(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Ukraine in dire need of new air defenses
By STEPHEN BRYEN
11/01/2024
ระบบป้องกันภัยทางอากาศระบบใหม่ๆ ที่ยูเครนกำลังต้องการเหลือเกิน อาจจะถูกส่งไปให้ไม่ทันใจเคียฟ ขณะเดียวกันนั้น วาระการเป็นประธานาธิบดีของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ก็กำลังจะหมดลงในเดือนมีนาคมนี้
เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ยูเครนถูกเล่นงานจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างมโหฬารเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน ฝ่ายรัสเซียได้ถล่มใส่สถานที่ต่างๆ ในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั้งที่ เคียฟ, โอเดสซา, คาร์คิฟ, และ ลวิฟ –รวมทั้งหมดแล้ว คือ 10 เมืองขนาดใหญ่ของฝ่ายยูเครน
การโจมตีของรัสเซียคราวนี้ใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (hypersonic ความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าขึ้นไป) และขีปนาวุธร่อน (cruise missile) หลายรุ่นหลายแบบ ซึ่งยิงออกมาจากทางอากาศ ตลอดจนโดรน เกรัน-2 (Geran-2) โดยจากรายงานกระแสต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงชี้ให้เห็นว่า ฝ่ายรัสเซียประสบความสำเร็จในการทำลายพวกโรงงานเครื่องกระสุนและโรงงานอาวุธจำนวนหนึ่ง รวมทั้งพวกศูนย์บังคับการสั่งการ และสนามบินหลายแห่ง
รายงานทั้งที่ออกมาจากยูเครน, รัสเซีย, และโปแลนด์ กล่าวว่า ในการโจมตีของรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคมนี้ ยูเครนสามารถสอยร่วงขีปนาวุธได้เพียงแค่ 18 ลูกจาก 51 ลูกที่ยิงเข้ามาโดยฝ่ายรัสเซีย
มีรายงานหลายกระแสระบุว่า ยูเครนพูดว่าตนไม่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก คินซัล (Kinzhal) [1] ได้แม้แต่ลูกเดียว เช่นเดียวกับที่ไม่อาจสอยขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) อิสคันเดอร์-เอ็ม บี (Iskander-M b) [2] ของรัสเซียได้เลย, รวมทั้งไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ในการขัดขวางขีปนาวุธใช้เชื้อเพลิงเหลว Kh-22 (Kh-22) [3] ที่เป็นขีปนาวุธต่อสู้เรือ ขณะที่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักจึงสามารถสอยขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศ เคเอช-101 (Kh-101) [4] ได้บ้างบางลูก
ยูเครนยังบอกด้วยว่า ตนสามารถสกัดทำลายโดรน เกรัน-2 ได้ทั้งหมด โดรนชนิดนี้คือ เวอร์ชั่นรัสเซียของโดรนกามิกาเซ ชาเฮด-136 (Shahed-136 suicide drone) ของอิหร่าน [5] นั่นเอง ทั้งนี้เคียฟอ้างว่าฝ่ายรัสเซียปล่อย เกรัน-2 มาเพียง 8 ลำ ถึงแม้มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า เมื่อใช้งานโดรนชนิดนี้ ย่อมต้องปล่อยออกมากันทีละเป็นจำนวนมาก
สหรัฐฯและพวกชาติพันธมิตรนาโต้ของสหรัฐฯ (รวมทั้งอีก 2 ประเทศที่ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนาโต้ ณ ขณะนั้น ได้แก่ สวีเดน และ ฟินแลนด์) ต่างได้จัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบต่างๆ ให้แก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
