ราคาน้ำมันปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นผิดคาด ในขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบ และทองคำปรับลงจากแรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 82.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 86.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันแกว่งตัวลงมาปิดในกรอบแคบๆ หลังจากข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 10.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 424.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับลงในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเงินเฟ้อที่เผยให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดหมายในเดือนกันยายน
ดาวโจนส์ ลดลง 173.73 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,631.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 27.34 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,349.61 จุด แนสแดค ลดลง 85.46 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,574.22 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนกันยายน โดยดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.7% ในเดือนสิงหาคม
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.6% ในเดือนสิงหาคม
ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 4.1% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 4.3% ในเดือนสิงหาคม
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 0.3% ในเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่สูงเกินคาดหมาย และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) ปิดในแดนลบ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,883.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)