กองทัพอิสราเอลเดินหน้าถล่มราฟาห์ เร่งผลักดันข้อตกลงปล่อยตัวประกัน

เอเอฟพี - อิสราเอลโจมตีทางอากาศถล่มราฟาห์ในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) นอกจากนั้นสภายิวยังโหวตด้วยคะแนนท่วมท้นคัดค้านการรับรองรัฐปาเลสไตน์ ขณะที่มีรายงานว่า ความพยายามผลักดันการเจรจาหยุดยิงและปล่อยตัวประกันได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า การสู้รบและการโจมตีทางอากาศต่อเนื่องกว่า 4 เดือนที่ทำให้พื้นที่กว้างขวางในฉนวนกาซาราบเป็นหน้ากลองนั้น ส่งผลให้ประชากรราว 2.4 ล้านคนใกล้เผชิญภาวะอดอยากหิวโหย

ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ความกังวลของนานาชาติรวมศูนย์อยู่ที่เมืองราฟาห์ทางใต้สุดของกาซาติดกับพรมแดนอียิปต์ ที่พลเรือนกว่า 1.4 ล้านคนที่ถูกบังคับให้ทิ้งถิ่นฐานจากเมืองอื่นๆ หนีไปหลบภัยอยู่ในสถานที่หลบภัยที่แออัดและเต็นท์ชั่วคราว

นอกจากเป็นเมืองสุดท้ายที่ยังรอดพ้นปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลแล้ว ราฟาห์ยังเป็นทางผ่านหลักสำหรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งที่ส่งผ่านมาจากอียิปต์

ต้นสัปดาห์นี้อิสราเอลขู่บุกภาคพื้นดินราฟาห์ เว้นแต่กลุ่มฮามาสจะยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ก่อนเริ่มต้นเทศกาลรอมฎอนในราววันที่ 10 หรือ 11 เดือนหน้า

เบนนี แกนซ์ สมาชิกคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ประกาศว่า ปฏิบัติการบุกราฟาห์จะเริ่มต้นหลังการอพยพพลเรือนปาเลสไตน์ แม้รัฐบาลอิสราเอลยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าจะอพยพชาวปาเลสไตน์ไปหลบภัยที่ใดก็ตาม

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี มีการโจมตีทางอากาศในราฟาห์หลายระลอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านอัล-ชาบูรา ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซาที่ปกครองโดยฮามาสแถลงเมื่อเช้าวันดียวกันว่า มีผู้เสียชีวิต 99 คนทั่วกาซาจากการโจมตีตลอดคืนวันพุธ (21 ก.พ.)

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า เบร็ตต์ แม็กเกิร์ก ผู้ประสานงานด้านตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของทำเนียบขาว อาจเดินทางถึงอิสราเอลในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นการเยือนตะวันออกกลางครั้งที่ 2

หลังจากเดินทางไปอียิปต์ก่อนหน้านี้ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของอเมริกาในการผลักดันข้อตกลงปล่อยตัวประกันและหยุดยิงในกาซา ทางด้านฮามาสเผยว่า ผู้นำกลุ่มอิสมาอิล ฮานิเยห์ อยู่ในไคโรเพื่อร่วมเจรจาเช่นเดียวกัน

แกนซ์ สมาชิกคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ขานรับว่า ขณะนี้มีความพยายามส่งเสริมแผนการปล่อยตัวประกันใหม่ ขณะที่ แมททิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันหวังจะได้เห็นข้อตกลงที่ครอบคลุมการหยุดยิงชั่วคราวซึ่งจะมีการปล่อยตัวประกันและอนุญาตให้ลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดการเจรจาที่ยังดำเนินอยู่

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยืนกรานว่า กองทัพอิสราเอลจะสู้รบต่อไปจนกว่าจะกวาดล้างฮามาสจากกาซา และปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่

เมื่อวันพุธ รัฐสภาอิสราเอลลงมติสนับสนุนข้อเสนอคัดค้านการรับรองรัฐปาเลสไตน์ฝ่ายเดียวของเนทันยาฮูอย่างท่วมท้น ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน (20 ก.พ.) หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และชาติอาหรับกลุ่มเล็กๆ กำลังดำเนินการแผนการที่ครอบคลุมสำหรับสันติภาพระยะยาวระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งรวมถึงกำหนดเวลาในการสถาปนารัฐปาเลสไตน์

นอกจากนั้น ยังมีรายงานอีกฉบับจากองค์กรหนึ่งในอิสราเอลที่ต่อสู้กับปัญหาความรุนแรงทางเพศระบุว่า การโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสงครามครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการทำร้ายทางเพศต่อพลเรือน ทั้งนี้ อิงกับคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลที่เป็นความลับ และการสัมภาษณ์

รายงานนี้ออกมาในสัปดาห์เดียวกับที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอิสระกรณีที่มีการกล่าวหาอิสราเอลล่วงละเมิดผู้หญิงและเด็กหญิงปาเลสไตน์ ซึ่งอิสราเอลปฏิเสธและยืนยันว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเลวทรามและไม่เป็นความจริง

ในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวหาซ้ำๆ ว่า นักรบฮามาสทำร้ายทางเพศระหว่างการบุกโจมตีอิสราเอล ซึ่งฮามาสปฏิเสธเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) ประณามว่า รถถังอิสราเอลยิงใส่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของเจ้าหน้าที่เอ็มเอสเอฟและครอบครัวในเมืองข่านยูนิสที่อยู่ติดกับราฟาห์ทางด้านเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 6 คน

กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ทหารยิงใส่บ้านหลังหนึ่งที่ถูกระบุว่า เป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมก่อการร้าย และแสดงความเสียใจที่ทำให้พลเรือนได้รับอันตราย นอกจากนั้นสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ยังแถลงว่า โรงพยาบาลอีกแห่งในเมืองข่านยูนิสถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่