สหรัฐฯนั้นจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “แพทริออต” (Patriot) [6] โดยส่วนใหญ่แล้วน่าจะเป็นเวอร์ชั่น แพทริออต-2 (Pac-2) ถึงแม้วอชิงตันยังจัดส่งตัวขีปนาวุธสกัดกั้นของ Pac-3 ไปให้ด้วยเช่นกัน ขณะที่นอร์เวย์ ด้วยการร่วมมือเป็นหุ้นส่วนกับสหรัฐฯในเรื่องนี้ ได้จัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS (National Advanced Surface-to-Air Missile System ระบบขีปนาวุธแห่งชาติประเภทยิงจากพื้นผิวสู่อากาศระดับก้าวหน้า) [7] ของตนไปให้ กลุ่มชาติในยุโรปยังมีการจัดส่งระบบ IRIS-T [8]โดยเยอรมนี, อิตาลีส่ง แอสไพด์ (Aspide) [9] ของตน, ฝรั่งเศสกับอิตาลี จัดส่ง SAMP-T [10], แล้วเยอรมนียังจัดส่งระบบปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจร 2 ลำกล้องนำวิถีด้วยเรดาร์ แฟลคแพนเซอร์ เกพาร์ด (Flakpanzer Gepard) [11]
ขณะที่สวีเดนก็จัดส่งปืนต่อสู้อากาศยาน โบฟอร์ส (Bofors) [12] ไปให้ยูเครนเหมือนกัน
นอกจากนั้นแล้ว สหรัฐฯได้จัดส่งระบบต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่ายิง หรือ MANPADS ที่ดีเยี่ยมที่สุดของตน นั่นคือ เอฟไอเอ็ม-92 สติงเจอร์ (FIM-92 Stinger) [13] ขณะที่ยูเครนเองยังมีระบบ MANPADS อิกลา (Igla) [14] ของรัสเซียใช้งาน อย่างน้อยที่สุดก็ในช่วงแรกๆ ของสงครามครั้งนี้
ไม่เพียงแค่ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่จัดส่งให้โดยนาโต้ตลอดจนชาติตะวันตกอื่นๆ เท่านั้น ยูเครนยังได้ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 เอส (S-300S) [15] และ บุค-1เอ็ม (BUK-1M ) [16] ผลิตในรัสเซียที่ตนยังมีอยู่ในครอบครอง เอาไว้รอบๆ กรุงเคียฟ
สิ่งต่างๆ ที่ได้รับจากนาโต้เหล่านี้ ถือเป็นสมรรถนะด้านการป้องกันภัยทางอากาศที่แข็งแกร่งทีเดียว ถึงแม้ประกอบไปด้วยระบบที่แตกต่างกันหลากหลายซึ่งยังไม่สามารถบูรณาการเข้าด้วยกัน อีกทั้งจำนวนมากต้องกระจายออกไปติดตั้งในทั่วประเทศ เวลานี้ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารที่หนักแน่นใดๆ ออกมาในเรื่องที่ว่าระบบที่จัดหาให้โดยนาโต้เหล่านี้ยังเหลือปฏิบัติงานได้อยู่มากน้อยแค่ไหนภายหลังฝ่ายรัสเซียพยายามโจมตีเล่นงานพวกมันมาเป็นเดือนๆ ทั้งนี้ รายการรายละเอียดของการโจมตีของฝ่ายรัสเซียช่วงเร็วๆ นี้ รวมทั้งอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ สามารถค้นหาได้ในนิตยสาร์รายสัปดาห์ภาษาโปแลนด์ [17] “Mysl Polska” (Polish Thought)
ตามข้อมูลของนิตยสาร Mysl Polska ในส่วนของระบบแพทริออตที่มีอยู่ในยูเครนนั้น สหรัฐฯได้จัดส่งตัวขีปนาวุธสกัดกั้นของระบบนี้ให้แก่ยูเครนดังนี้:
PAC-2 ในเวอร์ชั่น GEM (Guidance Enhanced Missile) [18]
PAC-2 ในเวอร์ชั่น GEM-Cruise (GEM-C)
PAC-2 ในเวอร์ชั่น GEM-Tactical (GEM-T)
PAC-3 ในเวอร์ชั่น “economic” ของ the Cost Reduction Initiative (CRI)
PAC-3 เวอร์ชั่น Missile Segment Enhancement (MSE) [19]
ขีปนาวุธสกัดกั้นเหล่านี้ทั้งหมดถูกออกแบบมาให้สามารถสอยทำลายพวกขีปนาวุธทิ้งตัวทางยุทธวิธีและขีปนาวุธร่อน
หากใช้ข้อสมมุติฐานที่ว่าขีปนาวุธเหล่านี้ทำงานได้อย่างที่มีการโฆษณากันเอาไว้ ทำไมพวกมันจึงไม่สามารถสอยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก คินซัล ของรัสเซีย หรือแค่พวกขีปนาวุธซูเปอร์โซนิก (supersonic ความเร็วเหนือเสียง) ของรัสเซีย (อย่าง เคเอช-22, อิสคานเดอร์-เอ็ม, เคเอช-31พี) กระทั่งพวกขีปนาวุธร่อนความเร็วต่ำกว่าเสียงยิงจากอากาศแบบ เคเอช-101 ซึ่งฝ่ายรัสเซียยิงเข้ามา ก็ยังทำลายได้แค่เพียงสองในสาม?
