xs
xsm
sm
md
lg

รายงานยูเอ็นชี้ทั้งยิว-ฮามาสก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะอิสราเอลออกโรงโต้ อ้างถูกเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นที่อยู่ เข้าแถวรอเติมน้ำใส่ภาชนะบรรจุ ในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา  ขณะที่ครอบครัวชาวกาซากำลังต้องดิ้นรนหาน้ำดื่มน้ำใช้ ท่ามกลางปัญหาน้ำหายากและปนเปื้อนมลพิษ  โดยที่สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสยังคงดำเนินต่อไป
ผลการสอบสวนของยูเอ็นพบทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างก่ออาชญากรรมสงครามในช่วงเริ่มต้นสงครามกาซา นอกจากนั้นอิสราเอลยังก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติจากการทำให้พลเรือนล้มตายจำนวนมาก ด้านรัฐยิวโต้ว่า รายงานการสอบสวนนี้เป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อต่อต้านตนอย่างเป็นระบบ

สงครามในกาซาคราวนี้ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว จากการที่กลุ่มนักรบฮามาสจู่โจมเข้าไปในภาคใต้อิสราเอล และสังหารเหยื่อ 1,200 คน รวมทั้งจับตัวประกันกว่า 250 คนกลับไปกาซา แล้วอิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ทั้งด้วยการถล่มทิ้งระเบิดทางอากาศและการส่งกำลังภาคพื้นดินดำเนินปฏิบัติการกวาดล้างในกาซา ซึ่งทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 37,000 คน ขณะที่ประชาชน 2.3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน เกิดสภาวะหิวโหยอดอยากอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานมากมายพังพินาศย่อยยับ

ในวันพุธ (12 มิ.ย.) มีการเปิดเผยรายงานคู่ขนาน 2 ฉบับที่จัดทำโดยคณะกรรมการไต่สวน (ซีโอไอ) ของสหประชาชาติ ซึ่งโฟกัสที่การโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และการตอบโต้หลังจากนั้นของอิสราเอลจนถึงเดือนธันวาคม 2023

รายงานทั้งสองระบุว่า ทั้งอิสราเอลและฮามาสก่ออาชญากรรมสงครามที่รวมถึงการทรมาน การฆาตกรรมหรือการฆ่าโดยเจตนา การเหยียบย่ำทำลายศักดิ์ศรี และการปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณ

คณะผู้สอบสวนยังพบว่า อิสราเอลก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการใช้ความอดอยากเป็นอาวุธ ซึ่งไม่ใช้จำกัดอยู่เพียงแค่การล้มเหลวในการจัดหาปัจจัยสำคัญจำเป็น เช่น อาหาร น้ำ ที่พักพิง และยาให้แก่พลเรือนในกาซาเท่านั้น แต่อิสราเอลยังขัดขวางไม่ให้ประเทศหรือองค์กรอื่นใดจัดส่งปัจจัยสำคัญจำเป็นเหล่านั้นเข้าสู่กาซาอีกด้วย

การก่ออาชญากรรมสงครามบางรูปแบบ เช่น การฆาตกรรมของอิสราเอลยังเข้าข่ายการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

รายงานแจกแจงว่า มีพลเรือนมากมายในกาซาบาดเจ็บล้มตาย ตลอดทั้งยังมีการทำลายวัตถุและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนอย่างกว้างขวางซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของกลยุทธ์ของอิสราเอลที่ต้องการทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงหลักการในการจำแนกแยกแยะ ความได้สัดส่วน และการระมัดระวังที่เหมาะสม

ในอีกด้านหนึ่ง คณะกรรมการสอบสวนสรุปว่า สมาชิกฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ รวมทั้งพลเรือนปาเลสไตน์ที่มีส่วนร่วมในการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จงใจสังหาร ทำให้บาดเจ็บ กระทำทารุณ จับเป็นตัวประกัน และใช้ความรุนแรงทางเพศต่อพลเรือนและสมาชิกหน่วยความมั่นคงของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ตลอดทั้งละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

นอกจากนั้นเด็กที่เห็นสมาชิกครอบครัวถูกฆ่ายังถูกบันทึกวิดีโอเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาชวนเชื่อ และคณะกรรมการยังพบว่า เด็กตกเป็นเป้าหมายในการลักพาตัว

รายงานสำทับว่า ทางการอิสราเอลล้มเหลวในการปกป้องพลเรือนทางใต้ของประเทศในเกือบทุกด้าน

สำหรับในเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์อีกพื้นที่นั้น คณะกรรมการพบว่า รัฐบาลและกองทัพอิสราเอลส่งเสริมและยั่วยุให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลใช้ความรุนแรงกับชุมชนปาเลสไตน์

รายงานนี้อิงกับการสัมภาษณ์เหยื่อและผู้เห็นเหตุการณ์ และการศึกษาข้อมูลจากแหล่งเปิดที่ผ่านการตรวจสอบยืนยันแล้ว รวมถึงภาพถ่ายดาวเทียม และรายงานนิติเวชศาสตร์

คณะกรรมการสำทับว่า อิสราเอลขัดขวางการสอบสวนและขัดขวางไม่ให้คณะกรรมการเดินทางเข้าสู่อิสราเอลและดินแดนยึดครองของปาเลสไตน์

ทางด้านอิสราเอลตอบโต้ว่า รายงานของยูเอ็นเป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อต่อต้านตนอย่างเป็นระบบ ขณะที่ฮามาสยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ

อนึ่ง บางครั้งหลักฐานที่หน่วยงานของยูเอ็นเก็บรวบรวมสามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามได้ ซึ่งต้องดำเนินการโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) โดยเมื่อเดือนที่แล้วอัยการของไอซีซีได้ขอออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล รวมทั้งผู้นำฮามาสอีก 3 คนในข้อหาอาชญากรรมสงคราม

ในอีกด้านหนึ่ง ความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงของนานาชาติยังคงไร้ความแน่นอน เนื่องจากทั้งฮามาสและอิสราเอลต่างไม่มีใครออกมาประกาศยอมรับข้อตกลงที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นโหวตรับรองไปเมื่อวันจันทร์ (10 มิ.ย.)

ทั้งนี้ ฮามาสตอบกลับข้อเสนอดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันอังคาร (11 มิ.ย.) ทว่า อิสราเอลระบุว่า คำตอบดังกล่าวก็คือการปฏิเสธ ขณะที่ฮามาสแย้งว่า ทางกลุ่มต้องการย้ำข้อเรียกร้องเดิมที่ไม่ปรากฏอยู่ในข้อเสนอ เช่น การหยุดยิงต้องนำไปสู่การยุติสงครามในกาซาเป็นการถาวรและอิสราเอลต้องถอนทหารออกไป โดยฮามาสยังยืนยันว่า เปิดกว้างสำหรับการทำข้อตกลง

อเมริกานั้นป่าวประกาศมาหลายครั้งว่า อิสราเอลยอมรับข้อเสนอแล้ว แต่จนแล้วจนรอดอิสราเอลยังไม่ได้ออกมาประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเดินหน้าโจมตีตอนกลางและตอนใต้ของกาซาอย่างหนักหน่วง ขณะที่เนทันยาฮูย้ำว่า จะไม่ยุติปฏิบัติการในกาซาจนกว่าจะกำจัดฮามาสสำเร็จ

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น