อิสราเอลระดมโจมตีเมืองข่านยูนิส ทั้งทางอากาศ ภาคพื้นดิน และจากทะเล เมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.) อย่างรุนแรงที่สุดนับแต่ที่สงครามเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม หลังมีรายงานว่าถูกพวกหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯประเมินว่าผลงานแย่ เล่นงานฮามาสได้แค่ 20-30% ขณะที่ฝ่ายฮามาสเองเปิดเผยรายงานครั้งแรกยืนยันการโจมตียิวเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เป็น ขั้นตอนที่จำเป็น” เพื่อต่อต้านการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล และช่วยเหลือนักโทษปาเลสไตน์
อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างพวกฮามาสในข่านยูนิส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในบริเวณตอนใต้ของฉนวนกาซาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า เมืองนี้เป็นศูนย์บัญชาการหลักของนักรบฮามาสในขณะนี้
ชาวกาซาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.) ว่า กองทัพยิวระดมโจมตีจากทั้งทางอากาศ พื้นดิน และทะเล อย่างหนักหน่วงที่สุดในรอบ 3 เดือน และขบวนรถถังยิวควบตะบึงจากฝั่งตะวันออกของข่านยูนิส ไปยังฝั่งตะวันตกซึ่งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่ในกาซาจากทั้งหมด 2.3 ล้านคน แออัดอยู่ในสองเมืองคือ เดียร์ อัล-บาลาห์ และ ราฟาห์ ที่อยู่ติดกับข่านยูนิสทางเหนือและใต้ตามลำดับ
อิสราเอลนั้นระบุกำลังเปิดเฟสใหม่ของสงคราม ซึ่งมุ่งเจาะลึกเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของฉนวนกาซาที่ขณะนี้อัดแน่นด้วยผู้คนที่หนีภัยการถูกถล่มทิ้งระเบิด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซาอย่างน้อย 25,295 คนแล้ว นับจากวันที่ 7 ต.ค. เมื่อตอนที่นักรบฮามาสบุกเข้าสู่อิสราเอลและสังหารผู้คนไป 1,200 คน รวมทั้งจับตัวประกันกว่า 200 คนกลับไปยังกาซา
ในวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) ฮามาสได้ออกมามาเปิดเผยเป็นครั้งแรก ถึงรายงานของฝ่ายตนเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นสงครามสู้รบกับอิสราเอลเวลานี้ โดยยอมรับว่า ฮามาสมีส่วนทำผิดพลาด แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการรุกรานกาซา
จากรายงานความยาว 16 หน้านี้ ฮามาสยืนยันว่า การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เป็น “ขั้นตอนที่จำเป็น” เพื่อต่อต้านการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล และช่วยเหลือนักโทษปาเลสไตน์
อิสราเอลนั้นประกาศล้างแค้นฮามาสด้วยการกำจัดนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ให้สิ้นซาก กระนั้น เป้าหมายดังกล่าวยังห่างไกลความจริง โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลฉบับวันอาทิตย์ (21) รายงานโดยอ้างอิงการประเมินของพวกหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกาว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลสามารถสังหารนักรบฮามาสได้แค่ 20-30% เท่านั้น
วอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกว่า ในรายงานที่ยังคงถูกจัดชั้นเป็นความลับฉบับหนึ่ง ซึ่งรวบรวมจัดทำขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ของเดือนนี้ พวกหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินว่า ก่อนสงครามฮามาสมีนักรบในกาซาระหว่าง 25,000 – 30,000 คน บวกกับสมาชิกของกองกำลังตำรวจในดินแดนแห่งนี้ตลอดจนพวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ จำนวนอีกหลายพันคน โดยตัวเลขนี้ได้มาจากการประมาณการโดยอาศัยข้อมูลจากการแอบดักฟังการติดต่อสื่อสาร, การตรวจการณ์ด้วยโดรน, และจากข่าวกรองของอิสราเอล