คำตอบ อาจจะมีความเป็นไปได้ดังต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่งรวมอยู่ด้วย (โดยที่ไม่น่าจะเนื่องจากความเป็นไปได้ข้อใดข้อหนึ่งโดยเฉพาะ):
1. ยูเครนนั้นหมดเครื่องกระสุน นั่นก็คือตัวขีปนาวุธสกัดกั้น สำหรับใช้กับ แพทริออต, IRIS-T, SAMP-T และ NASAMS เสียแล้ว
2. รัสเซียได้ทำลายทรัพย์สินการป้องกันภัยทางอากาศที่ทรงความสำคัญยิ่งยวด รอบๆ สถานที่หลักๆ โดยเฉพาะในกรุงเคียฟ ไปแล้ว
3. รัสเซียสามารถก่อกวนเรดาร์ของ แพทริออต ตลอดจนเรดาร์อื่นๆ
4. ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนอยู่ในสภาพตึงมือ และรับไม่ไหวแล้วเมื่อมีการยิงขีปนาวุธอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้นเข้ามาอีก
ฝ่ายยูเครนเวลานี้กำลังหันมาบอกว่า พวกเขาสามารถยิงขีปนาวุธทุกลูกและโดรนทุกลำที่รัสเซียส่งเข้ามาได้ทั้งหมด ส่วนเรื่องความสำเร็จของรัสเซียในการโจมตีเหล่านี้คือข่าวเฟคนิวส์ที่ออกมาจากรัสเซีย [20] ทว่าคำกล่าวอ้างของยูเครนที่ว่านี่คือข่าวเท็จนั้น กลับถูกบ่อนทำลายความน่าเชื่อถืออย่างสำคัญจากภาพถ่ายจำนวนมากซึ่งแสดงให้เห็นความเสียหายอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังที่เกิดขึ้นกับกรุงเคียฟตลอดจนเมืองใหญ่อื่นๆ ของยูเครนจากการโจมตีของฝ่ายรัสเซีย
หากยกเอาไว้ก่อนยังไม่ต้องพูดถึงความเสียหายที่รัสเซียก่อให้เกิดขึ้นกับยูเครน สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนแน่นอนก็คือว่า เวลานี้ยูเครนกำลังดิ้นรนหนักต้องการได้ระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่ๆ และขีปนาวุธใหม่ๆ โดยขอร้องสหรัฐฯและนาโต้จัดส่งมาให้อย่างเร่งด่วน [21]
นอร์เวย์ได้ให้สัญญาเอาไว้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่าจะจัดส่งระบบ NASAMS ใหม่ๆ จำนวนหนึ่งไปให้ [22] นี่น่าจะเป็นการบ่งชี้ว่า NASAMS ที่ส่งไปให้ยูเครนก่อนหน้านี้ได้เกิดความเสียหายหรือถูกทำลายไปแล้ว หรือต้องการเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลมพื้นที่ป้องกันได้ดียิ่งขึ้น NASAMS นั้นเป็นระบบที่มีพิสัยทำการแค่ระยะใกล้ๆ โดยออกแบบมาสำหรับใช้ป้องกันเฉพาะจุด
คำมั่นสัญญาของฝ่ายนอร์เวย์มีขึ้นก่อนหน้าการถล่มโจมตีทางอากาศของรัสเซียในช่วงปลายเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม นอร์เวย์บอกว่าตารางเวลาในการจัดส่งจะใช้เวลาแค่สั้นๆ อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่าโชคร้ายที่ NASAMS ไม่ใช่คำตอบเลยเมื่อเผชิญกับขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile)
ระบบ NASAMS ใช้ขีปนาวุธยิงจากอากาศสู่อากาศ AMRAAM (advanced medium range พิสัยกลางขั้นก้าวหน้า) ของสหรัฐฯ ขีปนาวุธ AMRAAM ที่ยิงจากท่อยิงภาคพื้นดิน สามารถใช้การได้ดีในการต่อสู้พวกเครื่องบิน, โดรน, และขีปนาวุธร่อนบางชนิด ทว่ามันช้าเกินไปที่จะเข้าสกัดกั้นพวกขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างได้ผล นอกจากนั้นมันยังมีราคาแพง โดยขีปนาวุธนี้ 1 ลูกมีการตั้งราคาเอาไว้ที่ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์
