โครงสร้างพื้นฐานพลังงานยูเครนถูกถล่ม เคียฟขอชาติพันธมิตรช่วยปกป้องน่านฟ้า

เอเอฟพี - รัสเซียส่งขีปนาวุธและโดรนถล่มโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอื่นๆ ของยูเครนเมื่อคืนวันพุธ (19 มิ.ย.) ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อศักยภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า และบีบให้ยูเครนต้องประกาศดับไฟ รวมทั้งนำเข้ากระแสไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่บริษัทพลังงานเอกชนใหญ่สุดเรียกร้องชาติพันธมิตรช่วยปกป้องน่านฟ้าและระบบพลังงาน รวมทั้งฟื้นฟูระบบพลังงานอย่างทันท่วงที ไม่เช่นนั้นยูเครนอาจเผชิญวิกฤตรุนแรงในช่วงฤดูหนาวปีนี้

กระทรวงพลังงานยูเครนแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) ว่า รัสเซียได้โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหลายแห่งใน 4 แคว้น ซึ่งรวมถึงในเคียฟ โดยผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังกึกก้องทั่วเมืองหลวงของยูเครนในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี

ดีเทค บริษัทพลังงานเอกชนรายใหญ่ที่สุดของยูเครน แถลงว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียสร้างความเสียหายรุนแรงต่อโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนแห่งหนึ่งของบริษัท นอกจากนั้น ยังมีพนักงาน 3 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนสำทับว่า นี่เป็นครั้งที่ 7 ที่โรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนของบริษัทถูกโจมตีอย่างรุนแรงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

แมกซิม ทิมเชนโก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ของดีเทค ระบุว่า โรงไฟฟ้าที่ถูกโจมตีเมื่อเช้ามืดวันพฤหัสฯ เสียหายอยู่แล้วจากการโจมตีก่อนหน้านี้ และเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรช่วยปกป้องน่านฟ้าและระบบพลังงาน รวมทั้งฟื้นฟูระบบพลังงานอย่างทันท่วงที ไม่เช่นนั้นยูเครนอาจเผชิญวิกฤตรุนแรงในช่วงฤดูหนาวปีนี้

ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า การโจมตีเหล่านั้นทำให้ศักยภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าหายไปครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พร้อมเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

กองทัพอากาศยูเครนแถลงว่า รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ 9 ลูก และโดรนโจมตีของอิหร่าน 27 ลำ แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถทำลายอาวุธเหล่านั้นได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นขีปนาวุธ 4 ลูก

แถลงการณ์ยังยืนยันว่า สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญหลายแห่งตกเป็นเป้าหมายการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงในแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ หนึ่งในแคว้นที่ดีเทคดำเนินงานอยู่

กองทัพอากาศยูเครนเสริมว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศได้สกัดการโจมตีของรัสเซียในแคว้นซาโปริซเซีย โดเนตสก์ เคียร์ซอน คาร์คิฟ เคียฟ และอีกหลายแคว้น

ทั้งนี้ เครมลินยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีระลอกล่าสุด แม้มอสโกยืนกรานว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนของยูเครนก็ตาม

อย่างไรก็ดี กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยอมรับว่า มีการโจมตีตอบโต้เป้าหมายด้านพลังงานเพื่อแก้แค้นที่ยูเครนระดมโจมตีสถานที่ผลิตน้ำมันในดินแดนรัสเซียหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงคลังจัดเก็บน้ำมัน

เวนยามิน คอนดราเทียฟ ผู้ว่าการแคว้นคราสโนดาร์ของรัสเซียที่อยู่ติดกับคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อหลายปีก่อน แถลงว่า มีผู้หญิงเสียชีวิต 1 คนจากการโจมตีสถานที่ผลิตน้ำมันด้วยโดรนของยูเครนระลอกล่าสุด

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่า ยิงโดรนยูเครนร่วง 15 ลำ โดยโดรนเหล่านั้นเล็งโจมตีคลังน้ำมันในสาธารณรัฐอะดีเกยาทางใต้ของประเทศ และแคว้นตัมบอฟ

ทางยูเครนยังไม่ได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบในการโจมตีเหล่านั้น แต่แหล่งข่าวในหน่วยงานความมั่นคงอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีลักษณะคล้ายกันก่อนหน้านี้ที่มีเป้าหมายโจมตีแหล่งรายได้ของรัสเซีย

ขณะเดียวกัน รัสเซียได้ยกระดับการโจมตีด้วยปืนใหญ่ในแคว้นต่างๆ ที่มีการสู้รบทั้งทางใต้และตะวันออกของยูเครน โดยผู้ว่าการแคว้นเคียร์ซอนทางใต้ของยูเครน เปิดเผยเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 3 คนจากการโจมตีในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ที่แคว้นคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนที่เมื่อไม่นานมานี้รัสเซียบุกจู่โจมภาคพื้นดินโดยไม่คาดคิดนั้น ผู้ว่าการแคว้นเผยว่า ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีของมอสโก นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 2 คนในแคว้นโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน