ราคาน้ำมันขยับขึ้น 3% ในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) หลังหน่วยงานพลังงานสากลปรับขึ้นคาดการณ์อุปสงค์พลังงาน และได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยหลังนี้ผลักทองคำสูงสุดในรอบ 10 วัน ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกต่อเนื่อง จากความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทบวงพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ในรายงานประจำเดือน ว่า การบริโภคน้ำมันโลก จะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากที่คาดหมายก่อนหน้านี้ 130,000 บาร์เรลต่อวัน อ้างถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของสหรัฐฯ และราคาน้ำมันที่ขยับลง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (13 ธ.ค.) ส่งสัญญาณจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2024 ปัจจัยนี้เองที่ผลักทองคำปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) สูงสุดในรอบ 10 วัน
โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 47.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,044.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนบวกในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) จากปัจจัยเดียวกัน นักลงทุนมองในแง่ดีว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากมีความเห็นแนวอะลุ่มอล่วยออกมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 158.11 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 37,248.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.46 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,719.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.59 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,761.56 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ (13 ธ.ค.) เป็นไปตามที่คาดหมายว่า ในขณะที่ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดบอกว่านโยบายกระชับทางการเงินครั้งประวัติศาสตร์ดูเหมือนว่าจะจบลงแล้ว เนื่องจากเงินเฟ้ออ่อนตัวลงเกินคาดหมาย และเริ่มมีมองถึงการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกันบ้างแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์)