เวลาเดียวกัน เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ได้เตือนยูเครน [23] ไว้แล้วว่า ตนไม่สามารถที่จะจัดหาจัดส่งขีปนาวุธสกัดกั้นของแพทริออตให้ได้อย่างสม่ำเสมอ “เนื่องจากราคาที่สูงมากของพวกมัน” คือ ราวๆ ลูกละ 2 ล้านดอลลาร์ (ยิ่งเป็นพวกเวอร์ชั่นก้าวหน้าด้วยแล้ว ราคาจะขึ้นไปถึง 4 ล้านดอลลาร์ทีเดียว) อย่างไรก็ตาม เรื่องค่าใช้จ่ายยังเป็นปัญหาน้อยกว่าเรื่องการจัดหาสินค้ามาจัดส่ง --และความเสี่ยงที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับที่อื่นๆ ถ้าหากต้องนำเอาขีปนาวุธแพทริออตส่วนใหญ่มาส่งให้แก่ยูเครนเสียแล้ว
สหรัฐฯและพวกชาติพันธมิตรกำลังเผชิญทางเลือกอันยากลำบากในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ การนำเอาพวกอาวุธที่สำรองไว้ไปใช้กันจนร่อยหรอลงเรื่อยๆ ทำให้นาโต้ตกอยู่ในสภาพอ่อนเปราะต่อการถูกโจมตี แล้วมันยังทำให้พวกเพื่อนมิตรและลูกค้าของอเมริกัน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย อยู่ในอาการมีทรัพยากรไม่พอเพียง ถ้าหากสงครามกับอิหร่านเกิดระเบิดขึ้นมา นอกจากนั้นมันยังคุกคามกองทหารปฏิบัติการนอกประเทศของสหรัฐฯที่อยู่ตามยุทธบริเวณต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการบ่อนทำลายการปกป้องคุ้มครองพวกฐานทัพต่างๆ ของสหรัฐฯซึ่งอยู่ในยุทธบริเวณเอเชีย-แปซิฟิก
ญี่ปุ่นนั้นกำลังถูกสหรัฐฯขอร้องให้จัดส่งขีปนาวุธแพทริออตที่ได้รับสิทธิผลิตขึ้นในแดนอาทิตย์อุทัยไปให้แก่ยูเครน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเครื่องบ่งชี้อีกอย่างหนึ่งว่าซัปพลายของสหรัฐฯเองนั้นตึงตัวขนาดไหน ญี่ปุ่นเพิ่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายการส่งออกของตนเพื่อเปิดทางให้แก่การจัดส่งขีปนาวุธแพทริออตไปต่างประเทศ ทว่าก็ได้ระบุอย่างเจาะจงแล้วว่าจะจัดส่งไปให้แก่สหรัฐฯเท่านั้น รวมทั้งยังไม่ได้ตกลงเห็นพ้อง [24] สำหรับการที่สหรัฐฯจะจัดส่งพวกมันต่อไปยังยูเครน
ในการโจมตีทางอากาศของฝ่ายรัสเซีย พวกเขามีวัตถุประสงค์ 3 ประการด้วยกัน แรกสุดคือการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน ทำให้การป้องกันเมืองใหญ่ๆ ตลอดจนสถานที่ตั้งทางทหารทรงความสำคัญยิ่งยวด กระทำได้ด้วยความยากลำบากมาก
ประการที่สองคือการเข้าโจมตีพวกโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรมทั้งที่เกี่ยวข้องกับทางทหารและทางพลเรือน นี่ก็รวมไปถึงการทำลายโรงไฟฟ้าและระบบจ่ายไฟฟ้า ตลอดจนการถล่มพวกโรงงาน ไม่ว่าทำจะหน้าที่ผลิต, ดัดแปลง, หรือซ่อมแซมอาวุธ
วัตถุประสงค์ข้อที่สาม คือการทำให้สาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกชนชั้นนำของยูเครน หันมาต่อต้านคัดค้านสงคราม ขณะที่ยูเครนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อกำราบปราบปรามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ทว่าเรื่องราวแบบนี้ก็กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอยู่ดี
เวลาเดียวกัน ยูเครนก็มีปัญหาเรื่องกำลังพลสำหรับกองทัพ [25] และต้องการที่จะเกณฑ์ทหารใหม่จำนวน 500,000 คน [26] การเกณฑ์ทหารจำนวนมากขนาดนี้จะต้องสร้างความแตกร้าวขึ้นในประชามติของชาวยูเครน ซึ่งเวลานี้ก็อยู่ในอาการปะติดปะต่อกันไม่ค่อยได้อยู่แล้ว รัฐสภายูเครนกำลังต้องต่อสู้ดิ้นรนหนักสำหรับการผ่านกฎหมายออกมาบังคับใช้ [27] โดยที่สำคัญเป็นเพราะมีเสียงคัดค้านมากขึ้นกับไอเดียเรื่องการเกณฑ์ทหารเพิ่มเติมจำนวนมากเช่นนี้