ในสงครามช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา วอชิงตันประมาณการว่าอิสราเอลสังหารนักรบฮามาสไปได้ราว 5,000 ถึง 9,000 คน และทำให้บาดเจ็บอีกระหว่าง 10,500 ถึง 11,700 คน โดยที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้หนึ่งอธิบายขยายความกับวอลล์สตรีท เจอร์นัล ด้วยว่า ผู้บาดเจ็บเหล่านี้จำนวนมากยังสามารถกลับมาสู้รบได้ใหม่ ขณะที่ โจเซฟ โวเทล นายพลทหารบกเกษียณอายุ ก็สันนิษฐานว่า พวกนักรบที่ยังเหลืออยู่น่าจะกำลัง “ทำงานสองหรือสามอย่างไปพร้อมๆ กัน” เนื่องจากต้องเข้ารับผิดชอบหน้าที่ของพวกสหายร่วมรบซึ่งเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
รายงานชิ้นนี้ของวอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกอีกว่า พวกนักรบฮามาสยังคงมีกำลังยิงที่จะใช้เล่นงานอิสราเอล และทรัพย์สินของกองทัพอิสราเอลในดินแดนต่างๆ ของปาเลสไตน์ได้อย่างต่อเนื่อง อีก “เป็นแรมเดือน” พร้อมกับระบุด้วยว่า เวลานี้ฮามาสยังกำลังพยายามจัดตั้งกองกำลังตำรวจของตนขึ้นมาใหม่ในเมืองกาซาซิตี้ ทั้งๆ ที่พื้นที่จำนวนมากของนครซึ่งเคยมีผู้คนพำนักอาศัยกันหนาแน่นที่สุดในฉนวนกาซาแห่งนี้ ถูกทำลายกลายเป็นกองปรักหักพังไปแล้ว
สำหรับทางอิสราเอลเองนั้นประมาณจำนวนของนักรบฮามาสในตอนเริ่มต้นสงครามเอาไว้สูงกว่าของฝ่ายอเมริกัน นั่นคืออยู่ที่ 30,000 คนหรือมากกว่านั้น และให้เครดิตกองทัพรัฐยิวว่าสังหารนักรบเหล่านี้ได้มากกว่าด้วย นั่นคือ 9,000 คนในช่วงที่สู้รบทำสงครามกัน บวกกับอีก 1,000 คนในการจู่โจมก่อนหน้าเปิดศึกใหญ่ ขณะเดียวกันก็อ้างด้วยว่าพวกที่ได้รับบาดเจ็บนั้นมีถึงครึ่งหนึ่งทีเดียวที่จะไม่สามารถกลับมาสู้รบได้อีกแล้ว นายทหารระดับอาวุโสผู้หนึ่งของอิสราเอลบอกเช่นนี้กับวอลล์สตรีท เจอร์นัล
ในอีกด้านหนึ่ง วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังรายงานว่า อเมริกา กาตาร์ อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่ช่วยเจรจากระทั่งบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเมื่อเดือนพฤศจิกายน กำลังพยายามโน้มน้าวให้อิสราเอลและฮามาสอนุมัติแผนการเพื่อปล่อยตัวประกันทั้งหมดแลกกับการที่อิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา
ทว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ยืนกรานว่า อิสราเอลต้องมีอำนาจควบคุมด้านความมั่นคงในกาซาหลังสงครามยุติ รวมทั้งปฏิเสธความเป็นไปได้เกี่ยวกับอธิปไตยของปาเลสไตน์
ทั้งนี้ พันธมิตรสำคัญอย่างอเมริกาและอีกหลายประเทศต่างแนะนำว่า แนวทางสองรัฐเป็นวิธีเดียวในการรับประกันความมั่นคงระยะยาวของอิสราเอล
นอกจากนั้นเนทันยาฮูยังเผชิญแรงกดดันภายในประเทศ ซึ่งเรียกร้องให้เร่งช่วยเหลือตัวประกัน รวมทั้งยอมรับความผิดพลาดด้านความมั่นคงจากการปล่อยให้ฮามาสข้ามแดนเข้าไปโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
คืนวันอาทิตย์กลุ่มญาติตัวประกันและผู้สนับสนุนชุมนุมใกล้ที่พักของเนทันยาฮูในนครเยรูซาเลม เรียกร้องให้เนทันยาฮูประกาศชัดเจนว่า จะไม่ทอดทิ้งพลเรือน ทหาร และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในกาซา และเร่งผลักดันข้อตกลง แต่ถ้าเนทันยาฮูตัดสินใจสละชีวิตตัวประกัน ก็ควรแสดงความเป็นผู้นำและเปิดเผยวิสัยทัศน์ให้ประชาชนรับรู้
ทางด้านเนทันยาฮูแถลงทางวิดีโอหลังจากฮามาสเปิดเผยรายงานการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยบอกว่า ฮามาสเรียกร้องให้ยุติสงคราม ถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซา ปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ และรับประกันว่า ฮามาสจะยังคงมีอำนาจในกาซา แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวประกันอิสราเอล ซึ่งเขาเห็นว่า การยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวจะเท่ากับทหารอิสราเอลตายฟรี และความมั่นคงของอิสราเอลไม่ได้รับการรับประกัน
วันจันทร์ ซามี อัล-ซูรี ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ฮามาสเปิดกว้างรับฟังแผนการริเริ่มและข้อเสนอทั้งหมด แต่ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นต้องอิงกับการยุติการรุกรานและการถอนทหารออกจากกาซาโดยสิ้นเชิง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี, อาร์ที)