิถียูเอ็มพีบี ดี-30 เอสเอ็นโจมตีคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน โดยยิงมาจากแคว้นเบลโกร็อดที่อยู่ติดกับชายแดนยูเครน

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์รอสซิอิสกายา กาเซตาของรัสเซีย รายงานในเดือนนี้ว่า ขณะนี้รัสเซียกำลังใช้ระเบิดนำวิถียูเอ็มพีบี ดี-30 เอสเอ็นในสงครามยูเครน และเสริมว่า ระเบิดรุ่นนี้สามารถยิงได้ทั้งจากภาคพื้นดินและจากเครื่องบิน การคาดการณ์การโจมตีด้วยอาวุธนี้จึงเกือบเป็นไปไม่ได้

เซเลนสกีย้ำว่า การก่อการร้ายด้วยระเบิดนำวิถีของรัสเซียต้องถูกยับยั้งและสามารถยับยั้งได้ พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรตัดสินใจเด็ดขาดเพื่อให้ยูเครนสามารถทำลายผู้ก่อการร้ายและเครื่องบินรบของรัสเซียได้จากทุกที่

กองทัพยูเครนยังระบุว่า รัสเซียใช้ขีปนาวุธร่อน 16 ลูก และโดรนโจมตี 13 ลำ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในหลายภูมิภาคเมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่อถือเป็นการผนึกกำลังโจมตีขนาดใหญ่ครั้งที่ 8 ของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

ในช่วงเวลากว่า 2 ปีนับจากการรุกรานของรัสเซีย ศักยภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าของยูเครนถูกโจมตีจากโดรนและขีปนาวุธของรัสเซีย บีบให้เคียฟต้องสั่งดับไฟและนำเข้ากระแสไฟฟ้าจากสหภาพยุโรป (อียู)

ทางฝั่งรัสเซียระบุว่า กองกำลังรัสเซียผนึกกำลังโจมตีด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูงจากอากาศ ทะเล รวมทั้งใช้โดรน เพื่อโจมตีโรงงานพลังงานที่จัดหาพลังงานในการผลิตอาวุธของยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียสำทับว่า กองทัพยังโจมตีคลังกระสุนและอาวุธที่ยิงจากอากาศที่กองทัพยูเครนได้รับมาจากชาติตะวันตก เพื่อแก้แค้นที่ยูเครนโจมตีเครือข่ายพลังงานของรัสเซีย ด้านกระทรวงพลังงานยูเครนเผยว่า โรงงานพลังงานในแคว้นซาโปริซเซีย และลวีฟทางตอนใต้ได้รับความเสียหาย ขณะที่เซเลนสกีระบุว่า การโจมตีของรัสเซียทำลายศักยภาพด้านพลังงานของยูเครนถึงครึ่งหนึ่ง

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทัพได้ปรับปรุงที่มั่นในแคว้นโดเนตสก์ ลูกันสก์ และคาร์คิฟ อย่างไรก็ดี เดนิส พุชชิลิน หัวหน้าคณะบริหารของรัสเซียในโดเนตสก์ เผยว่า โดเนตสก์ถูกยูเครนโจมตี และพนักงาน 3 คนของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งเสียชีวิตจากระเบิดลูกปราย ส่วนที่แคว้นเบลโกร็อดทางใต้ของรัสเซีย วียาเชสลาฟ แกลดคอฟ ผู้ว่าการแคว้น เผยว่า ชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากฟาร์มใกล้พรมแดนถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่