อิสราเอลในวันศุกร์ (23 ก.พ.) จะส่งคณะผู้แทนไปยังกรุงปารีส เพื่อร่วมเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง ตามรายงานของสื่อมวลชนยิว ในขณะที่ชาวกาซาหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงใดๆ อาจช่วยสกัดอิสราเอลจากการจู่โจมเมืองราฟาห์เต็มรูปแบบ หลังเมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกทิ้งบอมบ์ถล่มเลวร้ายที่สุดของความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน
สถานีโทรทัศน์ชาแนล 12 ของอิสราเอล รายงานในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่ารัฐบาลสงครามอนุมัติส่งคณะผู้แทนเจรจา ที่นำโดยผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองมอสซาดของอิสราเอล ไปกรุงปารีส เพื่อเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในข้อตกลงปล่อยตัวประกันอีกมากกว่า 100 คน ที่เชื่อว่ายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของพวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส"
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสซึ่งอยู่ในอียิปต์ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ว่าการเจรจายังไม่พังครืนลง ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลระบุในถ้อยแถลงว่า "เราจะขยายขอบเขตอำนาจที่มอบแก่คณะผู้แทนเจรจาปล่อยตัวประกันของเรา แต่ขณะเดียวกันเราก็กำลังเตรียมพร้อมเดินหน้าปฏิบัติการทางภาคพื้นอย่างเข้มข้น"
ในค่ำคืนเข้าสู่วันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) อิสราเอลทิ้งบอมบ์ถล่มมัสยิดราบเป็นหน้ากลองและทำลายบ้านเรือนหลายหลังในราฟาห์ เมืองที่ประชากรกว่าครึ่งจากทั้งหมด 2.3 ล้านคนของกาซา เบียดเสียดกันอยู่ที่นั่น ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ตามเต็นท์
ส่วนในข่านยูนิส ที่กลายเป็นสมรภูมิหลักในกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีเมืองแห่งนี้เมื่อเดือนที่แล้ว กองกำลังของอิสราเอลได้บุกจู่โจมโรงพยาบาลนาสเซอร์อีกรอบ ไม่นานหลังจากถอนกำลังออกมา จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขกาซา
องค์การอนามัยโลกบอกก่อนหน้านี้ว่า พวกเขามีเป้าหมายอพยพคนไข้บางส่วนจากทั้งหมดราว 140 คนที่ติดค้างอยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าว สถานพยาบาลที่บรรดาเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์บอกว่าศพคนไข้ผู้เสียชีวิตเริ่มเน่าเปื่อยแล้ว เนื่องจากไฟฟ้าถูกตัดท่ามกลางการสู้รบ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาบอกว่ามีคนเสียชีวิต 97 ราย และบาดเจ็บ 130 รายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด แต่คาดว่ามีเหยื่ออีกจำนวนมากถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ต่อมาพวกเขาบอกว่าปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มใจกลางฉนวนกาซา สังหารชีวิตผู้คนเพิ่มเติมอีก 23 ราย
อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา หลังจากพวกนักรบฮามาสที่ควบคุมดินแดนแห่งนี้บุกจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานเมืองต่างๆ ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,200 ราย และจับตัวประกันอีก 253 คน
นับตั้งแต่นั้นพบผู้เสียชีวิตในกาซาแล้วเกือบ 30,000 ราย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นอกจากนี้ ยังเกรงว่าอาจมีผู้เสียชีวิตอีกหลายพันคนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ทั้งนี้ อิสราเอลขู่เปิดฉากโจมตีเมืองราฟาห์เต็มรูปแบบ เมืองสุดท้ายริมขอบทางใต้ของกาซา แม้มีเสียงวิงวอนจากนานาชาติ ในนั้นรวมถึงจากวอชิงตัน พันธมิตรหลักของพวกเขา
พวกชาวบ้านที่หลบหนีจากที่อื่นๆ ไปยังราฟาห์ บอกว่าพวกเขาไม่เหลือที่ให้ไปแล้ว ขณะเดียวกัน กระแสความช่วยเหลือที่ขาดแคลนอยู่ก่อนแล้วก็เกือบหมดเกลี้ยงโดยสิ้นเชิง
การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงพังครืนลงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล ปฏิเสธข้อเสนอที่ยื่นสวนกลับมาของทางฮามาส สำหรับการหยุดยิงเป็นเวลา 4 เดือนครึ่ง แลกกับการถอนกำลังของอิสราเอล
ฮามาสซึ่งเชื่อว่ายังคงมีตัวประกันอยู่ภายใต้การควบคุมอีกมากกว่า 100 คน บอกว่าจะไม่ปล่อยตัวประกันเหล่านั้นจนกว่าอิสราเอลจะเห็นพ้องหยุดการสู้รบและถอนตัวออกไป อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังคงประกาศกร้าวว่าจะไม่ถอนกำลังจนกว่าฮามาสจะถูกขุดรากถอนโคน
ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกกับรอยเตอร์ว่า เวลานี้อิสราเอลกลับลำในเงื่อนไขต่างๆ ครั้งที่ประเทศแห่งนี้ตอบรับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่เคาะโดยพวกคนกลางอย่างสหรัฐฯ อียิปต์ และกาตาร์
"พวกผู้รุกรานไม่สนใจบรรลุข้อตกลงใดๆ" เขากล่าว พร้อมกล่าวหา เนทันยาฮู เพิกเฉยต่อประเด็นการปล่อยตัวตัวประกันแลกกับนักโทษ "ทุกสิ่งที่เขาใส่ใจ ล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินหน้าประหัตประหารชาวปาเลสไตน์ในกาซา"
ยังไม่มีเสียงตอบรับมาจากพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอล แต่ เนทันยาฮู เคยบอกว่าเขาจะไม่ตอบตกลงข้อเรียกร้องจอมปลอมใดๆ ของฮามาส แต่แย้มว่ามันยังคงมีความเป็นไปได้ หากว่าทางกลุ่มแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น
(ที่มา : รอยเตอร์)