กองทัพอิสราเอลเสนอแผนบุกราฟาห์-อพยพพลเรือน ขณะเลขาฯ ยูเอ็นเตือนการปฏิบัติการของยิวจะเท่ากับตอกฝาโลงโครงการช่วยชาวปาเลสไตน์นับล้าน

กองทัพอิสราเอลเสนอแผนอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบในกาซา แต่ไม่มีรายละเอียดว่าจะอพยพไปที่ใด ขณะที่เนทันยาฮูย้ำปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์เรือนล้านพักพิงอยู่อย่างทุกข์ยาก เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรัฐยิวในการเอาชนะฮามาส ด้านเลขาธิการยูเอ็นเตือนแผนการดังกล่าวเท่ากับตอกตะปูปิดฝาโลงโครงการบรรเทาทุกข์กาซาของยูเอ็น และนานาชาติ

ในวันจันทร์ (26 ก.พ.) สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า กองทัพได้เสนอแผนอพยพพลเรือนจากพื้นที่ที่มีการสู้รบในฉนวนกาซา รวมทั้งการปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีสงคราม อย่างไรก็ดี คำแถลงไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะอพยพพลเรือนไปยังที่ใด

คำแถลงนี้ออกมาหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญของอียิปต์ กาตาร์ และอเมริกา หารือกับตัวแทนของอิสราเอลและฮามาสที่กรุงโดฮา เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงก่อนที่ชาวมุสลิมเริ่มถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประมาณเดือนหน้า

อเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอลเผยว่า ความพยายามในการเป็นตัวกลางการเจรจาที่ยังดำเนินอยู่มีความคืบหน้าในลักษณะที่เข้าใจได้ว่ามีเป้าหมายอยู่ที่การหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน

อย่างไรก็ตาม ทางฮามาสยังยืนกรานให้อิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า ข้อเรียกร้องของฮามาสเป็นการคิดไปเอง กล่าวว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินในราฟาห์ จะทำให้อิสราเอลเอาชนะฮามาสอย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และแม้ในกรณีที่สามารถทำข้อตกลงหยุดยิงขึ้นมาได้ อิสราเอลก็คงแค่เลื่อนปฏิบัติการนี้เท่านั้น แต่จะไม่ยกเลิก

ส่วนที่เจนีวา แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเตือนเมื่อวันจันทร์ (26) ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็นว่า เมืองราฟาห์ ที่อยู่ทางใต้สุดของกาซาและมีชาวปาเลสไตน์กว่า 1.4 ล้านคนแออัดหลบภัยอยู่ เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับกาซา ดังนั้น ปฏิบัติการบุกราฟาห์ของอิสราเอลไม่เพียงสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้ชาวปาเลสไตน์กว่าล้านคนเหล่านั้น แต่ยังเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงโครงการบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นและนานาชาติสำหรับกาซาด้วย

กูเตอร์เรสย้ำว่า ฮามาสไม่มีข้ออ้างใดๆ ในการทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย ทรมานและลักพาตัวพลเรือน ใช้ความรุนแรงทางเพศ หรือการสุ่มโจมตีอิสราเอลด้วยจรวด เช่นเดียวกับที่อิสราเอลไม่มีข้ออ้างใดๆ ในการลงโทษชาวปาเลสไตน์แบบเหมารวม

ผู้นำยูเอ็นย้ำว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาไม่เพียงพอโดยสิ้นเชิง และเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที รวมทั้งปล่อยตัวประกันโดยไม่มีเงื่อนไข

กูเตอร์เรสยังแสดงความผิดหวังที่ข้อเรียกร้องเร่งด่วนของตนเองให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นดำเนินมาตรการทั้งหมดเพื่อยุติการนองเลือดในกาซาไม่ได้รับการตอบสนอง

ทั้งนี้ อเมริกาใช้สิทธิในฐานะสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง ยับยั้งญัตติเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาทันทีมาแล้ว 3 ครั้ง

รายงานระบุว่า กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีเป้าหมายทั่วกาซา โดยกระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงเมื่อเช้าวันจันทร์ว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 92 คนจากการโจมตีตลอดคืนวันอาทิตย์ (25 ก.พ.) และนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีผู้เสียชีวิตในกาซาอย่างน้อย 29,692 คน

กษัตริย์จอร์แดน อับดุลเลาะห์ที่ 2 เตือนว่า การสู้รบในระหว่างเดือนรอมฎอนเพิ่มความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะลุกลามออกไป

อย่างไรก็ดี คณะผู้ไกล่เกลี่ยหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวและแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษฮามาสก่อนเริ่มต้นเทศกาลรอมฎอนในวันที่ 10 หรือ 11 เดือนหน้า

ขณะเดียวกัน สื่อรายงานว่า คู่สงครามกำลังพิจารณาข้อเสนอในการหยุดยิงนาน 6 สัปดาห์ และแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลชุดแรกประกอบด้วยผู้หญิง เด็ก และผู้ป่วย กับนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอล

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)