สยอง! เจรจา‘ข้อตกลงหยุดยิง’ในกาซาไร้ข้อสรุป ยูเอ็นหวั่นอิสราเอล‘สังหารหมู่’ปาเลสไตน์นับล้านที่หลบภัยในราฟาห์

ชาวปาเลสไตน์เป็นล้านคนซึ่งพักพิงกันอย่างแออัดอยู่ในเมืองราฟาห์ ที่หลบภัยสุดชายแดนตอนใต้ของฉนวนกาซา ต่างอยู่ในอาการผวาหนัก กลัวว่าอิสราเอลใกล้เปิดฉากบุกภาคพื้นดินหลังจากการเจรจาหยุดยิงที่กรุงไคโรจบลงโดยไม่มีข้อสรุป ขณะที่ยูเอ็นก็เตือนว่าปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ของรัฐยิวอาจนำไปสู่สถานการณ์การเข่นฆ่าสังหารหมู่

ในวันอังคาร (13 ก.พ.) ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ พบกับ วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอล และนายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานีของกาตาร์ ที่กรุงไคโรเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา การปกป้องพลเรือน และการเพิ่มการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา

คำแถลงของอียิปต์ระบุว่า คณะผู้เจรจากระตือรือร้นที่จะหารือและประสานงานกันต่อไปในประเด็นสำคัญ ข้อความเช่นนี้ถือเป็นการบ่งชี้ว่า การเจรจายังคงไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้แทนของอิสราเอลเดินทางกลับไปแล้ว

ด้านจอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯบอกว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ขณะที่แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า การหารือเป็นไปด้วยดีและทุกฝ่ายเห็นพ้องเจรจากันต่อ แต่ไม่ได้ระบุว่า จะเป็นเมื่อใดและที่ไหน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เผยว่า อียิปต์และกาตาร์จะเดินหน้าหารือต่อ แต่จะแยกวงในการเจรจากับอิสราเอลและกับฮามาส

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในฮามาสเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ผู้แทนของฮามาสเดินทางไปยังโคโรเพื่อพบกับคณะผู้เจรจาของอียิปต์และกาตาร์เมื่อวันพุธ (14) ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี มีกำหนดเยือนไคโรเพื่อหารือกับผู้นำอียิปต์เช่นเดียวกัน

ข่าวการเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิงยังไม่ได้ข้อสรุป และอาจจะล้มเหลวเช่นนี้ กลายเป็นข่าวร้ายทำลายความหวังของชาวปาเลสไตน์กว่าล้านคนที่แออัดอยู่ในเมืองราฟาห์ เมืองสุดท้ายทางใต้สุดของฉนวนกาซาซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนอียิปต์ เนื่องจากกองทัพอิสราเอลประกาศเจตนารมณ์ในการกวาดล้างนักรบฮามาสที่พวกเขาอ้างว่ากบดานอยู่ในเมืองนี้ แต่ยังไม่มีแผนการที่แน่ชัดว่า จะอพยพพลเรือนออกจากราฟาห์อย่างปลอดภัยได้อย่างไร

อิสราเอลได้แต่อ้างว่า ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียสำหรับพลเรือน และกล่าวหาฮามาสแฝงตัวปะปนอยู่กับประชาชน ซึ่งรวมถึงในโรงพยาบาลและที่หลบภัย ทว่า นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ปฏิเสธ

ด้าน มาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการมนายธรรม และผู้ประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็น กล่าวเตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์อาจนำไปสู่การเข่นฆ่าสังหารหมู่อย่างทารุณโหดร้าย

แอนนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีที่คาดว่า จะหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลในวันพุธ ขานรับว่า การบุกราฟาห์จะเป็นอันตรายต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซา และย้ำว่า ประชาชนในราฟาห์ต้องการที่หลบภัยที่ปลอดภัย ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติม และข้อตกลงหยุดยิง

ทว่าพวกผู้เห็นเหตุการณ์บอกเล่าว่า กองทัพอิสราเอลได้ระดมโจมตีทางด้านตะวันออกของเมืองราฟาห์ตลอดคืนวันอังคาร รวมทั้งยังถล่มเมืองข่านยูนิสที่อยู่ติดกัน

กระทรวงสาธารณสุขของกาซาที่ปกครองโดยฮามาสเผยว่า กองทัพอิสราเอลยังคงปิดล้อมโรงพยาบาลหลักสองแห่งในข่านยูนิส และพลซุ่มยิงคอยโจมตีโรงพยาบาลนัสเซอร์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีกหลายคนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

แพทย์คนหนึ่งวิดีโอคอลล์จากในโรงพยาบาลดังกล่าวโดยเล่าว่า ถูกปิดล้อมมา 22 วัน และเมื่อเช้าวันพุธทหารอิสราเอลได้ใช้รถแทรกเตอร์เกลี่ยดินทำลายประตูทางเข้าโรงพยาบาลทางด้านเหนือ

ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งเริ่มเดินทางหนีภัยออกจากราฟาห์ หลังจากอิสราเอลระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่และโจมตีทางอากาศเมื่อหลายวันก่อน

ขณะเดียวกัน อียิปต์ประกาศชัดเจนว่า จะไม่ยอมรับคลื่นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ ทั้งนี้อียิปต์และพวกชาติอาหรับต่างมองกันว่า อิสราเอลนั้นน่าจะต้องการผลักไสชาวปาเลสไตน์ให้ออกไปจากกาซาอย่างสิ้นเชิง แล้วชาวอิสราเอลจะได้เข้าไปตั้งรกรากแทน อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อตั้งรัฐอิสราเอลเมื่อปี 1948

กระทรวงสาธารณสุขกาซายังแถลงตัวเลขอัปเดตจนถึงวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28,576 คน และบาดเจ็บ 68,291 คนจากการโจมตีของอิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. และเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 103 คน และบาดเจ็บ 145 คน

ทางด้านอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,200 คน และ 250 คนถูกจับกลับไปยังกาซาระหว่างที่นักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาในครั้งนี้

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี. เอพี)