กองทัพอิสราเอลในวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ถล่มโจมตีใส่พื้นที่ต่างๆ ของเมืองราฟาห์ เมืองชายแดนทางตอนใต้สุดซึ่งรองรับประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของฉนวนกาซาอยู่ในเวลานี้ หนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาส โดยประณามว่าแปลกประหลาดและรังแต่จะนำไปสู่การสังหารหมู่ครั้งใหม่ ถึงแม้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเชื่อว่ามีโอกาสเจรจาผลักดันต่ออีก ขณะที่แหล่งข่าวเผยฮามาสส่งตัวแทนเข้าร่วมการหารือรอบใหม่ที่ไคโร
เมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ติดพรมแดนของอียิปต์ เวลานี้เป็นที่พักอาศัยของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งจำนวนมากพักพิงกันอยู่ในเต็นท์ชั่วคราว และอยู่ในสภาพขาดแคลนทั้งอาหารและหยูกยา
พวกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือต่างเตือนว่าจะเกิดความวิบัติหายนะทางมนุษยธรรม ถ้าอิสราเอลทำตามคำข่มขู่ของพวกเขาด้วยการบุกเข้าสู่ราฟาห์ หนึ่งในพื้นที่ท้ายๆ ซึ่งยังเหลืออยู่ในฉนวนกาซา ที่กองทหารรัฐยิวยังไม่ได้เคลื่อนเข้าไประหว่างการเปิดโจมตีทางภาคพื้นดินของพวกเขา
ชาวบ้านหลายรายเล่าว่า ตอนเช้าวันพฤหัสฯ (8) เครื่องบินอิสราเอลได้ถล่มโจมตีพื้นที่ต่างๆ ในราฟาห์ สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 11 คนในการโจมตีบ้าน 2 หลัง ขณะที่พวกรถถังก็ยิงใส่พื้นที่บางแห่งทางด้านตะวันออกของราฟาห์ ทำให้ชาวบ้านยิ่งหวาดกลัวว่ากำลังจะมีการบุกทางภาคพื้นดินแล้ว
ในคืนวันพุธ (7) นายกฯ เนทันยาฮู กล่าวปราศรัยถ่ายทอดสดทางทีวี สั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมปฏิบัติการในเมืองราฟาห์ และย้ำว่า ชัยชนะเหนือฮามาสกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนนี้
เขายังกล่าวถึงข้อเสนอหยุดยิงของฮามาสว่า เป็นข้อเรียกร้องแปลกประหลาดที่รังแต่จะนำไปสู่การสังหารหมู่ครั้งใหม่
ทว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนตะวันออกกลางรอบที่ 5 นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในเทลอาวีฟหลังจากหารือกับเนทันยาฮูเมื่อวันพุธว่า แม้ข้อเสนอของฮามาสดูไม่มีแนวโน้มเป็นไปได้ตั้งแต่แรก แต่ถือเป็นโอกาสในการเจรจาต่อ และคณะผู้เจรจาไกล่เกลี่ยจะพยายามต่อไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ทั้งนี้ ข้อเสนอของฮามาสครอบคลุมการหยุดยิงนาน 4 เดือนครึ่ง ซึ่งระหว่างนั้นจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดที่ถูกคุมขังอยู่ในกาซา แลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ รวมถึงการที่อิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา และตกลงยุติสงคราม
ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการตอบกลับข้อเสนอที่ผู้บัญชาการหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกาและอิสราเอลร่วมกันร่างขึ้นและส่งให้ฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หลายคน รวมถึงที่ปรึกษาอาวุโสของอิสราเอลเปิดเผยกับเอ็นบีซี นิวส์ว่า อิสราเอลยินดีให้ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำทางทหารของฮามาสลี้ภัย แลกกับการปล่อยตัวประกันทั้งหมด และยุบรัฐบาลฮามาสในกาซา
ด้านเจ้าหน้าที่อียิปต์เผยว่า จะมีการเจรจารอบใหม่เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ในกาซา และการปล่อยตัวประกันอิสราเอลแลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ในวันพฤหัสฯ ที่กรุงไคโร
แหล่งข่าวในฮามาสยืนยันว่า นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ตกลงร่วมเจรจาโดยมีเป้าหมายที่การหยุดยิง ยุติสงคราม และข้อตกลงปล่อยตัวนักโทษ
ชนวนสงครามกาซาถูกจุดขึ้นโดยนักรบฮามาสที่บุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,160 คน และฮามาสยังจับตัวประกันกลับไปกาซาอีกราว 250 คน
อิสราเอลประกาศตอบโต้ด้วยการกำจัดกลุ่มฮามาส และเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศรวมถึงบุกภาคพื้นดินเข้าสู่กาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อย่างน้อย 27,708 คน
ชะตากรรมของตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ในกาซา 132 คน ซึ่ง 29 คนในจำนวนนี้เชื่อว่า เสียชีวิตแล้วนั้น สร้างความทุกข์ใจให้ชาวอิสราเอลเป็นอย่างมาก และแม้เนทันยาฮูย้ำว่า มีเพียงการกดดันทางทหารเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือตัวประกันได้ แต่รัฐบาลอิสราเอลกำลังถูกกดดันหนักขึ้นให้เร่งทำข้อตกลงเพื่อปล่อยตัวประกัน
อาดินา โมเช หนึ่งในตัวประกันที่ได้รับอิสรภาพจากข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเมื่อเดือนพฤศจิกายน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในเทลอาวีฟว่า ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่เธอกลัวมากว่า ถ้ากองทัพยังเดินหน้าทำลายฮามาส อาจไม่เหลือตัวประกันให้ช่วยเหลือ
ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความกังวลกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ที่หนีไปหลบภัยอยู่ในเมืองราฟาห์ โดยเตือนว่า หากกองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปในเมืองดังกล่าวอาจทำให้ฝันร้ายด้านมนุษยธรรมในกาซายิ่งเลวร้ายขึ้นอีกหลายเท่า
ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนกว่าครึ่งจากทั้งหมด 2.4 ล้านคนของกาซาหลบภัยอยู่ในเมืองราฟาห์ในขณะนี้
ทางด้านบลิงเคนไม่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลล้มเลิกแผนบุกราฟาห์ แต่แสดงความกังวลและย้ำว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต้องคำนึงถึงพลเรือนเป็นอันดับแรก
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)