ราคาน้ำมันร่วงลงราว 2% ในวันจันทร์ (2 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ นักลงทุนขายทำกำไรและจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับลด 6 วันติด ส่วนวอลล์สตรีททรงตัว ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระหว่างที่นักลงทุนเฝ้ารอเงื่อนงำเกี่ยวกับเส้นทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลาร์ ทำให้น้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้่อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ แม้ตลาดยังคงตึงตัว สืบเนื่องจากมาตรการจำกัดอุปทานของซาอุดีอาระเบีย และพันธมิตร
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (2 ต.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนทบทวนความเป็นไปได้ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน
ดาวโจนส์ ลดลง 74.15 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,433.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้่น 0.19 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,288.39 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 88.45 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,307.77 จุด
มิเชลล์ โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกว่าเธอยังคงมีความตั้งใจสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ในอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแห่งนี้ ณ ที่ประชุมหนึ่งในอนาคต หากว่าข้อมูลที่เข้ามาแสดงให้เห็นว่าความก้าวหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อนั้นหยุดนิ่ง หรือมันมีความคืบหน้าล่าช้าเกินไป
ธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ในขณะที่พวกเขาพยายามฉุดอัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมายรายปี 2%
ส่วนราคาทองคำปรับลดเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันในวันจันทร์ (2 ต.ค.) เกือบต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์และแนวโน้มเฟดคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 18.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,847.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)