พิจารณาจากทัศนะมุมมองทางด้านสังคมและทางด้านการเมือง เป็นที่ชัดเจนว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นกับรัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบัน เมื่อวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเซเลนสกีสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมนี้ ทางเลือกของเขามีอยู่ว่า จะยังคงพยายามและปกครองประเทศต่อไปในฐานะผู้นำที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง (โดยมีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้นำที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม) หรือว่าจะหาทางให้ได้อยู่ต่อไปอีกสมัยหนึ่ง หรือว่าจะยอมลาออก
อัปเดต: อาร์ที (RT) สื่อทีวีและเว็บไซต์ข่าวของรัสเซียเพิ่งรายงานข่าวว่า ระบบ NASAMS จากนอร์เวย์ จะยังมาไม่ถึงมือยูเครนในเร็ววันนี้หรอก ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rt.com/news/590431-canada-ukraine-nasams-contract/
(ผู้แปลได้เก็บความรายงานข่าวชิ้นนี้ของ RT นำเสนอไว้ที่ด้านล่างของข้อเขียนชิ้นนี้แล้ว -ผู้แปล)
สตีเฟน ไบรเอนเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเจ้าหน้าที่ของคณะอนุกรรมการตะวันออกใกล้ แห่งคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมทั้งเคยเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมด้านนโยบายของสหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute
ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ใน Weapons and Strategy ที่เป็นบล็อกบนแพลตฟอร์ม Substack ของผู้เขียน
เชิงอรรถ
[1] https://www.reuters.com/world/europe/what-do-we-know-about-kinzhal-russias-hypersonic-missile-2023-05-16/
[2] https://missilethreat.csis.org/missile/ss-26-2/
[3] https://www.militarytoday.com/missiles/kh_22.htm
[4] https://missilethreat.csis.org/missile/kh-101-kh-102/
[5] https://www.rferl.org/a/32091316.html
[6] https://missilethreat.csis.org/system/patriot/
[7] https://www.rtx.com/raytheon/what-we-do/integrated-air-and-missile-defense/nasams
[8] https://www.dw.com/en/what-is-germanys-iris-t-air-defense-system/a-63414859
[9] https://www.mbda-systems.com/product/aspide-2000/
[10] https://www.mbda-systems.com/product/aster-30-sampt/
[11]https://www.forbes.com/sites/davidaxe/2023/09/08/ukraines-nearly-50-year-old-gepards-are-still-the-best-air-defense-guns-in-the-world/?sh=2779d6816f44
[12]https://www.saab.com/newsroom/stories/2020/feburary/the-bofors-gun-that-revolutionised-air-defences
[13] https://missiledefenseadvocacy.org/defense-systems/fim-92-stinger/
[14] https://www.militarytoday.com/missiles/igla.htm
[15] https://missilethreat.csis.org/defsys/s-300/
[16]https://armyrecognition.com/russia_russian_missile_system_vehicle_uk/9k37_buk-m1_sa-11_gadfly_technical_data_sheet_specifications_information_description_pictures_photos.html
