ราคาน้ำมันขยับขึ้น 3% ในวันพุธ (27 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบปี 2023 หลังสต๊อกปิโตรเลียมที่ลดลงอย่างมากของสหรัฐฯ ก่อความกังวลอุปทานโลกตึงตัว ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร ขณะที่ทองคำลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราว 320,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน คลังน้ำมันดิบสำรองที่เมืองคุชชิง รัฐโอคลาโฮมา ศูนย์จัดเก็บและส่งมอบน้ำมันดิบสัญญาสหรัฐฯ ลดลง 943,000 บาร์เรล ในสัปดาห์เดียวกัน เหลือแค่ไม่ถึง 22 ล้านบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธ (27 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยเอสแอนด์พี 500 ดีดตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนที่มีตามหลังการเทขาย สืบเนื่องจากการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกัยเส้นทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ดาวโจนส์ ลดลง 68.61 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,550.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้่น 0.98 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,274.51 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.24 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,092.85 จุด
นอกจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นแล้ว นักลงทุนยังจับตาไปที่พัฒนาการของสถานการณ์ทางการเมืองในวอชิงตัน ในขณะที่ความแตกแยกในหมู่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังทำให้หน่วยงานรัฐบาลตกอยู่ในความเสี่ยงต้องชัตดาวน์บางส่วนในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ความเป็นไปได้ของภาวะชัตดาวน์ ซ้ำเติมความกังวลแก่นักลงทุนที่วิตกอยู่ก่อนแล้วกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณแข็งกร้าวเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะยาวของอัตราดอกเบี้ย
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (27 ก.ย.) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง ต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ ตามหลังการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 28.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,890.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)
