อิสราเอลขู่เปิดฉากบุกเมืองราฟาห์ ถ้าตัวประกันยังไม่ได้รับอิสรภาพหลังจากเริ่มต้นช่วงถือศีลอดรอมฎอน ซึ่งคาดกันจะอยู่ในราวต้นเดือนหน้า ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานอัปเดตล่าสุดผู้ถูกรัฐยิวสังหารในสงครามซึ่งทะลุ 29,000 คนแล้ว
การข่มขู่เช่นนี้ของรัฐยิวสร้างความวิตกกังวลให้แก่นานาชาติ เนื่องจากเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของฉนวนกาซา ติดกับชายแดนอียิปต์ ถือเป็นเมืองท้ายๆ ในกาซาที่ยังไม่ถูกกองทหารอิสราเอลบุกโจมตีทางภาคพื้นดินด้วยข้ออ้างว่าเพื่อกวาดล้างกองกำลังอาวุธของกลุ่มฮามาสและค้นหาช่วยเหลือตัวประกันซึ่งถูกจับมาจากภาคใต้อิสราเอล โดยที่ในเขตเมืองราฟาห์ตอนนี้มีชาวปาเลสไตน์ 3 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดกว่า 2 ล้านคนในกาซา ใช้เป็นที่พักพิงหลบภัยสงคราม ท่ามกลางความเป็นอยู่อันทุกข์ยากลำบากไม่สามารถเข้าถึงน้ำ อาหาร และยาอย่างเหมาะสม
เบนนี แกนซ์ อดีตเสนาธิการทหารและปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ประกาศในงานประชุมผู้นำอเมริกันเชื้อสายยิวที่เยรูซาเลมเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.พ.) ว่า ถ้าถึงเทศกาลรอมฎอนแล้วตัวประกันอิสราเอลยังไม่ได้รับอิสรภาพ การสู้รบจะดำเนินต่อไปทุกที่ในกาซา รวมถึงเมืองราฟาห์
ทั้งนี้ เดือนรอมฎอน หรือเทศกาลเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อใดต้องขึ้นอยู่กับการสังเกตเห็นดวงจันทร์ในช่วงวันใกล้ๆ โดยในปีนี้ประมาณกันว่าน่าจะเริ่มวันที่ 10 มีนาคม
แกนซ์อ้างโดยไม่มีรายละเอียดว่า การบุกภาคพื้นดินเข้าสู่ราฟาห์จะดำเนินการร่วมกับอเมริกาและอียิปต์เพื่อพยายามลดความสูญเสียของพลเรือนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
นอกจากนั้น อิสราเอลยังไม่เคยระบุแผนการที่เป็นรูปเป็นร่างเลยว่าจะอพยพชาวปาเลสไตน์จากเมืองราฟาห์ไปยังสถานที่ใดซึ่งคิดว่าปลอดภัยกว่า หลังจากสงครามนาน 4 เดือนทำให้ทั่วทั้งฉนวนกาซาเสียหายราบเป็นหน้ากลอง
คณะผู้เจรจาไกล่เกลี่ยของนานาชาติพยายามมาหลายสัปดาห์เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงนาน 6 สัปดาห์และปล่อยตัวประกัน
ทว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ประกาศคัดค้านข้อเรียกร้อง “ที่คิดไปเอง” ของฮามาส และยืนยันว่า ไม่ว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ อิสราเอลจะต้องปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นด้วยการกวาดล้างฮามาสออกจากฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงการบุกเมืองราฟาห์
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความกดดันมากขึ้นจากนานาชาติต่ออิสราเอล ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้เปิดการไต่สวนนานหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่วันจันทร์ (19 ก.พ.) เกี่ยวกับผลลัพธ์ทางกฎหมายจาการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์นาน 57 ปีของอิสราเอลตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้อง
การไต่สวนดังกล่าวเป็นคนละคดีกับที่แอฟริกาใต้กล่าวหาอิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา
ในส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นนั้น ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกัน ประกาศว่าจะใช้สิทธิยับยั้งญัตติเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาทันทีซึ่งจะมีการโหวตในสัปดาห์นี้ โดยอ้างว่าญัตติดังกล่าวบ่อนทำลายการเจรจาหยุดยิงที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
มีรายงานว่าชาติตะวันตกพยายามผลักดันเพื่อให้มีการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ แม้จะเป็นการรับรองเพียงฝ่ายเดียวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทว่า เมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.พ.) รัฐบาลอิสราเอลยืนกรานคัดค้านแนวทางดังกล่าว
ทางด้านฮามาสขู่ระงับการมีส่วนร่วมในการเจรจาหยุดยิง หากไม่มีการจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่พื้นที่ตอนเหนือของกาซา
ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลยังคงระดมโจมตีทั่วฉนวนกาซา และขณะนี้ปฏิบัติการทางทหารทางภาคพื้นดินกระจุกอยู่ในเมืองข่านยูนิสที่อยู่ห่างจากเมืองราฟาห์ไม่กี่กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำฮามาสในกาซาที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สั่งการให้นักรบบุกข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
เหตุการณ์ดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,160 คนในอิสราเอล และอีก 250 คนถูกจับเป็นตัวประกันกลับไปคุมขังในกาซานั้น เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งล่าสุดที่เมื่อวันจันทร์ กระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 107 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และรวมยอดผู้เสียชีวิตในกาซานับจากสงครามเริ่มต้นอยู่ที่ 29,092 คน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)