เซเลนสกีระบุกองทัพยูเครนที่ยังเสียศูนย์จากการเสียเมืองสำคัญ กำลังเผชิญความยากลำบากอย่างรุนแรงตลอดแนวรบกับรัสเซียเนื่องจากความล่าช้าในการส่งความช่วยเหลือของพันธมิตร ขณะที่ไบเดนเตือนสำทับฝากไปถึงสภาล่างสหรัฐฯ หากยังไม่รีบปล่อยงบช่วยเหลือสนับสนุนออกมา ยูเครนอาจเสียเมืองเพิ่มให้มอสโก
สัปดาห์ที่แล้วหรืออีกเพียงไม่กี่วันจะครบรอบ 2 ปีการรุกรานของรัสเซีย ยูเครนเพิ่งสูญเสียอัฟดิอิฟกา เมืองสำคัญทางภาคตะวันออกของประเทศ ภายหลังมีการสู้รบอย่างยืดเยื้อ และกองทัพเคียฟเผยว่า ขาดแคลนพวกเครื่องกระสุน เป็นต้นว่ากระสุนปืนใหญ่ และลูกจรวดของระบบจรวดหลายลำกล้องอย่างร้ายแรง โดยที่สถานการณ์ยังคงเลวร้ายไม่รู้ว่าจะกระเตื้องขึ้นเมื่อใด จากการที่แพกเกจความช่วยเหลือมูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ของอเมริกายังค้างคาอยู่ในคองเกรส
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันจันทร์ (19 ก.พ.) หลังเดินทางไปเยี่ยมทหารในแคว้นคาร์คีฟ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศว่า สถานการณ์ยากลำบากมากในหลายส่วนของแนวเส้นปะทะระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และสำทับว่า กองทัพรัสเซียกำลังพยายามฉกฉวยความได้เปรียบจากการที่ทางกลุ่มพันธมิตรชะลอการส่งความช่วยเหลือให้เคียฟ ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งพวกเครื่องกระสุน ระบบป้องกันภัยทางอากาศในแนวรบ และพวกอาวุธพิสัยทำการไกลๆ
ก่อนหน้านั้นในวันอาทิตย์ (18 ก.พ.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา กล่าวกับเซเลนสกีในการสนทนาทางโทรศัพท์ โดยมุ่งปลอบขวัญเพิ่มความมั่นใจว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน จะอนุมัติแพกเกจความช่วยเหลือยูเครนที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดนี้ ซึ่งผ่านการเห็นชอบของวุฒิสภาไปแล้ว
ต่อมาระหว่างการแถลงข่าวที่โตเกียวในวันอังคาร (20 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีกัลป์ ของยูเครน แสดงความเชื่อมั่นว่า สภาล่างสหรัฐฯ จะอนุมัติแพกเกจดังกล่าวเมื่อเปิดประชุมอีกครั้งภายหลังช่วงหยุดพักการประชุมจนถึงสิ้นเดือนนี้ และยูเครนจะสู้รบต่อไปท่ามกลางการสนับสนุนจากนานาชาติ ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น สมาชิกทั้งหมดของกลุ่มจี7 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทุกแห่ง
นอกจากนั้น ไบเดนยังเตือนในวันจันทร์ว่า หากปราศจากความช่วยเหลือ ยูเครนอาจเสียเมืองอื่นๆ ให้รัสเซีย ทั้งนี้ จนถึงเวลานี้ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงไม่แม้กระทั่งนำเอาร่างกฎหมายช่วยเหลือต่างประเทศ ซึ่งที่สำคัญคืองบช่วยยูเครน บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาล่าง ถึงแม้ผ่านวุฒิสภามาหลายวันแล้ว
ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูงของยูเครนคาดว่า รัสเซียจะเคลื่อนกำลังออกจากอัฟดิอิฟกาไปยังส่วนอื่นๆ ของแนวรบ พร้อมกับเผยว่า ถูกระดมโจมตีจากกองทัพรัสเซียที่พยายามรุกคืบหน้าในแคว้นซาโปริซเซีย ซึ่งอยู่ทางใต้ของยูเครน
โอเลคซานดร์ ทาร์นาฟสกี ผู้บัญชาการทหารอาวุโสของยูเครน ระบุว่า รัสเซียกำลังระดมโจมตีใกล้ๆ หมู่บ้านโรโบทีน ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งในไม่กี่แห่งที่ยูเครนสามารถชิงคืนมาได้ระหว่างปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่เมื่อปีที่แล้ว แต่สำทับว่า กองทัพยูเครนสามารถขับไล่ทหารรัสเซียออกจากพื้นที่รอบนอกของโรโบทีนได้แล้ว
ขณะที่รายงานจากบล็อกการทหารของรัสเซียระบุว่า กองกำลังมอสโกอยู่ที่สุดเขตหมู่บ้านทางใต้
ทางด้านหลายเมืองของยูเครน เช่น เซลีโดฟ ที่อยู่ห่างจากเมืองอัฟดิอิฟกา 30 กิโลเมตร ต่างกลัวว่า ตนเองจะเป็นเป้าหมายต่อไปของรัสเซีย และขณะนี้ประชาชนจำนวนมากเริ่มอพยพออกจากเมืองเซลีโดฟแล้ว
เวลาเดียวกัน ยูเครนยังเผชิญปัญหาที่ชายแดนซึ่งอยู่ติดต่อกับโปแลนด์ หลังจากเกษตรกรและคนขับรถบรรทุกชาวโปแลนด์พยายามปิดกั้นพรมแดน โดยกล่าวหาเกษตรกรยูเครนว่า บ่อนทำลายธุรกิจของตน
เกษตรกรโปแลนด์ซึ่งกำลังต่อสู้เรียกร้องรัฐบาลให้สนใจแก้ปัญหาของพวกตน เรียกร้องให้ระงับการเดินทางข้ามแดนจากยูเครนในทุกจุดตั้งแต่วันอังคาร
ความขัดแย้งคราวนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเพื่อนบ้านตึงเครียด แม้โปแลนด์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนยูเครนที่มุ่งมั่นที่สุดนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็ตาม
เซเลนสกีระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนด้านตะวันตกที่ติดกับโปแลนด์ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่สะท้อนว่า ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันถูกบ่อนเซาะในทุกๆ วัน
ทั้งนี้ การขนส่งทางรถยนต์เข้าสู่โปแลนด์ กลายเป็นเส้นทางส่งออกสำคัญของพืชผลการเกษตรของยูเครนนับจากที่สงครามของรัสเซียปิดกั้นเส้นทางการค้าหลักผ่านทะเลดำ
ทว่า การจัดส่งสินค้าผ่านพรมแดนโปแลนด์เพิ่มขึ้น ได้สร้างความไม่พอใจให้บริษัทโลจิสติกส์และเกษตรกรโปแลนด์ที่ร้องทุกข์ว่า พวกตนกำลังสูญเสียธุรกิจ
โอเลคซานดร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน โพสต์บนเฟซบุ๊กอ้างว่า จุดผ่านแดนฝั่งโปแลนด์ 6 จุดถูกปิดแล้ว ถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงในการป้องกันประเทศของยูเครน เนื่องจากทางโปแลนด์ปิดกั้นไม่ให้รถทุกคันผ่านเข้าสู่ยูเครน ซึ่งรวมถึงรถบรรทุกเชื้อเพลิงและอาวุธ
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)