[17]https://web.archive.org/web/20240103072757/https://myslpolska.info/2024/01/02/rosyjskie-uderzenie-na-kijow/
[18] https://www.rtx.com/raytheon/what-we-do/integrated-air-and-missile-defense/guidance-enhanced-missile
[19]https://www.lockheedmartin.com/content/dam/lockheed-martin/mfc/pc/meads/mfc-pac-3-mse-pc.pdf
[20] https://www.ukrinform.net/rubric-factcheck/3809282-fake-from-news-site-mysl-polska-russia-struck-kyivs-military-infrastructure-with-kinzhals.html#:~:text=Mysl%20Polska%20has%20repeatedly%20been,different%20from%20Russian%20propaganda%20platforms.
[21] https://www.politico.eu/article/ukraine-foreign-minister-dmytro-kuleba-missiles-air-defense-nato-russia-war/
[22]https://www.defensenews.com/global/europe/2023/12/13/norway-to-provide-more-air-defense-systems-to-ukraine/
[23] https://news.yahoo.com/us-warns-limited-supply-patriot-173500041.html
[24] https://www.politico.eu/article/ukraine-foreign-minister-dmytro-kuleba-missiles-air-defense-nato-russia-war/
[25] https://www.thedailybeast.com/ukraine-fears-military-recruitment-crisis-in-the-war-against-russias-army
[26] https://www.ft.com/content/6ba4ae1c-005f-4242-80c2-e1e7f3f7bd88
[27] https://tass.com/world/1730331
ยังไม่มีกำหนดเวลาสำหรับการจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS ให้ยูเครน -สื่อแคนาดารายงาน
โดย อาร์ที
No timeline for delivery of air-defense system to Ukraine – Canadian media
By RT
11/01/2024
แคนาดายืนยันว่าได้โอนเงินจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ไปให้แก่สหรัฐฯหลายเดือนแล้ว สำหรับการผลิตระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS เพื่อจัดส่งไปให้ยูเครน แต่จวบจนกระทั่งบัดนี้ เรื่องนี้กลับยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน
ระบบป้องกันภัยทางอากาศผลิตโดยสหรัฐฯ-นอร์เวย์ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากแคนาดา ซึ่งทางการกรุงออตตาวาให้คำมั่นสัญญาเมื่อ 1 ปีมาแล้วที่จะจัดส่งให้แก่ยูเครน ยังคงไม่ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาเลย เครือข่ายโทรทัศน์ ซีทีวี นิวส์ (CTV News) ของแคนาดารายงานในสัปดาห์นี้ การอัปเดตนี้เกิดขึ้นขณะที่กองทัพยูเครนเน้นย้ำว่าประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนระบบต่อสู้อากาศยานตลอดจนพวกขีปนาวุธสกัดกั้นที่จะใช้กับระบบเช่นนี้
เคียฟกำลังคาดหวังว่าพวกผู้บริจาคชาวต่างชาติจะจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิตริ คูเลบา (Dmitry Kuleba) แถลงว่า ตัวจรวดสกัดกั้นสำหรับใช้กับระบบซึ่งผลิตจากตะวันตกเหล่านี้ คือ “เรื่องลำดับความสำคัญสูงสุด ที่จะต้องแก้ไขให้เสร็จสิ้นกันตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่วันพรุ่งนี้”
รัฐบาลแคนาดาของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ให้คำมั่นสัญญาตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2023 ที่จะให้เงินทุนสนับสนุนการผลิต ระบบขีปนาวุธแห่งชาติประเภทยิงจากพื้นผิวสู่อากาศระดับก้าวหน้า หรือ NASAMS ให้แก่ยูเครน แล้วเพื่อตัดทอนความล่าช้าของการต้องปฏิบัติตามระเบียบราชการ ออตตาวาตัดสินใจที่จะจ่ายเงินตรงไปที่สหรัฐฯเลย แทนที่จะดำเนินการซื้อระบบอาวุธนี้ด้วยตนเอง มีรายงานว่า เงินสนับสนุนที่มีมูลค่า 406 ล้านดอลลาร์แคนาดา (304 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ได้ถูกโอนไปให้สหรัฐฯตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ซีทีวีนิวส์ ได้ติดต่อไปยัง คองสเบิร์ก (Kongsberg) บริษัทด้านกลาโหมที่ตั้งฐานอยู่ในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมผลิต NASAMS กับบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกัน อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์เปอเรชั่น (RTX Corporation) (เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า เรย์ธีออน Raytheon) และสอบถามเกี่ยวกับความคืบหน้าของการผลิตระบบดังกล่าวนี้ โฆษกผู้หนึ่งตอบว่าบริษัทยังไม่ได้รับสัญญาข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
“ทางเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจด้านการจัดซื้อ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับคำสั่งจัดซื้อในรายการบริจาคของแคนาดานี้กันอยู่” อีวาร์ ซีเมนเสน (Ivar Simensen) รองประธานบริหารฝ่ายการสื่อสารของคองสเบิร์ก เขียนตอบกลับมาเช่นนี้
ตามเอกสารข้อมูลเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รายงานเอาไว้ว่า ข้อตกลงมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สำหรับ NASAMS ที่จะจัดส่งให้ยูเครนนี้ ได้มีการลงนามกันในเดือนพฤศจิกายน 2022
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดส่งนี้ ได้ถูกหยิบยกขึ้นมารายงานข่าวก่อนหน้านี้ในเดือนนี้โดยหนังสือพิมพ์ออตตาวาซิติเซน (Ottawa Citizen newspaper) ซึ่งอ้างอิงคำแถลงของกระทรวงกลาโหม (Department of National Defense) แคนาดา ที่ระบุว่า “รายละเอียดต่างๆ ของแผนการ รวมทั้งตารางเวลาในการจัดส่ง ยังคงอยู่ระหว่างการหารือกับสหรัฐฯ”
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ชี้ว่า คำแถลงนี้ช่างตรงกันข้ามกับคำแถลงที่ออกมาจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาก่อนหน้านี้ รวมทั้งจาก แอนิตา อนันด์ (Anita Anand) รัฐมนตรีกลาโหมในเวลานั้น ซึ่งบอกกับสื่อมวลชนแคนาดาในเดือนเมษายนปีที่แล้วว่า NASAMS “กำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง” ไปยังยูเครนแล้ว และจะไปถึง “โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”
รายงานข่าวชิ้นนี้ยังพูดถึงเรื่องความช่วยเหลือทางทหารที่แคนาดาจัดหาให้แก่ยูเครนโดยภาพรวม โดยระบุว่า “การที่จะได้รายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องลำบากเหลือเกิน” รายงานยังยกตัวอย่างคำแถลงของเจ้าหน้าที่ทางทหารหลายคนซึ่งขัดแย้งกันเอง เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายในการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพบกแคนดา เพื่อเข้ามาแทนที่ส่วนซึ่งได้บริจาคไปให้แก่ยูเครน