เอเอฟพี - กาซาเผยมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยจากการโจมตีของอิสราเอลตลอดคืนวันเสาร์ (3 ก.พ.) ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า กองทัพยิวอาจเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ทางใต้สุดของกาซาติดกับพรมแดนอียิปต์เร็วๆ นี้ ขณะที่ฮามาสระบุต้องการเวลาเพิ่มเพื่อพิจารณาข้อเสนอหยุดยิง
กระทรวงสาธารณสุขกาซาที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาสเปิดเผยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (4 ก.พ.) ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 92 คนจากการโจมตีของอิสราเอลตลอดคืนวันเสาร์ ซึ่งรวมถึงการทิ้งระเบิดใส่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองราฟาห์ทางใต้ของฉนวนกาซาที่อยู่ติดกับพรมแดนอียิปต์
ช่วงหลายวันมานี้มีความกังวลมากขึ้นว่า อิสราเอลอาจบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า เมืองที่มีประชากร 200,000 คนแห่งนี้กำลังรองรับประชากรกว่าครึ่งของกาซา โดยคนเหล่านี้หนีมาจากพื้นที่อื่นๆ ที่ถูกโจมตีหนักหลังมีการป่าวประกาศว่า ราฟาห์เป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงเมืองนี้ถูกโจมตีต่อเนื่องเช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ทั่วกาซา
โอซีเอชเอ หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น ระบุว่า ราฟาห์เป็น “หม้ออัดแรงดันแห่งความสิ้นหวัง” และแสดงความกังวลกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เตือนว่า กองทัพอิสราเอลที่เริ่มบุกภาคพื้นดินตอนเหนือของกาซาและค่อยๆ รุกสู่พื้นที่ตอนใต้นั้น จะบุกเข้าสู่ราฟาห์เช่นเดียวกัน ด้านคณะผู้เจรจานานาชาติกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงที่ริเริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ปารีส
โอซามา ฮัมดาน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาสในเลบานอน กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า กรอบโครงที่เสนอยังขาดรายละเอียดบางอย่าง และฮามาสต้องการเวลาเพิ่มเพื่อประกาศจุดยืนของกลุ่มที่อิงกับเป้าหมายในการยุติการรุกรานกาซาโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แหล่งข่าวในกาซาเผยว่า ข้อเสนอของคณะผู้เจรจาเกี่ยวข้องกับการหยุดยิงเบื้องต้น 6 สัปดาห์ ซึ่งจะมีการจัดส่งความช่วยเหลือเพิ่มเข้าสู่กาซา และการปล่อยตัวประกันอิสราเอลแลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในอิสราเอล ขณะเดียวกัน อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสในกาตาร์ ประกาศว่า ข้อตกลงหยุดยิงต้องนำไปสู่การถอนทหารอิสราเอลทั้งหมดออกจากกาซา
สงครามในกาซาปะทุขึ้นหลังจากนักรบฮามาสจู่โจมเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,160 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน นอกจากนั้น ฮามาสยังจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปยังกาซา ซึ่งอิสราเอลระบุว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในกาซา 132 คน ในจำนวนนี้เชื่อว่าเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 27 คน
อิสราเอลประกาศกำจัดฮามาสเพื่อล้างแค้น และเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ทันทีทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อย่างน้อย 27,238 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมเยือนตะวันออกกลางรอบที่ 5 นับจากสงครามกาซาเริ่มต้นในเร็วๆ นี้เพื่อผลักดันข้อเสนอหยุดยิง นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า สเตฟาน เซฌูร์น รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เตรียมเดินทางไปยังตะวันออกกลางเช่นเดียวกัน
การที่รัฐบาลอิสราเอลยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวประกันได้ และความล้มเหลวด้านข่าวกรองที่ทำให้ฮามาสสามารถบุกข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีใหญ่แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อต้นเดือนตุลาคม ทำให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ถูกกดดันอย่างหนัก
ผู้คนนับร้อยชุมนุมประท้วงที่เทลอาวีฟเมื่อคืนวันเสาร์ เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด และขอให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน นอกจากนั้น ยังมีการประท้วงที่เมืองไฮฟาตอนเหนือของอิสราเอล และใกล้ที่พักของเนทันยาฮูในเยรูซาเลม
สงครามในกาซายังทำให้สถานการณ์ตึงเครียดทั่วตะวันออกกลาง โดยกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านก่อเหตุรุนแรงบ่อยครั้งโดยอ้างว่า เพื่อสนับสนุนกาซาด้วยการโจมตีตอบโต้อิสราเอลและพันธมิตรสำคัญคืออเมริกา
ทางด้านอเมริกาและอังกฤษประกาศว่า โจมตีเป้าหมายหลายสิบแห่งในเยเมนเมื่อคืนวันเสาร์เพื่อตอบโต้กลุ่มกบฏฮูตีที่โจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง นอกจากนั้น กองกำลังอเมริกันยังทำลายขีปนาวุธต่อต้านเรือในเยเมนเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งกองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ ระบุว่า กำลังถูกจัดเตรียมเพื่อยิงเป้าหมายในทะเลแดง
ขณะเดียวกัน กองกำลังอิสราเอลแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า นับจากเริ่มต้นสงครามได้โจมตีเป้าหมายกว่า 3,400 แห่งของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทั่วพื้นที่ทางใต้ของเลบานอน รวมถึงเป้าหมายกว่า 50 แห่งที่เชื่อมโยงกับกลุ่มพันธมิตรของฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรีย