xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นคำขาด!! มอสโกประกาศจะถล่ม ‘เป้าหมายอังกฤษ’ ทั้งในยูเครนและที่อื่นๆ ขณะ ‘ปูติน’ สั่งกองทัพซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ยุทธวิธี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ระบบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้เคลื่อนที่ “อิสคานเดอร์” (Iskander mobile short-range ballistic missile system) ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งแดนหมีขาวบอกว่าสามารถใช้ยิงหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีที่มีแรงระเบิดเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 5-50 กิโลตัน
มอสโก “ยื่นคำขาดทางทหาร” ประกาศถล่มสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของอังกฤษทั้งที่อยู่ในยูเครนและในที่อื่นๆ ถ้าเคียฟใช้ขีปนาวุธที่ลอนดอนส่งให้มาโจมตีดินแดนรัสเซีย นอกจากนั้น ปูตินยังสั่งซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี เพื่อปราม “พวกหัวร้อนในรัฐบาลตะวันตก” ให้สำเหนียกถึง “ผลกระทบเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ที่ตนเองก่อขึ้น” รวมถึงถอนตัวจาก “การช่วยเหลือกิจกรรมการก่อการร้ายของยูเครน และการถูกดึงเข้าสู่การเผชิญหน้าด้วยอาวุธโดยตรงกับรัสเซีย”

ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำมอสโก ถูกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเรียกเข้าพบเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) หลังจากเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ระหว่างเดินทางเยือนเคียฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยูเครนมีสิทธิใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกลที่อังกฤษส่งให้เพื่อโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงในวันจันทร์ ซึ่งสำนักข่าวอาร์ทีของทางการรัสเซียเรียกว่า “การยื่นคำขาดทางทหาร” (military ultimatum) ระบุว่า เคซีย์ถูกเรียกเข้าพบเพื่อเตือนว่า เป้าหมายการตอบโต้ของรัสเซียถ้าหากถูกยูเครนโจมตีเข้ามาในดินแดนรัสเซียโดยใช้อาวุธของอังกฤษ ก็คือ พวกสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของอังกฤษทั้งที่อยู่ในยูเครน และที่อื่นๆ

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าอเมริกาหรือพวกชาติพันธมิตรต่างระบุชัดเจนว่า อาวุธทางยุทธวิธีพิสัยไกลที่จัดส่งให้เคียฟนั้น ต้องใช้เฉพาะภายในดินแดนยูเครนตลอดจนดินแดนยูเครนซึ่งถูกรัสเซียแย่งยึดไปเท่านั้น เช่น คาบสมุทรไครเมีย แคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูกันสก์ ตลอดจนแคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย

ในคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ถ้อยแถลงของคาเมรอนมีความหมายเท่ากับอังกฤษมีส่วนร่วมในการสู้รบขัดแย้งในยูเครนโดยพฤตินัย

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเสริมว่า รัสเซียถือว่าการแสดงความคิดเห็นของคาเมรอนเป็นหลักฐานการขยายขอบเขตสงคราม และเป็นการยืนยันว่า อังกฤษมีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางทหารในทางฝั่งเคียฟมากขึ้น และเคซีย์ถูกเร่งเร้าให้คิดถึงผลกระทบเลวร้ายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จากขั้นตอนที่เป็นปฏิปักษ์ดังกล่าวของอังกฤษ รวมถึงถูกเร่งเร้าให้ลบล้างถ้อยแถลงยั่วยุก้าวร้าวของคาเมรอนด้วยวิธีที่เด็ดขาดและชัดเจนที่สุด

อย่างไรก็ดี ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษออกมาแถลงปฏิเสธว่า เคซีย์ไม่ได้ถูกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเรียกตัวไป แต่ได้พบปะกับพวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเพื่อประชุมทางการทูต ซึ่งเขาได้กล่าวย้ำการสนับสนุนของอังกฤษที่ให้แก่ยูเครนโดยที่อังกฤษถือว่ายูเครนนั้นถูกรัสเซียรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุ

วันเดียวกันนั้น ก่อนที่เคซีย์จะถูกเรียกตัวเข้าพบ กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ประกาศซ้อมรบเพื่อทดสอบการติดตั้งและใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี โดยระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งการให้ดำเนินการซ้อมรบเช่นนี้หลังจาก “ถ้อยแถลงแบบยั่วยุและข่มขู่” ซึ่งออกมาจากพวกเจ้าหน้าที่ตะวันตก

จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงอธิบายว่า มอสโกหวังว่าการซ้อมรบนี้ “จะทำให้พวกหัวร้อนในรัฐบาลตะวันตกใจเย็นลง” และช่วยให้คนเหล่านั้นเข้าใจผลพวงต่อเนื่องที่อาจถึงขั้นสร้างความหายนะจากความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ที่ตนเองก่อขึ้น ตลอดจนถึงทำให้คนเหล่านั้นถอนตัวจากการช่วยเหลือกิจกรรมการก่อการร้ายของยูเครน และการถูกดึงเข้าสู่การเผชิญหน้าด้วยอาวุธโดยตรงกับรัสเซีย

รัสเซีย และอเมริกายังคงมีฐานะเป็นสองมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยครอบครองหัวรบนิวเคลียร์รวมกันมากกว่า 10,600 หัวรบ จากทั้งหมด 12,100 หัวรบทั่วโลก และนับจากบุกยูเครนเมื่อปี 2022 รัสเซียเตือนหลายครั้งว่ามีความเสี่ยงในการใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น ทว่า อเมริการะบุว่า ยังไม่พบว่ารัสเซียเปลี่ยนแปลงนโยบายนิวเคลียร์แต่อย่างใด

ในอีกด้านหนึ่ง สื่ออาร์ทีของทางการรัสเซียยังรายงานว่า ปิแอร์ เลวี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ถูกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเรียกตัวเข้าพบเช่นกัน ทว่า มอสโกไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้

(ที่มา : อาร์ที, รอยเตอร์, เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น