น้ำมันลงจากข้อมูลคลังสำรองสหรัฐฯ หุ้นมะกันปิดบวก-ทองปรับลด

ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ (14 ก.พ.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก บดบังสถานการณ์ลุกลามบานปลายรอบใหม่ในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทบวกและทองคำปิดลบ นักลงทุนทบทวนข้อบ่งชี้ที่แท้จริงในข้อมูลทางเศรษฐกิจ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เหนือความคาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นราว 3.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำลังผลิตของอเมริกาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 13.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ ยังพบว่าคลังเบนซินสำรองลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้เช่นกัน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาดีดตัวขึ้นในวันพุธ (14 ก.พ.) เมินข้อกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ฉุดรั้งวอลล์สตรีทหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ท่ามกลางมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 151.52 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,424.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 47.45 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,000.62 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 203.55 จุด (1.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,859.15 จุด

ข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ในวันอังคาร (13 ก.พ.) พบเงินเฟ้อเดือนมกราคมสูงกว่าที่คาดหมาย ทำให้พวกนักวิเคราะห์ลดความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ "ผมคิดว่านักลงทุนพากันคิดทบทวน และได้ข้อสรุปว่าเศรษฐกิจกำลังเป็นไปด้วยดี" แจ็ค อับลิน จากเชรสเซต แคปิตอล กล่าว

ความคาดหมายที่น้อยลงเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด เป็นปัจจัยที่ฉุดให้ราคาทองคำปรับลดต่อเนื่องในวันพุธ (14 ก.พ.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,004.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา : รอยเตอร์)