ล้มโต๊ะเจรจา! เนทันยาฮูกร้าวลุยขยี้เมืองราฟาห์ในกาซา ไม่หวนคุยข้อเรียกร้อง 'ปลอมๆ' ของฮามาส

อิสราเอลส่งคณะเจรจาไปกรุงโคโร เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง ตามคำขอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่พวกเขาจะไม่กลับไปเจรจาอีกแล้ว สืบเนื่องจากข้อเรียกร้อง "หลอกลวง" ของพวกฮามาส จากคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ในวันเสาร์ (17 ก.พ.)

เนทันยาฮู บอกด้วยว่าอิสราเอลจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของนานาชาติ ในเรื่องของข้อตกลงความเป็นรัฐกับปาเลสไตน์ ซึ่งเขาบอกว่าจะบรรลุความเห็นพ้องผ่านการเจราโดยตรงเท่านั้น และปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ

การเจรจาที่มีอียิปต์และกาตาร์เป็นคนกลาง ในความพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและรับประกันอิสรภาพของตัวประกันอิสราเอลกว่า 100 คน ที่ยังโดนควบคุมตัวอยู่ในดินแดนดังกล่าวที่ถูกปกครองโดยนักรบปาเลสไตน์ ยังไม่ผลิออกดอกผล ในขณะที่การเจรจาอีกรอบในไคไรเมื่อวันอังคาร (13 ก.พ.) ยุติลงโดยปราศจากข้อสรุปใดๆ

เมื่อถูกถามระหว่างการแถลงข่าวในวันเสาร์ (17 ก.พ.) ว่าทำไมคณะผู้แทนเจรจาของอิสราเอลถึงไม่เดินทางกลับไปเจรจาเพิ่มเติม เนทันยาฮู ตอบว่า "เราไม่ได้รับอะไรกลับมา ยกเว้นแต่ข้อเรียกร้องหลอกๆ ของฮามาส"

เขากล่าวว่าข้อเรียกร้องเหล่านั้น ในนั้นรวมถึงยุติสงครามและรามือจากฮามาส ปล่อยฆาตกรหลายหลายพันคนออกจากเรือนจำต่างๆ ของอิสราเอล และแม้กระทั่งเรียกร้องในเรื่องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นจุดล่อแหลมแห่งหนึ่งในเยรูซาเลม ที่เรียกกันว่าเนินพระวิหาร (Temple Mount) ในศาสนายิว และเรียกว่า Noble Sanctuary ในหมู่ชาวอิสลาม

เนทันยาฮู กล่าวว่า ตัวแทนของอิสราเอลนั่งลงและรับฟัง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน "ผมอยากบอกว่าไม่แม้แต่มิลลิเมตรเดียว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่นาโนเมตรเดียว" พร้อมระบุว่าไม่มีเหตุผลที่คณะเจรจาจะเดินทางกลับไปพูดคุย "จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง"

ท่าทีแข็งกร้าวของเนทันยาฮู มีขึ้นแม้ว่าเขากำลังเผชิญแรงกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ ให้บรรลุข้อตกลงกับฮามาส มีประชาชนชาวอิสราเอลหลายพันคนรวมตัวกันบริเวณด้านนอกกองบัญชาการทหารในเทลอาวีฟ แสดงจุดยืนสนับสนุนตัวประกันที่ยังคงอยู่ในกาซา ชูรูปภาพและป้ายข้อความเรียกร้องให้หาทางช่วยพวกเขา ในนั้นรวมถึงข้อความที่เขียนว่า "เวลากำลังหมดลงแล้ว"

ฮามาส บุกจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับตัวประกัน 253 คน แต่ในนั้นมากกว่า 100 คน ถูกปล่อยตัวออกมา ในข้อตกลงหยุดยิงช่วงสั้นๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและรุกรานทางภาคพื้นแก้แค้นของอิสราเอลหลังจากนั้น ได้ทำลายล้างพื้นที่เกือบทั้งหมดของกาซา สังหารผู้คนไปแล้ว 28,775 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และบีบให้ชาวบ้านอีกมากกว่า 2 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ในเรื่องความเป็นไปได้ของการรับรองฝ่ายเดียวความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ ทางเนทันยาฮู โต้แย้งว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะว่าจะเท่ากับเป็นการมอบรางวัลชิ้นโตให้แก่พวกก่อการร้าย "อิสราเอลภายใต้การนำของผม จะเดินหน้าคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อการรับรองฝ่ายเดียวรัฐปาเลสไตน์" เขากล่าว "ข้อตกลงใดๆ สามารถบรรลุได้ผ่านการเจรจาโดยตรงระหว่าง 2 ฝ่ายเท่านั้น โดยปราศจากการวางข้อแม้ล่วงหน้าใดๆ"

อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวโทษอิสราเอลต่อการเจรจาที่ไร้ความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ในถ้อยแถลงของทางกลุ่มที่เผยแพร่ออกมาในวันเสาร์ (17 ก.พ.)

ฮานิเยห์ บอกว่าฮามาส จะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆ ที่น้อยไปกว่าการยุติความเป็นปรปักษ์โดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับอิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา และยุติการปิดล้อมฉนวนแห่งนี้ รวมไปถึงปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังตามเรือนจำต่างๆ ของอิสราเอลมาช้านาน

จุดยืนล่าสุดของเนทันยาฮู เกี่ยวกับการเจรจา มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ให้แสดงความอดทนอดกลั้น หลังจากประกาศเดินหน้าปฏิบัติการจู่โจมเมืองราฟาห์ ซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างปลอดภัยสุดท้ายในกาซา

เนทันยาฮู กล่าวในวันเสาร์ (17 ก.พ.) ว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เรียกร้องอิสราเอลอย่าได้เดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ เท่ากับเป็นการบอกให้อิสราเอลยอมพ่ายแพ้ในสงครามกับฮามาส

นายกรัฐมนตรีอิสราเอลรายนี้ ซึ่งประกาศทำลายล้างกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งอยู่เบื้องหลังการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ยังบ่งชี้ด้วยว่าปฏิบัติการทางทหารจะเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันหรือไม่ "แม้ว่าหากเราประสบความสำเร็จ เราก็จะเข้าไปยังราฟาห์"

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)