น้ำมัน-ทองขึ้นหลังดอลล์อ่อนค่า หุ้นสหรัฐฯ บวกจากข้อมูลค้าปลีก

ราคาน้ำมันและทองคำปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก แม้ข้อมูลค้าปลีกอ่อนแอ แต่ขณะเดียวกันมันช่วยเพิ่มความหวังว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมลดลงกว่าคาดหมาย ทั้งนี้ดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ราคาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นของการซื้อขาย ตลาดน้ำมันปรับลดลงไปราว 1% หลังทบวงพลังงานสากล (ไอเออี) ที่มีสำนักงานในกรุงปารีส คาดการณ์ว่าอุปสงค์โลกจะเติบโต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ลดลงเกือบ 50% จากการเติบโตระดับ 2.3 ล้านบาร์เรล ในปี 2023

ดอลลาร์ที่อ่อนค่ายังผลักให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 10.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,014.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเช่นกันในวันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) หลังข้อมูลค้าปลีกที่อ่อนแอเกินคาดหมาย ช่วยเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 348.85 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,773.12 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 29.11 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,029.73 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.03 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,906.18 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยแพร่รายงานพบยอดค้าปลีกของประเทศลดลง 0.8% ในเดือนมกราคม ถูกฉุดจากยอดขายที่ลดลงตามตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และสถานีบริการน้ำมันเบนซิน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้กลับช่วยผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุน หลังจากวิตกกังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาดเมื่อวันอังคาร (13 ก.พ.) ซึ่งฉุดวอลล์สตรีทปรับตัวลง

(ที่มา : เอ็นบีซี/รอยเตอร์)