เอเจนซีส์ – อิสราเอลแย้มอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อช่วยตัวประกัน หลังแหล่งข่าวเผยผู้อำนวยการมอสสาดดอดพบนายกรัฐมนตรีกาตาร์ที่ยุโรป ด้านฮามาสยืนกรานว่า จะไม่มีการเจรจาจนกว่ายิวจะหยุดรุกรานและสังหารพลเรือนในกาซา
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แถลงเมื่อวันเสาร์ (16 ธ.ค.) ว่า สงครามในกาซาจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะได้ชัยชนะ โดยกาซาจะต้องเป็นเขตปลอดทหารและอยู่ภายใต้การควบคุมด้านความมั่นคงของอิสราเอล
เนทันยาฮูสำทับว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซามีส่วนผลักดันให้ฮามาสยอมปล่อยตัวประกันบางส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมประกาศจะเดินหน้ากดดันทางทหารอย่างหนักต่อฮามาส รวมทั้งทำลายล้างนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ที่ปกครองฉนวนกาซาในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ฮามาสสังหารผู้คน 1,200 คน และจับตัวประกัน 240 คนกลับกาซาระหว่างการจู่โจมบุกอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. อันเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอล ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาเผยว่า ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเกือบ 19,000 คนในขณะนี้ ไม่รวมอีกหลายพันคนที่เชื่อว่า ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
แพลตฟอร์มข่าวแอกซิออสรายงานว่า เดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอล พบกับนายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานีของกาตาร์ ในสถานที่ที่ไม่เปิดเผยที่ยุโรปเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) ขณะที่ความสนใจพุ่งไปที่ความเป็นไปได้ที่จะมีการหยุดยิงในกาซา และข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์
เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิสราเอลและกาตาร์ ซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญในการเจรจาไกล่เกลี่ย นับจากข้อตกลงหยุดยิง 7 วันล่มเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
เนทันยาฮูเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการพบปะดังกล่าว แต่ยืนยันว่า ได้สั่งการไปยังทีมเจรจาแล้ว รวมทั้งยังบอกว่า กำลังพยายามดำเนินการเพื่อช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมด
ขณะเดียวกัน กลุ่มญาติตัวประกันชุมนุมประท้วงในเทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลทำข้อตกลงเร่งด่วนเพื่อให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน หลังจากกองทัพอิสราเอลยอมรับว่า พลาดท่าสังหารตัวประกัน 3 คนในกาซา
ที่กาตาร์ รัฐบาลแถลงยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า ความพยายามทางการทูตเพื่อฟื้นการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมรอบใหม่ยังคงดำเนินต่อไป
กลุ่มฮามาสได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ได้แจ้งกับตัวกลางผู้ไกล่เกลี่ยทั้งหมดแล้วว่า จะไม่เปิดการเจรจาเว้นแต่อิสราเอลยุติการรุกรานและการเข่นฆ่าพลเรือนในกาซา
ในวันอาทิตย์ (17 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คนในเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์จากการโจมตีของอิสราเอล
นอกจากนั้นผู้เห็นเหตุการณ์ยังเผยว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศในเขตเทศบาลบานีซูไฮลาทางตะวันออกของเมืองคานยูนิส ซึ่งเป็นเมืองหลักของกาซาตอนใต้
ทางด้านอิสราเอลเผยว่า ได้บุกโรงเรียนสองแห่งในกาซาซิตี้ที่เป็นแหล่งกบดานของนักรบฮามาสเมื่อวันเสาร์ และเสริมว่า ทหาร 2 นายเสียชีวิตในวันอาทิตย์ รวมแล้วเป็น 121 นายนับจากเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในกาซาเมื่อปลายเดือนตุลาคม
คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ แสดงความกังวลมากขึ้นกับการเสียชีวิตของพลเรือนในกาซา
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ว่า กำลังเดินทางไปอิสราเอล บาห์เรน และกาตาร์ เพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นของวอชิงตันในการเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกัน เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และแอนนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ ระบุถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหยุดยิงอย่างยั่งยืนในกาซา
หลังจากถูกกดดันจากนานาชาติมากขึ้น อิสราเอลได้ประกาศมาตรการชั่วคราวอนุญาตให้จัดส่งความช่วยเหลือโดยตรงผ่านจุดผ่านแดนเคเรมชาลอมเข้าสู่กาซา
นอกจากนี้ยังปรากฏสัญญาณชัดเจนขึ้นว่า ความขัดแย้งได้ลุกลามออกนอกกาซา โดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนเผยว่า ได้โจมตีรีสอร์ทริมทะเลแดงของอิสราเอลด้วยโดรน ซึ่งเป็นการโจมตีด้วยโดรนหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่มีการรายงานเมื่อวันเสาร์
นอกจากนั้นบริษัทจัดส่งสินค้าใหญ่ 2 แห่งเผยว่า หลีกเลี่ยงคลองสุเอซ เนื่องจากฮูตีระดมโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงหนักขึ้น
ทางฝ่ายกองบัญชาการกลางของอเมริกาแถลงว่า เรือพิฆาตคาร์นีย์ยิงโดรนของฮูตี 14 ลำร่วงในทะเลแดง และอังกฤษเผยว่า เรือรบลำหนึ่งยิงโดรนที่สงสัยว่าพุ่งเป้าโจมตีเรือสินค้าตก